ชอบเรียนภาษา ดูหนังและชอบอ่านหนังสือเป็นชีวิตจิตใจ เป็นครูสอนภาษาไทยให้ชาวต่างชาติและปัจจุบันนักเรียนส่วนใหญ่ก็เป็นคนญี่ปุ่นเลยได้มีโอกาสพูดคุยแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกันกับชาวญี่ปุ่นเกือบทุกวัย นอกจากนี้ ก็เป็นคนเขียนบทประจำให้กับรายการ DID YOU KNOW…? และมีเพจภาษาอังกฤษบนเฟสบุ๊ค
ซูชิเป็นอาหารที่หาทานได้ทั่วไปและมีหลายราคา หลายระดับ ส่วนใหญ่จะอยู่ระดับปานกลางในแบบที่ราคาไม่แพงจนเกินไปแม้ว่าจะมีร้านซูชิระดับสูงผุดขึ้นอยู่เรื่อยๆ ก็ตาม
1. น้ำหอมฟุ้งๆ กลิ่นบุหรี่แรงๆ อย่าเข้ามาเลย
ในการทานซูชิ การรับรู้กลิ่นเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเพิ่มอรรถรถในการทาน โดยเฉพาะกลิ่นของน้ำส้มสายชูที่เป็นส่วนประกอบสำคัญในการทานซูชิ เช่นเดียวกับกลิ่นตามธรรมชาติของน้ำปลา กลิ่นน้ำหอมแรงๆ และกลิ่นบุหรี่จะไปกลบกลิ่นหอมของอาหารของคนรอบข้างและตัวเราเองด้วย
2. ขอวาซาบิเพิ่ม? ไม่ใช่ความคิดที่ดีแน่
ไม่ใช่ว่าทางร้านไม่อยากให้หรอกนะ แต่เป็นเพราะเชฟเขากะปริมาณของวาซาบิที่เพิ่มระหว่างข้าวกับท้อปปิ้งมาอย่างรอบคอบแล้วเพื่อรสชาติที่ดีที่สุด แต่ถ้ารู้สึกว่ามันยังไม่พอ ให้ใช้ตะเกียบคีบวาซาบิมาวางลงบนซูชิโดยตรง บางคนเอาไปผสมกับซอสถั่วเหลืองจนกลายเป็นสีเขียว อันนั้นก็เยอะเกินค่ะเพราะเดี๋ยววาซาบิมันจะไปกลบความอร่อยของหน้าซูชิเอา
ถ้าไม่ชอบวาซาบิ ก็บอกพ่อครัวไปได้เลยตอนสั่งว่าไม่เอาด้วยการพูดว่า “wasabi-nuki”
3. ลงมือทานทันทีที่ซูชิมาถึง!
ถ้าจะถ่ายรูปก่อนก็อย่านานนัก (>.<) เสร็จแล้วจัดการซูชิที่อยู่ตรงหน้าได้เลย เพราะถ้าทิ้งไว้นานหรือคุยเพลิน รสชาติสดใหม่ของซูชิที่เชฟอุตส่าห์ปั้นใหม่ๆ มันจะหายไป
4. ซูชิสายพาน เลือกมาแล้วอย่าเอากลับไปวางบนสายพานอีกเด็ดขาด!
5. อย่านั่งให้มันนานจนเกินงาม
หลังจากที่ทานจนอิ่มหนำสำราญและดื่มสาเกลงกระเพาะไปแล้วก็อย่านั่งคุยเพลินลากยาวโดยเฉพาะร้านที่มีลูกค้าเยอะๆ โดยตามกฎมารยาททั่วไปแล้ว ถ้าทานอาหารอย่างเดียว ไม่ควรอยู่ไม่เกิน 90 นาทีถ้ามีดื่มด้วยก็ไม่เกิน 2 ชั่วโมง
ข้อมูลจาก LIVE JAPAN
About the author
ออ
ชอบเรียนภาษา ดูหนังและชอบอ่านหนังสือเป็นชีวิตจิตใจ เป็นครูสอนภาษาไทยให้ชาวต่างชาติและปัจจุบันนักเรียนส่วนใหญ่ก็เป็นคนญี่ปุ่นเลยได้มีโอกาสพูดคุยแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกันกับชาวญี่ปุ่นเกือบทุกวัย นอกจากนี้ ก็เป็นคนเขียนบทประจำให้กับรายการ DID YOU KNOW…? และมีเพจภาษาอังกฤษบนเฟสบุ๊ค
https://www.facebook.com/English-in-the-Air-227307993959056/
คิดถูกใจ