บัตรซุยกะ (Suica) ช่วยให้การเที่ยวในญี่ปุ่นสะดวกขึ้นกว่าเดิม 2018/06/02 บัตรซุยกะ (Suica) ช่วยให้การเที่ยวในญี่ปุ่นสะดวกขึ้นกว่าเดิม 2018/06/02 Credit: ผู้เขียน บัตรซุยกะ (Suica) คืออะไร? ทำไมต้องใช้? ไม่ใช้ไม่ได้เหรอ? หลายคนอาจจะสงสัยนะคะ เอาเป็นว่าเรามาคุยกันแบบเพื่อนแนะนำเพื่อนง่ายๆ กันเองๆ หลายคนอาจจะเคยเห็นบัตรซุยกะ (Suica) รูปร่างหน้าตาสีเขียวมีเพนกวินแบบนี้ ซึ่งเป็นบัตรเติมเงิน Pre-paid IC Card ของ JR East ที่จะช่วยให้เราขึ้นรถไฟ รถเมล์ รถบัส และช้อปปิ้งในญี่ปุ่นได้สะดวกมากยิ่งขึ้น จะเติมเงินในบัตรล่วงหน้าก่อนแล้วก็แตะบัตรตื๊ดๆ เอาได้เลยค่ะ ถ้าเงินในบัตรหมดก็สามารถเติมเงินได้สะดวกมาก ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นสถานีรถไฟ ร้านคอมบินิ 7-ELEVEN และร้านสะดวกซื้อต่างๆ Credit: ผู้เขียน การซื้อบัตรซุยกะ (Suica) ที่สนามบินนาริตะ Terminal 2 ให้ออกประตูตามป้ายไปขึ้นรถไฟ (Train) นะคะ Credit: ผู้เขียน ก่อนหน้าที่จะผ่านเข้าประตูไปขึ้นรถไฟ เราจะเห็นตู้ขายบัตรซุยกะเป็นตู้อยู่ด้านขวามือค่ะ (ตู้ขายตั๋วรถไฟ) Credit: ผู้เขียน เราสามารถซื้อได้ด้วยตัวเอง ตรงนี้เลยนะคะ เป็นตู้อัตโนมัติ ไม่สามารถซื้อบัตรกับพนักงานที่เคาน์เตอร์ขายบัตร JR นะคะ (อัพเดทล่าสุดเราไปมาเมื่อเมษายน 2018) อย่างที่บอก บัตรซุยกะจะต้องซื้อจากตู้ขายเท่านั้น ไม่สามารถซื้อตามเคาน์เตอร์ได้เหมือนแต่ก่อนนะคะ มาดูวิธีซื้อง่ายๆ (เพราะกดเลือกเปลี่ยนเป็น English ที่มุมขวาได้ก่อนทำรายการเลย) ช่องบัตรซุยกะ (Suica) คือวงกลมสีเขียว โดยที่เราสามารถเติมเงินได้ตั้งแต่ 1,000 2,000 3,000 4,000 5,000 และ 10,000 เยน Credit: ผู้เขียน ถ้าเงินในบัตรหมดก็สามารถชาร์จเติมเงินได้ โดยไปที่ตู้ขายตั๋ว (ที่สถานีรถไฟไหนก็ได้ค่ะ) ของเราซื้อบัตรซุยกะที่สนามบินนาริตะ แล้วมาเติมเงินที่สถานีทาวะระมาจิ (Tawaramachi) สาย Ginza Credit: ผู้เขียน สอดบัตรเข้าไปนะคะ Credit: ผู้เขียน เลือกคำว่า Charge Credit: ผู้เขียน แล้วก็เลือกจำนวนเงิน อย่างกรณีนี้ เราต้องการเติมแค่ 1,000 เยน ก็เลือกปุ่ม 1,000 เยนค่ะ (แต่เราแนะนำให้ซื้อตอนแรกเปิดบัตรเลยประมาณ 5,000 เยน สำหรับเที่ยวในโตเกียวและใกล้ๆ ประมาณ 3-4 วัน น่าจะกำลังดีค่ะ) Credit: ผู้เขียน แล้วก็สอดแบงค์เข้าไปตามจำนวนที่เลือก Credit: ผู้เขียน เติม 1,000 เยน ก็สอดแบงค์พันเยนไป หรือแบงค์ห้าพัน หรือแบงค์หมื่นก็ได้ เครื่องจะทอนออกมาเองค่ะ Credit: ผู้เขียน ยืนรอรับบัตรออกมา แค่นี้ก็เป็นอันเรียบร้อย สำหรับบัตรซุยกะ (Suica) ก็มีการเก็บค่ามัดจำบัตรล่วงหน้าไว้ก่อน โดยเทคนิคคือเราควรจะพยายามใช้เงินในบัตรซุยกะ (Suica) ให้หมดนะคะ และเมื่อใช้เสร็จแล้วก่อนบินกลับบ้านเราก็สามารถคืนบัตรซุยกะได้ที่ตู้ ตรงข้ามที่เราซื้อนั่นล่ะค่ะ (ใกล้ๆ กันจะมีตู้สำหรับคืนบัตร) แต่ถ้าเหลือต่ำกว่า 500 เยน (ถ้าจำไม่ผิดนะคะ) ก็จะโดนยึดบัตร+เงินที่เหลือในบัตรคืนไปเลยนะคะ วิธีการใช้: ตอนขึ้นรถไฟ ก็แค่นำบัตรมาตื๊ด เราก็ดูจำนวนเงินที่ใช้ไปตรงหน้าจอ พอประตูเปิดก็เข้าไปเรียบร้อย พอตอนออกก็ตื๊ดอีกทีนึงค่ะ จะเห็นยอดเงินคงเหลือปรากฏหน้าจอ ตามร้านค้าก็เช่นกันนะคะ ใช้ได้แทนเงินสดเลย คือถ้าเห็นสัญลักษณ์ซุยกะ ก็สามารถนำบัตรออกมาสัมผัสจอจ่ายเงินที่เครื่องได้เลยค่ะ สะดวกมากๆ หรือที่ตู้กดเครื่องดื่มอัตโนมัติ ก็สามารถใช้ได้เช่นกันนะคะถ้ามีสัญลักษณ์ซุยกะ (Suica) แบบนี้ Credit: ผู้เขียน สรุปง่ายๆ ว่า บัตรซุยกะ (Suica) เป็นบัตรที่เรารู้สึกว่าเป็นบัตรสารพัดนึก ช่วยให้การเที่ยวญี่ปุ่น (ในโตเกียว) สะดวกและง่ายขึ้นเยอะเลยค่ะ ไม่ว่าจะซื้อเครื่องดื่ม ซื้อขนม ตามร้านคอมบินิ ร้านกาแฟชิลๆ หรือช็อปปิ้งในเซเว่นอีเลฟเว่นแบบรีบๆ หยอดตู้ล็อคเกอร์ (Coin Locker) หรือขึ้นแท็กซี่ก็ได้นะคะ รถไฟ รถบัส ก็สามารถใช้บัตรเดียวได้หมด ข้อดีคือเราไม่ต้องคอยมาหยิบเงินหรือหยอดเหรียญให้วุ่นวายนะคะ บางทีหากระเป๋าตังค์ไม่เจอหรือควักเหรียญหล่น เหรียญผิดประเภท ไม่ได้ใส่แว่นมองไม่ออกเหรียญกี่เยน วุ่นวายเสียเวลา แล้วจะให้ซื้อตั๋วรถไฟทุกสถานีก็ไม่ใช่หรือเปล่า…เราต้องหาวิธีการที่ช่วยย่นระยะเวลาเพื่อประหยัดเวลาท่องเที่ยวของเรานะคะ แนะนำเลยค่ะ บัตรซุยกะต้องมีในทุกทริปโตเกียว (และจังหวัดใกล้เคียง) สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติม (ว่าใช้ในพื้นที่ใดได้บ้าง) ได้ที่ เว็บไซต์ภาษาอังกฤษ: http://www.jreast.co.jp/e/ เว็บไซต์ภาษาญี่ปุ่น: http://www.jreast.co.jp/suica/ บทความที่เกี่ยวข้อง จากสนามบินนาริตะไปโตเกียวด้วยรถไฟ Skyliner (Keisei) http://komachijp.com/culture/13052 ดูบทความที่เกี่ยวข้อง About the author RiangSupod ดูบทความผู้เขียน เลขาสาวผู้ชื่นชอบการท่องเที่ยว อาหาร และวัฒนธรรมญี่ปุ่น จบปริญญาตรีจากคณะอักษรศาสตร์-ปริญญาโทรัฐศาสตร์ จุฬาฯ เคยอาศัยอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น และได้เดินทางไปทำงานและไปท่องเที่ยวที่ญี่ปุ่นบ่อยๆ ทำให้มีเพื่อนทั้งชาวไทยและชาวญี่ปุ่นทุกเพศทุกวัย ปัจจุบันเป็นเลขานุการผู้บริหารระดับสูงของรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง คิดถูกใจ Komachi JAPAN ถูกใจ แชร์เลย
