กว่าจะรวบรวมข้อมูลของเล่นของฝากจากญี่ปุ่นสำหรับคุณลูกชาย ต้องใช้เวลากว่า 3 ปี ถึงจะรวบรวม Data มาได้ ฮ่าๆๆ เพราะบางทีซื้อมาแล้วก็ไม่ได้ใช้ หรือไม่ถูกใจเจ้าตัวน้อยบ้าง เราจึงขอถือโอกาสแชร์ประสบการณ์ตรง ที่ได้จากการไปเที่ยวญี่ปุ่นและซื้อของฝากมาฝากลูกชายในวัย 1-3 ขวบ เพื่อเป็นไอเดียสำหรับเพื่อนๆ ที่มีลูกชายเล็กๆ ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงประมาณ 5-6 ขวบได้เลย (สำหรับลูกสาวนั้น…แน่นอนว่าจะหาข้อมูลมาให้ในลำดับต่อไปนะคะ ไม่ต้องน้อยใจ ของลูกสาวช้อปปิ้งง่ายและมันส์กว่าอีก) รับรองว่าซื้อมาถูกใจและได้ใช้คุ้มค่ากับการหอบหิ้วข้ามน้ำข้ามทะเลมาจากญี่ปุ่นเลยค่ะ

1. รองเท้ามิกิเฮ้าส์ (MIKIHOUSE) : เป็นอีกหนึ่ง Item สำหรับคุณหนูๆที่พลาดไม่ได้ สำหรับรองเท้าเด็กแบรนด์ญี่ปุ่นแท้ ในไทยขายแพงจนเกินเอื้อม แต่ถ้าไปเที่ยวญี่ปุ่น ราคาน่ารักซื้อได้ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นรองเท้ามิกิเฮ้าส์ จะเป็นรองเท้า Onitsuka Tiger ของเด็กนี้ต้องบอกว่าน่ารักแบบสุดๆ โดยเฉพาะเด็กผู้ชาย รองเท้าผ้าใบจะเป็นอะไรที่ใส่ได้กับทุกชุดค่ะ แล้วรองเท้าเด็กในญี่ปุ่นมีคุณภาพดีมากค่ะ พื้นรองเท้าจะรองรับสรีระเท้าเด็กโดยเฉพาะ จะวิ่งจะเดินก็ไม่เจ็บ คุณภาพดี วัสดุดี ทนทานด้วย

งบประมาณ : ประมาณ 5,000 – 10,000 เยน

แหล่งซื้อ: ร้านรองเท้าทั่วไป / ห้างอิออน / ห้างโตคิวพลาซ่า / Outlet / Babies R Us

2. ถุงเท้าลายรถไฟญี่ปุ่น : สำหรับคุณลูกชายเมื่อได้รองเท้าแล้ว ก็ต้องได้ถุงเท้าลายน่ารักๆ ไอคอนของญี่ปุ่นอย่างรถไฟ คุณภาพดี ลายเท่ห์ เป็นอีก Item ที่น่าซื้อมาฝากเป็นลูกชายค่ะ เพราะลูกชายจะมีกิจกรรมวิ่งเล่น กระโดด ใส่รองเท้าผ้าใบก็จะต้องสวมถุงเท้าตลอด ได้ใช้ไปนานๆ ไม่ขาดง่าย ไม่รัด ไม่ทำให้เจ็บ

งบประมาณ : 500-600 เยน

แหล่งซื้อ: ห้างสรรพสินค้าทั่วไป / ร้าน TRAINAIR / ร้านชิมามุระ / ห้าง Aeon

3.ของเล่นอันปังแมน (Anpanman) : อันดับ 1 ในประเทศญี่ปุ่น นอกจากการ์ตูนโดเรม่อนที่คนไทยเรารู้จักกันดี การ์ตูนอังปังแมน ขนมปังอบหน้ากลมๆ แบบนี้ เป็นอีกตัวการ์ตูนยอดนิยมในประเทศญี่ปุ่นค่ะ จะบอกว่าที่ญี่ปุ่นหาง่ายและ ฮิตมากกว่าโดเรมอนด้วยซ้ำไป ของเล่นคุณภาพสูงดีไซน์เยี่ยมยอด เราชื่นชอบเป็นพิเศษในความคิดสร้างสรรค์ของของเล่นอันปังแมนนะคะเรื่องคุณภาพไม่ต้องพูดถึง จะหล่น จะขว้าง หรืออมใส่ปาก ก็ปลอดภัยแน่นอนค่ะ สำหรับเด็ก 3-5 ขวบเราแนะนำของเล่นอันปังแมนเสริมพัฒนาการได้ดีด้วย

