การย้อมสีเบนิบานะ (ดอกคำฝอย) 2016/06/29 การย้อมสีเบนิบานะ (ดอกคำฝอย) 2016/06/29 เบนิบานะ หรือที่ภาษาไทยเรียกว่า ดอกคำฝอย เบนิบานะของจังหวัดยามะกะตะมีชื่อเสียงเป็นอย่างมากตั้งแต่สมัยอดีต เนื่องจากเป็นสินค้าชั้นสูงในสมัยเอโดะ บริเวณพื้นที่ทั้งสองฝั่งของแม่น้ำโมกามิ(Mogami)นั้นเป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ทั้งผืนดินและแหล่งน้ำ ทำให้บริเวณนี้เป็นพื้นที่การผลิตที่สำคัญมากของเบนิบานะ ผ้าไหมทอที่ย้อมด้วยเบนิบานะของจังหวัดยามากะตะถือเป็นของที่มีค่ามาก แม้แต่ในจังหวัดเกียวโตและจังหวัดโอซาก้าเองก็ตาม この投稿をInstagramで見る 紅ミュージアム〈臨時休館中〉(@benimuseum)がシェアした投稿 – 2019年10月月31日午後9時41分PDT สีเบนิ (สีแดง) จากเบนิบานะ ในสมัยก่อนถูกนำมาใช้เป็นวัตถุดิบที่สำคัญในการทำลิปสติก ในระหว่างการขนส่งจากเมืองโยเนะซาว่าไปยังจังหวัดเกียวโตและทั่วทั้งประเทศในญี่ปุ่น เพื่อไม่ให้เกิดการเน่าเสียระหว่างทาง จึงมีทำสีย้อมนั้นให้แห้งจนมีลักษณะคล้ายกับขนมเซมเบ้ การย้อมบานิบานะที่มีลักษณะคล้ายขนมเซมเบ้นี้ก็เพื่อเก็บรักษากลีบดอกของสีชมพูอ่อน ๆ เราเรียกกันว่า ฮานะโมจิ (Hanamochi) この投稿をInstagramで見る 紅ミュージアム〈臨時休館中〉(@benimuseum)がシェアした投稿 – 2019年11月月14日午後4時09分PST ในการทำฮานะโมจิแต่ละแผ่นนี้ จำเป็นจะต้องใช้ดอกไม้จำนวนถึง4-5ต้น เนื่องจากจะต้องใช้ทั้งแรงงานและวัตถุดิบ จึงเป็นของที่สำคัญและมีค่ามากจนถึงกับมีคำกล่าวเกี่ยวกับสีเบนิของเบนิบานะตั้งแต่ในสมัยก่อนว่า “กลีบเบนิบานะ 1กลีบ เท่ากับเงิน1เหรียญ” ในการย้อมเบนิบานะ ถึงแม้จะใช้สีย้อมเดียวกันก็ตาม แต่เฉดสีจะค่อย ๆ เข้มขึ้นจากการที่ย้อมทับซ้ำไปซ้ำมา この投稿をInstagramで見る 紅ミュージアム〈臨時休館中〉(@benimuseum)がシェアした投稿 – 2020年 5月月7日午後4時59分PDT หากทำการย้อมทับก็จะได้สีเบนิที่เข้มดังรูปที่เห็น แต่ไม่ว่าจะเป็นสีแดงโทนไหนก็ตาม ดูแล้วก็จะเห็นถึงความสวยสดงดงามในตัวของสีนั้น ๆ ความงดงามของชุดกิโมโนผ้าไหมเบนิบานะนี้ มีเฉดสีที่มีความประณีตละเอียดอ่อนจนไม่สามารถจะสรรหาคำมาอธิบายได้เลยทีเดียว この投稿をInstagramで見る 紅ミュージアム〈臨時休館中〉(@benimuseum)がシェアした投稿 – 2020年 4月月29日午後5時59分PDT นอกจากนี้ ยังสามารถทดลองทำการย้อมสีเบนิบานะได้ด้วย และผ้าเช็ดหน้าที่ย้อมออกมาก็จะเป็นของที่มีชิ้นเดียวในโลก โอกาสที่จะได้มีการย้อมสีที่งดงามขนาดนี้หาได้ยาก เพื่อน ๆ สนใจที่จะมาลองย้อมสีเบนิที่จังหวัดยามากะตะกันไหมคะ ดูบทความที่เกี่ยวข้อง คิดถูกใจ Komachi JAPAN ถูกใจ แชร์เลย