บัตรซุยกะ (Suica) คืออะไร? ทำไมต้องใช้? ไม่ใช้ไม่ได้เหรอ? หลายคนอาจจะสงสัยนะคะ เอาเป็นว่าเรามาคุยกันแบบเพื่อนแนะนำเพื่อนง่ายๆ กันเองๆ หลายคนอาจจะเคยเห็นบัตรซุยกะ (Suica) รูปร่างหน้าตาสีเขียวมีเพนกวินแบบนี้ ซึ่งเป็นบัตรเติมเงิน Pre-paid IC Card ของ JR East ที่จะช่วยให้เราขึ้นรถไฟ รถเมล์ รถบัส และช้อปปิ้งในญี่ปุ่นได้สะดวกมากยิ่งขึ้น จะเติมเงินในบัตรล่วงหน้าก่อนแล้วก็แตะบัตรตื๊ดๆ เอาได้เลยค่ะ ถ้าเงินในบัตรหมดก็สามารถเติมเงินได้สะดวกมาก ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นสถานีรถไฟ ร้านคอมบินิ 7-ELEVEN และร้านสะดวกซื้อต่างๆ
การซื้อบัตรซุยกะ (Suica) ที่สนามบินนาริตะ Terminal 2 ให้ออกประตูตามป้ายไปขึ้นรถไฟ (Train) นะคะ
ก่อนหน้าที่จะผ่านเข้าประตูไปขึ้นรถไฟ เราจะเห็นตู้ขายบัตรซุยกะเป็นตู้อยู่ด้านขวามือค่ะ (ตู้ขายตั๋วรถไฟ)
เราสามารถซื้อได้ด้วยตัวเอง ตรงนี้เลยนะคะ เป็นตู้อัตโนมัติ ไม่สามารถซื้อบัตรกับพนักงานที่เคาน์เตอร์ขายบัตร JR นะคะ (อัพเดทล่าสุดเราไปมาเมื่อเมษายน 2018)
อย่างที่บอก บัตรซุยกะจะต้องซื้อจากตู้ขายเท่านั้น ไม่สามารถซื้อตามเคาน์เตอร์ได้เหมือนแต่ก่อนนะคะ มาดูวิธีซื้อง่ายๆ (เพราะกดเลือกเปลี่ยนเป็น English ที่มุมขวาได้ก่อนทำรายการเลย) ช่องบัตรซุยกะ (Suica) คือวงกลมสีเขียว โดยที่เราสามารถเติมเงินได้ตั้งแต่ 1,000 2,000 3,000 4,000 5,000 และ 10,000 เยน
ถ้าเงินในบัตรหมดก็สามารถชาร์จเติมเงินได้ โดยไปที่ตู้ขายตั๋ว (ที่สถานีรถไฟไหนก็ได้ค่ะ) ของเราซื้อบัตรซุยกะที่สนามบินนาริตะ แล้วมาเติมเงินที่สถานีทาวะระมาจิ (Tawaramachi) สาย Ginza
สอดบัตรเข้าไปนะคะ
เลือกคำว่า Charge
แล้วก็เลือกจำนวนเงิน อย่างกรณีนี้ เราต้องการเติมแค่ 1,000 เยน ก็เลือกปุ่ม 1,000 เยนค่ะ (แต่เราแนะนำให้ซื้อตอนแรกเปิดบัตรเลยประมาณ 5,000 เยน สำหรับเที่ยวในโตเกียวและใกล้ๆ ประมาณ 3-4 วัน น่าจะกำลังดีค่ะ)
แล้วก็สอดแบงค์เข้าไปตามจำนวนที่เลือก
เติม 1,000 เยน ก็สอดแบงค์พันเยนไป หรือแบงค์ห้าพัน หรือแบงค์หมื่นก็ได้ เครื่องจะทอนออกมาเองค่ะ