งบประมาณ : 300 เยนขึ้นไป

แหล่งซื้อ: ห้างสรรพสินค้าทั่วไป / Toy R US / ถนนนากามิเสะ

4. TOMICA : รถโมเดลจำลองขนาดเล็ก ที่มีสัดส่วนเหมือนจริง คุณภาพและสีปลอดภัยสำหรับเด็ก เหมาะสำหรับเป็นของฝากลูกชาย แทบจะทุกบ้านจะต้องมีรถของเล่นแบบนี้ โดยเฉพาะถ้าเป็นรถรุ่นที่มีขายในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้นหรือเป็นรถที่เห็นตามท้องถนนในญี่ปุ่นที่เดียวในโลก เช่น รถบรรทุก รถขนส่งสินค้าแมวดำ รถแข่งรุ่นเท่ๆ จะเป็นอะไรที่เลิศมาก

งบประมาณ : 400 เยน ขึ้นไป

แหล่งซื้อ : ร้านของเล่น / TOMICA Shop / ห้างดองกี้

5. LEGO / LEGO duplo : เลโก้เป็นของเล่นที่ดีที่สุดในโลก เขาว่ากันอย่างนั้นนะคะ…สำหรับเด็กแล้ว พัฒนาการทางด้านสมองและความคิดสร้างสรรค์เป็นสิ่งสำคัญมากที่สุด เแม้ว่าเลโก้จะไม่ได้มีต้นกำเนิดจากประเทศญี่ปุ่น แต่ว่าถ้าซื้อจากญี่ปุ่นแล้วเรา จะได้รุ่นที่มีความน่ารักและราคาถูกกว่าประเทศไทยค่ะ

งบประมาณ : 1,000-5,000 เยน

แหล่งซื้อ : ร้านของเล่น / LEGO CLICK BRICK / TOY R US

6. ตุ๊กตาซานริโอ้ (SANRIO) : หรืออะไรก็ได้ที่เป็นสัญลักษณ์ของญี่ปุ่น เช่น กบเคโระ ภูเขาไฟฟูจิ ซูโม่ หอคอยโตเกียว หรือสกายทรี เป็นต้น ถือว่าเป็นอะไรที่น่ารักน่าสะสมค่ะ เหมาะสำหรับคุณลูกชาย ยิ่งถ้าเป็นหมอนเล็กๆ สามารถหมุนหรือกอดได้ ก็อาจจะเป็นตุ๊กตาที่ถือติดตัวไปไหนมาไหนไปเลยก็ได้ค่ะ ลูกชายก็ชอบตุ๊กตานะคะ…ผู้ชายอ่อนโยน

งบประมาณ : 1,000 เยนขึ้นไป

แหล่งซื้อ : แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ / ห้างสรรพสินค้า

7. ช็อคโกแลตอังปังแมน (Anpanman Chocolate Lollipop) : ช็อคโกแลตรูปการ์ตูนอังปังแมนและผองเพื่อนแสนน่ารัก เป็นอะไรที่น่ารักและไม่แพง ทานเล่น ชอบแน่ๆ ถึงแม้ว่าเด็กๆ อาจจะยังไม่เคยได้ดูการ์ตูนอันปังแมนเลยก็ตาม

งบประมาณ : 100 เยน

แหล่งซื้อ: ร้านคอมบินิ / ซุปเปอร์มาร์เก็ต / ร้านดองกี้โฮเต้

8. กาชาปองสัตว์ต่างๆ : กาชาปองก็คือตู้หมุนของเล่น/ของสะสมขนาดเล็ก หยอดเหรียญหมุนออกมาค่ะ เจ้าไข่กลมๆ ที่ภายในบรรจุโมเดลหรือพวงกุญแจเล็กๆ เอาไว้ ก็จะไหลออกมา เป็นของฝากที่ดีสำหรับคุณลูกชาย อาจจะเหมาะสำหรับเด็กวัยรุ่นสักหน่อยนะคะ ถ้าเป็นเด็กเล็กก็น่าจะเป็นกาชาปองรูปสัตว์ต่างๆ ที่พอจะเรียนรู้และรู้จักได้ แต่ถ้าเป็นเด็กโตหน่อยเริ่มรู้เรื่อง ก็ต้องถามว่าเขาชอบอะไร ลองสังเกตแล้วก็หมุนมาฝาก เสน่ห์อีกอย่างของตัวชาปองก็คือเราไม่สามารถเลือกได้ว่าเราจะได้ลวดลายไหน ใน Set นั้น ก็อาจจะได้ซ้ำๆ กันมา หรือไม่ซ้ำก็ลองดูนะคะ ตู้กาชาปองจะมีวางอยู่ทั่วไปในญี่ปุ่นเลยค่ะ แน่ใจว่ามีทุกที่ให้เราเสียเงินนะคะ ไม่ต้องกังวลว่าจะหาไม่เจอ แต่อาจจะไม่ได้การ์ตูนหรืออะนิเมะที่เราชื่นชอบ แหล่งใหญ่ๆ หายกๆก็ต้องที่ย่านอากิฮาบาระเลยค่ะ

