MORI Building DIGITAL ART MUSEUM EPSON teamLab Borderless

MORI Building DIGITAL ART MUSEUM EPSON teamLab Borderless

เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปไม่นานสำหรับ MORI Building DIGITAL ART MUSEUM EPSON teamLab Borderless ที่ Odaiba Tokyo เมื่อวันที่ 21 มิถุนายนที่ผ่านมา เรียกได้ว่ากระแสตอบรับดีเยี่ยมเพราะบัตรได้ sold out ยาวไปจนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคมเลยทีเดียว แน่นอนว่าใครที่ชื่นชอบพิพิธภัณฑ์ศิลปะแนว interactive อย่าง Teamlab คงไม่มีทางพลาดแน่นอน

 

この投稿をInstagramで見る

 

たちばな えいすけ(@tacchi_ae86)がシェアした投稿


MORI Building DIGITAL ART MUSEUM EPSON teamLab Borderless ตั้งอยู่ที่โอไดบะ บริเวณชิงช้าสวรรค์ใกล้ๆกับโชว์รูมขายรถ Megaweb Toyota City Showcase หรือใกล้ๆกับห้าง VenusFort การเดินทางไปไม่ยากเพียงแค่นั่งรถไฟสาย Yurikamome line จากสถานี Shimbashi ไปลงที่ Aomi Station หรือนั่งสาย Rinkai Line ไปลงที่ Tokyo teleport แล้วเดินผ่านห้างผ่านโชว์รูมรถมาตรงบริเวณชิงช้าสวรรค์ก็จะถึงทางเข้าแล้ว

สำหรับงานข้างในนั้นแบ่งเป็น 5 โซน ได้แก่

1. Borderless World โซนนี้มีงานที่น่าสนใจหลายงานด้วยกัน แต่เราจะยกตัวอย่างมาให้ดูซักเล็กน้อยเป็นการเรียกน้ำย่อย

Universe of Water Particles on a Rock where People Gather ตัวงานจัดแสดงอยู่ในโถงใหญ่ มีการทำเนินคล้ายหินสูงขึ้นไป เมื่อเราไปยืนบนตัวหิน ถ้าเป็นน้ำตกทิศทางการไหลของน้ำก็จะเปลี่ยนทันที

 

この投稿をInstagramで見る

 

teamLab(@teamlab)がシェアした投稿


Wander through the Crystal World งานนี้หลายคนอาจจะคุ้นตาหรือเคยเห็นมาบางแล้ว แต่บอกเลยว่าของจริงสวยมากๆ คริสตัลไฟเส้นๆที่ไหลเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลาในขณะที่เราเดินเข้าไป ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่อีกโลกไปเลย

2. โซนที่ 2 คือ Athletics Forest โซนนี้ก็มีหลายงาน แต่ละงานคุณจะได้ใช้ร่างกายร่วมด้วย

 

この投稿をInstagramで見る

 

Emilie(@allyoureallyneedisapassport)がシェアした投稿


Weightless Forest of Resonating Life งานนี้มีบอลลูนเล็กใหญ่อยู่ในห้องเต็มไปหมด ทั้งลอยอยู่บ้างวางอยู่พื้นบ้าง เด้งดึ๋งไปมาบางทีกระแทกเข้ามาโดนตัวก็สนุกไปอีกแบบ ประกอบกับพื้นเป็นฟูกนิ่มๆทำให้ไม่ว่าจะเด็กๆหรือผู้ใหญ่ต่างเล่นสนุกสนานได้อย่างไม่จำกัดอายุ

Multi Jumping Universe อันนี้เล่นได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ให้อารมณ์เหมือนอยู่ในกาแลคซี่ โดดไปโดดมาจะมีหลุมดำเกิดขึ้น งานนี้สนุกและค่อนข้างใช้พลังงานกว่าที่คิด ตอนต่อแถวก็ดูเด็กๆเล่น ดูเหมือนโดดไปโดดมาง่ายนิดเดียว แต่พอลองเล่นจริงเล่นเอาหอบเลยทีเดียว งานนี้มีข้อจำกัดคือห้ามใส่รองเท้าแตะ ฉะนั้นใครที่ใส่รองเท้าแตะมาแต่อยากลองเล่น ทางงานเขามีรองเท้าให้เช่าฟรี

3. โซนที่ 3 Future Park โซนนี้ค่อนข้างจะเน้นไปทางเด็กๆมากกว่าเพราะมีให้วาดรูประบายสีแล้วนำไปสแกน ผลงานที่เราระบายสีเสร็จเรียบร้อยแล้วก็จะฉายโลดแล่นไปมาบนผนัง