ยืนรอรับบัตรออกมา แค่นี้ก็เป็นอันเรียบร้อย
สำหรับบัตรซุยกะ (Suica) ก็มีการเก็บค่ามัดจำบัตรล่วงหน้าไว้ก่อน โดยเทคนิคคือเราควรจะพยายามใช้เงินในบัตรซุยกะ (Suica) ให้หมดนะคะ และเมื่อใช้เสร็จแล้วก่อนบินกลับบ้านเราก็สามารถคืนบัตรซุยกะได้ที่ตู้ ตรงข้ามที่เราซื้อนั่นล่ะค่ะ (ใกล้ๆ กันจะมีตู้สำหรับคืนบัตร) แต่ถ้าเหลือต่ำกว่า 500 เยน (ถ้าจำไม่ผิดนะคะ) ก็จะโดนยึดบัตร+เงินที่เหลือในบัตรคืนไปเลยนะคะ
วิธีการใช้: ตอนขึ้นรถไฟ ก็แค่นำบัตรมาตื๊ด เราก็ดูจำนวนเงินที่ใช้ไปตรงหน้าจอ พอประตูเปิดก็เข้าไปเรียบร้อย พอตอนออกก็ตื๊ดอีกทีนึงค่ะ จะเห็นยอดเงินคงเหลือปรากฏหน้าจอ
ตามร้านค้าก็เช่นกันนะคะ ใช้ได้แทนเงินสดเลย คือถ้าเห็นสัญลักษณ์ซุยกะ ก็สามารถนำบัตรออกมาสัมผัสจอจ่ายเงินที่เครื่องได้เลยค่ะ สะดวกมากๆ หรือที่ตู้กดเครื่องดื่มอัตโนมัติ ก็สามารถใช้ได้เช่นกันนะคะถ้ามีสัญลักษณ์ซุยกะ (Suica) แบบนี้
สรุปง่ายๆ ว่า บัตรซุยกะ (Suica) เป็นบัตรที่เรารู้สึกว่าเป็นบัตรสารพัดนึก ช่วยให้การเที่ยวญี่ปุ่น (ในโตเกียว) สะดวกและง่ายขึ้นเยอะเลยค่ะ ไม่ว่าจะซื้อเครื่องดื่ม ซื้อขนม ตามร้านคอมบินิ ร้านกาแฟชิลๆ หรือช็อปปิ้งในเซเว่นอีเลฟเว่นแบบรีบๆ หยอดตู้ล็อคเกอร์ (Coin Locker) หรือขึ้นแท็กซี่ก็ได้นะคะ รถไฟ รถบัส ก็สามารถใช้บัตรเดียวได้หมด ข้อดีคือเราไม่ต้องคอยมาหยิบเงินหรือหยอดเหรียญให้วุ่นวายนะคะ บางทีหากระเป๋าตังค์ไม่เจอหรือควักเหรียญหล่น เหรียญผิดประเภท ไม่ได้ใส่แว่นมองไม่ออกเหรียญกี่เยน วุ่นวายเสียเวลา แล้วจะให้ซื้อตั๋วรถไฟทุกสถานีก็ไม่ใช่หรือเปล่า…เราต้องหาวิธีการที่ช่วยย่นระยะเวลาเพื่อประหยัดเวลาท่องเที่ยวของเรานะคะ แนะนำเลยค่ะ บัตรซุยกะต้องมีในทุกทริปโตเกียว (และจังหวัดใกล้เคียง) สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติม (ว่าใช้ในพื้นที่ใดได้บ้าง) ได้ที่
เว็บไซต์ภาษาอังกฤษ:
เว็บไซต์ภาษาญี่ปุ่น:
บทความที่เกี่ยวข้อง
About the author
RiangSupod
เลขาสาวผู้ชื่นชอบการท่องเที่ยว อาหาร และวัฒนธรรมญี่ปุ่น จบปริญญาตรีจากคณะอักษรศาสตร์-ปริญญาโทรัฐศาสตร์ จุฬาฯ
เคยอาศัยอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น และได้เดินทางไปทำงานและไปท่องเที่ยวที่ญี่ปุ่นบ่อยๆ ทำให้มีเพื่อนทั้งชาวไทยและชาวญี่ปุ่นทุกเพศทุกวัย
ปัจจุบันเป็นเลขานุการผู้บริหารระดับสูงของรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง
คิดถูกใจ