งบประมาณ : 200 – 500 เยน

แหล่งซื้อ : ห้างสรรพสินค้า / โตคิวแฮนด์ / สถานีรถไฟต่างๆ

9. เครื่องบินจำลอง : สำหรับเด็กน้อยก็น่าจะเป็นเครื่องบินเป่าลมแบบนี้ เล่นในน้ำก็ได้ เล่นบนบกก็ได้ เด็กผู้ชายนอกจากจะชอบรถยนต์+รถไฟแล้ว ก็น่าจะเป็นเครื่องบินในราคาที่ติดอันดับต้นๆ สิ่งของโปรดปราน แต่ถ้าเป็นลูกชายที่โตขึ้นมาหน่อยพอรู้เรื่อง ก็อาจจะซื้อเครื่องบินจำลองโมเดลขนาดเล็ก จัดไปค่ะ

งบประมาณ : 1,000 เยน

แหล่งซื้อ: ร้านในสนามบิน

10. รอยส์ช็อกโกแลต : โดยเฉพาะรสนมเป็นที่ชื่นชอบของเด็กๆ ทุกคนค่ะ โดยเฉพาะในวัยกำลังกินกำลังนอน มีขายตามร้านขายของที่ระลึกและสนามบินมีแน่นอนค่ะ แนะนำให้ซื้อที่สนามบินได้ในราคากล่องละไม่กี่ร้อยเยน ซื้อสะดวก เหมาะกับเด็กๆ

งบประมาณ : 720 เยน

แหล่งซื้อ: ร้านในสนามบิน

11.เสื้อผ้า: ต้องบอกว่าที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีแฟชั่นชั้นนำอันดับ 1 ในโลกเลยนะคะ เพราะฉะนั้นเสื้อผ้าของเด็กนี้ไม่ต้องห่วงเลย ว่าน่ารักมากๆ ทั้งลวดลาย ดีไซน์ และคุณภาพ เนื้อผ้าดี มีขายตามห้างสรรพสินค้าทั่วไปในแผนกเด็กรวมถึงตามร้านยูนิโคล่ หรือร้าน GU ร้าน MUJI ส่วนแบรนด์ชั้นนำของประเทศญี่ปุ่นต้อง MIKIHOUSE ค่ะ

งบประมาณ : 500 เยนขึ้นไป

แหล่งซื้อ: ห้างสรรพสินค้า / Outlet

12. แปรงสีฟัน : ใครไปญี่ปุ่นก็จะต้องซื้อแปรงสีฟันเด็กมาฝากลูกๆ หลานๆ นะคะโดยเฉพาะแปรงสีฟันลายน่ารักๆ อังปังแมนหรือ cars เหมาะกับคนลูกชายที่สุด หรือจะเป็นแปรง 360 องศาก็ได้ค่ะ ไม่ว่าชนิดไหนก็ถือว่าเป็นของฝากที่น้ำหนักเบา ราคาไม่แพง และมีคุณภาพ ใช้จริงทุกวัน เช้า-เย็นแน่นอน

งบประมาณ : 100-200 เยน

แหล่งซื้อ: คอมบินิ / ซุปเปอร์มาร์เก็ต / ร้านดองกี้โฮเต้

13. รถไฟโทมัส THOMAS รถไฟของเล่นพร้อมราง เหมาะมากสำหรับเด็กผู้ชาย ในวัยประมาณ 2 ถึง 5 ขวบ สามารถซื้อได้ตามร้านขายของเล่นที่เราจะพบได้ทั่วไปเลยค่ะ ส่วนตัวของเราเองได้ที่ Tokyo Station / Akihabara / Toys R Us ในโอไดบะ ก็มีเยอะค่ะ ลองดูกันนะคะ

งบประมาณ : 1,000 เยนขึ้นไป

แหล่งซื้อ: Tokyo Station / Akihabara / Toys R Us