 

この投稿をInstagramで見る

 

チームラボ 学ぶ!未来の遊園地(@teamlab_futurepark)がシェアした投稿


4. โซนที่ 4 Forest of Lamps โซนยอดฮิตที่ค่อนข้างได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมงาน จะเห็นได้จากแถวที่ต่อยาวเหยียด ต่อคิวประมาณ 10 นาทีเราก็จะได้เข้าห้องที่มีแต่โคมไฟเต็มไปทั้งห้องสมกับชื่องาน โคมไฟจะเปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ จะต้องคอยลุ้นว่าตอนที่เราเข้าไปนั้นไฟจะเป็นสีอะไร แนะนำว่าให้คิดมุมสำหรับถ่ายรูปไว้เลยเพราะห้องนี้จำกัดเวลามากๆ ทางstaffจะทยอยให้เข้าไปทีละกลุ่ม กลุ่มละไม่ถึง 5นาทีด้วยซ้ำ

 

この投稿をInstagramで見る

 

teamLab(@teamlab)がシェアした投稿


5. โซนที่ 5 EN TEA HOUSE โซนนี้เป็นโซนให้บริการน้ำชาในรูปแบบของถ้วยชาที่มีดอกไม้บานอยูข้างในถ้วย แต่ไม่ใช่ดอกไม้จริงเพราะมันคือดอกไม้ดิจิตอลที่บานอย่างไม่รู้จบ และไม่ว่าเราจะเลื่อนถ้วยชาไปที่ไหน ดอกไม้ก็จะตามไปบานทุกที่ (มีค่าบริการสำหรับน้ำชา)

 

この投稿をInstagramで見る

 

Tan Siripirun(@tan_siripirun)がシェアした投稿


คำแนะนำสำหรับคนที่คิดจะมาเที่ยวที่นี่แนะนำให้สวมเสื้อสีขาวเพื่อเวลาที่ถ่ายรูปออกมาจะได้ไม่กลืนไปกับงาน และควรสวมรองเท้าผ้าใบ ผู้หญิงไม่ควรใส่กระโปรงเพราะหลายๆห้องพื้นเป็นกระจก

คนที่สนใจสามารถซื้อตั๋วได้จากเว็ปไซต์

บัตรราคา 3200 เยน เวลาทำการจันทร์ถึงพฤหัสเวลา11:00–19:00 (21:00**) วันศุกร์และHoliday Eve 11:00–21:00 (22:00**) วันเสาร์ 10:00–21:00 (22:00**) วันอาทิตย์และวันหยุด 10:00–19:00 (20:00**) **เปิดให้บริการยาวนานกว่าปกติจนถึง 31สิงหาคมนี้

ดูบทความที่เกี่ยวข้อง

About the author

Minripae

ดูบทความผู้เขียน

จากบัณฑิตนิเทศศาสตร์สู่นักเรียนทุนส่งหนังสือพิมพ์ในประเทศญี่ปุ่น ประสบการณ์กว่า3ปีกับการเรียนและทำงานไปพร้อมๆกัน ปัจจุบันผันตัวมาเริ่มต้นชีวิตแม่บ้านญี่ปุ่น มีเพจท่องเที่ยวร่วมกับเพื่อนบนเฟสบุ๊คชื่อ go there / ไปดิรอไร

https://www.facebook.com/paidigothere/

ถูกใจ แชร์เลย

บทความที่เกี่ยวข้อง

สถานที่เจ๋งๆจับโปเกมอนในโตเกียว

แวะทานเมนูเนื้ออร่อยๆ ณ แหล่งซับคัลเจอร์ที่ร้าน “อิจินิซัง”

จุดชมซากุระในโตเกียว: สวนคิตะโนะมารุ (Kitanomaru Park )

How to : นั่งบัส KEIO Highway Express ชิบุย่า ↔ คาวากุจิโกะ

ทานซูชิข้าวปั้นหน้าปลาทูน่าแท้ที่ไม่อั้นให้พุงกางทุกวันอังคารที่ชินจูกุ

​พักกายพักใจ เดินเขา ชมวิว ดูพิพิธภัณฑ์ที่ TAKAOSAN

ICHINICHI: อิจินิจิ โฮสเทลราคาประหยัดในอะกะบะเนะ (โตเกียว)

รวบรวมสถานที่ชมดอกไม้ไฟในโตเกียวที่ไม่อยากให้คุณพลาดในปี 2018

15 ปีพริตตี้เคียวซีรีส์ วันวานยังหวานอยู่กับร้านเฉพาะกิจและสินค้าที่ระลึกมากมาย