ภาพถ่ายโดยผู้เขียน

ฮาโกเนะเป็นหนึ่งในแหล่งที่นักท่องเที่ยวชาวไทยนิยมไปเที่ยว นอกจากจะมีธรรมชาติที่สวยงามให้สัมผัสได้อย่างเต็มที่ทั้งภูเขาและทะเลสาบแล้ว ยังมีพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ โรปเวย์ (กระเช้าไฟฟ้า) เรือนำเที่ยว ศาลเจ้า พิพิธภัณฑ์ศิลปะและร้านอาหารอร่อย ๆ เรียงรายอยู่โดยรอบด้วย

ภาพถ่ายโดยผู้เขียน

ฮาโกเนะแต่เดิมเป็นภูเขาไฟที่เรียกกันว่า ฮาโกเนะซัง การปะทุของภูเขาไฟในสมัยก่อนทำให้เปิดเป็นแอ่งขนาดใหญ่โดยรอบ ถึงแม้ว่าภูเขาไฟฮาโกเนะซังจะดับไปแล้วแต่แอ่งขนาดใหญ่รอบ ๆ ภูเขาไฟได้กลายเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่คือ อาชิโนโกะ หรือทะเลสาบอาชิซึ่งปัจจุบันกลายเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติฮาโกเนะนั่นเอง

ภาพถ่ายโดยผู้เขียน

การข้ามทะเลสาบสามารถข้ามได้โดยการนั่งเรือ ซึ่งมีให้เลือกทั้งเรือครูซฮาโกเนะมารุและเรือโจรสลัด และสำหรับคนที่สนใจอยากชมความงามธรรมชาติอย่างใกล้ชิดสามารถเช่าเรือหงส์ขนาดเล็ก (ชนิดที่ต้องปั่นเพื่อขับเรือเอง) ได้อีกด้วย

ภาพถ่ายโดยผู้เขียน

เมื่อข้ามฝั่งไปจะได้เจอกับสถานีโรปเวย์สำหรับคนที่อยากขึ้นไปยังปล่องภูเขาไฟ ศาลเจ้าฮาโกเนะและมีพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำให้เข้าชมด้วย โรปเวย์จะใช้เวลาประมาณ 8-10 นาทีในการเคลื่อนที่ขึ้นไปยังส่วนบนของภูเขา ภายในโรปเวย์จะมีการบรรยายลักษณะของธรรมชาติที่เห็นได้โดยรอบด้วย

ภาพถ่ายโดยผู้เขียน

ศาลเจ้าฮาโกเนะจะมีด้วยกันสามส่วนใหญ่ ๆ ได้แก่ ศาลเจ้าฮาโกเนะ(หลัก), ศาลเจ้าคุซึโนริว (ศาลเจ้ามังกรเก้าหัว) และศาลเจ้าโมโตซึมิยะ ศาลเจ้าฮาโกเนะและศาลเจ้าคุซึโนริวมีชื่อเสียงเรื่องการผูกดวงเนื้อคู่และการนำโชคดีมาให้ จะเจอศาลเจ้าได้เมื่อนั่งเรือข้ามฝั่ง ส่วนศาลเจ้าโมโตซึมิยะจะต้องนั่งโรปเวย์ขึ้นไปบนเขา

ภาพถ่ายโดยผู้เขียน

เมื่อขึ้นไปถึงข้างบนก็จะได้เห็นความงามของธรรมชาติ ทั้งทะเลสาบและทุ่งหญ้าไกลสุดลูกหูลูกตา รวมถึงศาลเจ้าโมโตซึมิชะซึ่งอยู่บนเขาอีกด้วย มีเซียมซีและอย่าลืมขอพรให้โชคดีกันถ้วนหน้าด้วยนะคะ

ภาพถ่ายโดยผู้เขียน

About the author

Asuka

ดูบทความผู้เขียน

สาวเหนือที่เคยอยู่ญี่ปุ่นตั้งแต่เด็ก รักญี่ปุ่นเหมือนเป็นบ้านหลังที่สอง
ปัจจุบันได้รับทุนวิจัยและเป็นนักวิจัยของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในโตเกียว
ยามว่างชอบท่องเที่ยว หาร้านอร่อย ๆ ตระเวนทาน ชอบขนมหวานมาก