ดอกป๊อปปี้ สัญลักษณ์ของทหารผ่านศึก ทุกๆปีในวันที่ระลึกทหารผ่านศึกจะมีการจัดจำหน่ายดอกป๊อปปี้กันให้เห็นอยู่เรื่อยๆ สีแดงของดอกป๊อปปี้หมายถึงเลือดเนื้อของทหารที่เสียสละชีพและชีวิตในช่วงสงคราม การซื้อดอกป๊อปปี้จึงเป็นทางเลือกหนึ่งในการช่วยเหลือเหล่าทหารผ่านศึกเพราะรายได้จากการจัดจำหน่ายจะมอบให้องค์กรการกุศลเพื่อช่วยเหลือเหล่าทหารผ่านศึกและครอบครัวของทหารผ่านศึก แต่ในประเทศญี่ปุ่นดอกป๊อปปี้ในภาษาดอกไม้จะหมายถึง ความรู้สึกเอื้ออาทรต่อผู้ที่อ่อนแกกว่า ความมีน้ำใจ ความเห็นอกเห็นในผู้อื่น สีแดงจะหมายถึงความสุข ความรู้สึกขอบคุณ สีขาวหมายถึงการลืมเลือนและการให้อภัย และสีเหลืองหมายถึงความมั่งคั่งและการประสบความสำเร็จ นอกจากความสวยงามของดอกป๊อปปี้แล้ว ความหมายของดอกไม้ยังดีอีกด้วย
Sky of Poppy หรือในชื่อภาษาญี่ปุ่นว่า Tenku no poppi (天空のポッピー) ตั้งอยู่ที่จังหวัดไซตามะไม่ไกลจากโตเกียวมาก เดินทางด้วยรถไฟสาย Ikebukuro line (Redarrow Chichibu) ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ก็จะมาถึงที่สถานี Seibu-Chichibu Station จากนั้นเดินทางต่อมาที่ สถานี Minano Station เพื่อนั่งฟรีชัตเตอร์บัสต่อมาที่ Sky of Poppy ที่ตั้งของทุ่งดอกป๊อปปี้บนเขาแห่งนี้ (ชัตเตอร์บัสให้บริการแค่วันเสาร์และอาทิตย์ของช่วงที่จัดงานเท่านั้น)

เมื่อมาถึงที่ Sky of Poppy คุณต้องร้องว้าวกับความกว้างสุดลูกหูลูกตาของทุ่งดอกป๊อปปี้ที่ปลูกบนเขาแห่งนี้ ภูเขาที่มีแต่ดอกป๊อปปี้ มองไปทางก็มีแต่ดอกป๊อปปี้สีแดงอร่ามอยู่เต็มทั่วทุกพื้นที่ จนไม่สามารถที่จะหักห้ามใจไม่ให้หยิบกล้องถ่ายรูปออกมาได้ ด้วยความที่เป็นภูเขาและมีเนินสลับซับซ้อนไปมาทำให้ถ่ายรูปได้ออกมาสวยงามราวกับภาพถ่ายwallpaperในคอมพิวเตอร์ ความรู้สึกที่ได้มายืนอยู่ที่ทุ่งดอกป๊อปปี้ที่นี่บอกได้เลยว่าให้ความรู้สึกแตกต่างจากสวนป๊อปปี้ที่อื่นอย่างสิ้นเชิง ค่าเข้าเพียงแค่ 300 เยน กับความทุ่มเทพยายามในการปลูกดอกป๊อปปี้ซึ่งใช้เวลานานถึง 1ปีกว่าจะออกดอกสวยงามเต็มภูเขาขนาดนี้ ฉะนั้นใครที่มาเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมถึงต้นเดือนมิถุนายนก็ไม่อยากให้พลาดกับงานดีดีแบบนี้ งานที่จัดขึ้นปีละ1ครั้งเท่านั้น ซึ่งในปีที่แล้วก็จัดไปแล้วตั้งแต่วันเสาร์ที่ 19 พฤษภาคม ถึงวันศุกร์ที่ 6 มิถุนายน ใครที่จะมาเที่ยวญี่ปุ่นในปีหน้าก็ดูข้อมูลและเก็บเข้าไว้ในแพลนได้เลย

ภายในงานมีการจัดจำหน่ายอาหาร และมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆไม่ว่าจะเป็นห้องน้ำหรือสถานที่จอดรถ ฉะนั้นสำหรับใครที่เช่ารถขับเที่ยวเองจึงไม่ต้องกังวลเพราะมีที่จอดรถทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไว้คอยอำนวยความสะดวก อีกทั้งบริเวณใกล้เคียงก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวให้เลือกเที่ยวอีกมากมาย จะเที่ยวแบบ One day trip ไปกลับโตเกียว-ไซตามะ หรือพักค้างคืนก็ได้เช่นกัน

About the author

Minripae

ดูบทความผู้เขียน

จากบัณฑิตนิเทศศาสตร์สู่นักเรียนทุนส่งหนังสือพิมพ์ในประเทศญี่ปุ่น ประสบการณ์กว่า3ปีกับการเรียนและทำงานไปพร้อมๆกัน ปัจจุบันผันตัวมาเริ่มต้นชีวิตแม่บ้านญี่ปุ่น มีเพจท่องเที่ยวร่วมกับเพื่อนบนเฟสบุ๊คชื่อ go there / ไปดิรอไร

https://www.facebook.com/paidigothere/