เบนิบานะ หรือที่ภาษาไทยเรียกว่า ดอกคำฝอย เบนิบานะของจังหวัดยามะกะตะมีชื่อเสียงเป็นอย่างมากตั้งแต่สมัยอดีต เนื่องจากเป็นสินค้าชั้นสูงในสมัยเอโดะ
บริเวณพื้นที่ทั้งสองฝั่งของแม่น้ำโมกามิ(Mogami)นั้นเป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ทั้งผืนดินและแหล่งน้ำ ทำให้บริเวณนี้เป็นพื้นที่การผลิตที่สำคัญมากของเบนิบานะ ผ้าไหมทอที่ย้อมด้วยเบนิบานะของจังหวัดยามากะตะถือเป็นของที่มีค่ามาก แม้แต่ในจังหวัดเกียวโตและจังหวัดโอซาก้าเองก็ตาม
สีเบนิ (สีแดง) จากเบนิบานะ ในสมัยก่อนถูกนำมาใช้เป็นวัตถุดิบที่สำคัญในการทำลิปสติก
ในระหว่างการขนส่งจากเมืองโยเนะซาว่าไปยังจังหวัดเกียวโตและทั่วทั้งประเทศในญี่ปุ่น เพื่อไม่ให้เกิดการเน่าเสียระหว่างทาง จึงมีทำสีย้อมนั้นให้แห้งจนมีลักษณะคล้ายกับขนมเซมเบ้ การย้อมบานิบานะที่มีลักษณะคล้ายขนมเซมเบ้นี้ก็เพื่อเก็บรักษากลีบดอกของสีชมพูอ่อน ๆ เราเรียกกันว่า ฮานะโมจิ (Hanamochi)
ในการทำฮานะโมจิแต่ละแผ่นนี้ จำเป็นจะต้องใช้ดอกไม้จำนวนถึง4-5ต้น
เนื่องจากจะต้องใช้ทั้งแรงงานและวัตถุดิบ จึงเป็นของที่สำคัญและมีค่ามากจนถึงกับมีคำกล่าวเกี่ยวกับสีเบนิของเบนิบานะตั้งแต่ในสมัยก่อนว่า “กลีบเบนิบานะ 1กลีบ เท่ากับเงิน1เหรียญ”
ในการย้อมเบนิบานะ ถึงแม้จะใช้สีย้อมเดียวกันก็ตาม แต่เฉดสีจะค่อย ๆ เข้มขึ้นจากการที่ย้อมทับซ้ำไปซ้ำมา
หากทำการย้อมทับก็จะได้สีเบนิที่เข้มดังรูปที่เห็น
แต่ไม่ว่าจะเป็นสีแดงโทนไหนก็ตาม ดูแล้วก็จะเห็นถึงความสวยสดงดงามในตัวของสีนั้น ๆ
ความงดงามของชุดกิโมโนผ้าไหมเบนิบานะนี้ มีเฉดสีที่มีความประณีตละเอียดอ่อนจนไม่สามารถจะสรรหาคำมาอธิบายได้เลยทีเดียว
นอกจากนี้ ยังสามารถทดลองทำการย้อมสีเบนิบานะได้ด้วย
และผ้าเช็ดหน้าที่ย้อมออกมาก็จะเป็นของที่มีชิ้นเดียวในโลก
โอกาสที่จะได้มีการย้อมสีที่งดงามขนาดนี้หาได้ยาก
เพื่อน ๆ สนใจที่จะมาลองย้อมสีเบนิที่จังหวัดยามากะตะกันไหมคะ
คิดถูกใจ