เที่ยวงานป้องกันภัยพิบัติแห่งชาติ ปี 2018 ที่ Tokyo Big Sight และ Sona Area

เที่ยวงานป้องกันภัยพิบัติแห่งชาติ ปี 2018 ที่ Tokyo Big Sight และ Sona Area

หลายคนอาจจะทราบว่าญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เสี่ยงต่อการเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างมาก และมีแนวโน้มที่จะเกิดแผ่นดินไหวมากที่สุดประเทศหนึ่งของโลก จึงทำให้ประเทศญี่ปุ่นจึงค่อนข้างให้ความสำคัญกับการป้องกันภัยที่จะเกิดขึ้น เพราะถ้าหากเกิดภัยพิบัติขึ้นหนึ่งครั้งเท่ากับว่าประเทศต้องสูญเสียอะไรต่างๆมากมาย ด้วยเหตุนี้ประเทศญี่ปุ่นจึงเตรียมรับมือกับภัยพิบัติทุกประเภทอยู่ตลอดเวลา โดยมีการปลูกฝังกันตั้งแต่เด็กให้รู้จักรับผิดชอบตัวเอง ฉะนั้นจึงไม่แปลกใจที่เด็กๆที่ประเทศญี่ปุ่นจึงสามารถเอาตัวรอดได้ในทุกสถานการณ์

Credit: ผู้เขียน

งาน Bosai Kokutai หรืองานป้องกันภัยพิบัติแห่งชาติ จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 13 ถึง 14 ตุลาคม บริเวณ Tokyo Big Sight Sona Area เป็นงานที่จัดขึ้นเพื่อปลูกจิตสำนึกให้ทุกคนได้ตระหนักถึงความสำคัญของการป้องกันภัย ภายในงานมีการจัดแสดงนิทรรศการทั้งในอาคารและนอกอาคาร มีการแสดงโชว์เทคโนโลยีสมัยใหม่จากหน่วยงานต่างๆ รวมไปถึงโชว์สุนัขที่ผ่านการฝึกฝนมาเพื่อค้นหาผู้รอดชีวิตที่ติดตามซากอาคารปรักหักพังจากเหตุการณ์ภัยพิบัติต่างๆ

Credit: ผู้เขียน

ภายในงานมีการนำรถดับเพลิง รถกระเช้ามาให้ลองขึ้นไปนั่ง รวมไปถึงรถที่นำออกไปใช้ในสถานการณ์จริงเมื่อเกิดเหตุภัยพิบัติ อย่างเช่น รถยาเคลื่อนที่ หรือรถที่สามารถกางออกมาเป็นห้องขนาดเล็กสำหรับใช้งานในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ รถขยายสัญญาณ รถสุขาเคลื่อนที่ ต่างก็นำมาจัดแสดงให้ผู้เข้าร่วมงานได้ชมกันอย่างใกล้ชิด

Credit: ผู้เขียน

การเรียนรู้ภัยพิบัติยังสอดรับกับความนิยมในปัจจุบันอย่างการนำ VR มาใช้ ทำให้ผู้เข้าร่วมงานไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ก็สามารถเรียนรู้ได้ในรูปแบบสมจริงมากขึ้น

Credit: ผู้เขียน
Credit: ผู้เขียน

นอกจากนี้ยังอีกการประชุมบอกเล่าเรื่องโทโฮคุที่ประสบภัยแผ่นดินไหวครั้งที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นในปี 2011 ว่าปัจจุบันได้ดำเนินงานการฟื้นฟูไปถึงไหน ผ่านการบอกเล่าจากผู้เกี่ยวข้องโดยตรง คือสำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวโทโฮคุ, Minami Sanriku Hotel Kanyo โรงแรมที่ได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวในปี 2011, คุณไมเคิล สื่อต่างประเทศที่ได้รับเชิญให้มาเที่ยวที่โทโฮคุและสุดท้ายจากมหาวิทยาลัยโทโฮคุ หนึ่งคือบอกเล่าสถานการณ์ปัจจุบันว่าเป็นอย่างไรบ้าง ทุกคนทราบว่าโทโฮคุเกิดแผ่นดินไหวแต่ทุกคนไม่ได้รู้ว่าสถานการณ์ปัจจุบันดีขึ้นแล้ว มีการฟื้นฟูจนกลับมาเป็นปกติ แหล่งท่องเที่ยวที่เสียหายก็ฟื้นฟูและเปิดให้ท่องเที่ยวในเชิงฟื้นฟูเมือง สองคือการเรียนรู้ภัยจากแผ่นดินไหวให้เป็นบทเรียน ว่าถ้าเกิดแผ่นดินไหวขึ้นอีกต้องทำอย่างไรบ้าง ใช้ประสบการณ์จากตรงนี้ในการรับมือกับภัยพิบัติครั้งต่อไป สามคือเรื่องราวตอนเกิดแผ่นดินไหวนั้นร้ายแรงมากจนต้องขอรับความเชื่อเหลือจากหลายๆประเทศ และสี่คือการบอกเล่าจากมหาวิทยาลัยโทโฮคุ

Credit: ผู้เขียน

แม้ประเทศไทยจะไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวเท่ากับประเทศญี่ปุ่น แต่การสร้างจิตสำนึกให้เห็นความสำคัญของการป้องกันตัวเองจากภัยพิบัติต่างๆก็เป็นเรื่องสำคัญ ทั้งนี้ทั้งนั้นการที่ทุกคนรู้จักการป้องกันและเอาตัวรอดเวลาเกิดแผ่นดินไหว จะทำให้เกิดการสูญเสียน้อยลง และการฟื้นฟูก็จะดำเนินเร็วตามไปด้วย อย่างเช่นโทโฮคุที่ตอนนี้ทุกคนกำลังพยายามฟื้นฟูเมืองให้ผ่านวิกฤตไปได้ และหวังว่านักท่องเทียวจะกลับมาเที่ยวที่โทโฮคุอีกครั้ง

ดูบทความที่เกี่ยวข้อง

About the author

Minripae

ดูบทความผู้เขียน

จากบัณฑิตนิเทศศาสตร์สู่นักเรียนทุนส่งหนังสือพิมพ์ในประเทศญี่ปุ่น ประสบการณ์กว่า3ปีกับการเรียนและทำงานไปพร้อมๆกัน ปัจจุบันผันตัวมาเริ่มต้นชีวิตแม่บ้านญี่ปุ่น มีเพจท่องเที่ยวร่วมกับเพื่อนบนเฟสบุ๊คชื่อ go there / ไปดิรอไร

https://www.facebook.com/paidigothere/

ถูกใจ แชร์เลย

บทความที่เกี่ยวข้อง

ร้านขายของกระจุ๊กกระจิ๊ก Flying Tiger Copenhagen

ข้าวกล่องเบนโตะหน้าตาดีใน “Keiyo Street” @Tokyo Station

Harajuku Bengal Cat’s Forest

คาเฟ่กระต่ายน้อยแสนน่ารักที่โตเกียว

Samantha Thavasa แบรนด์ญี่ปุ่น ระดับอินเตอร์

เดินช้อปชิมชิลแบบเรียบหรู สไตล์ไดคังยามะ

สาวกแฟชั่นต้องไม่พลาดที่นี่ LaForet HARAJUKU

พบคาแรกเตอร์ยอดนิยมจากไต้หวัน งานออกร้าน Kuroro & TAIWANIMAL

ร้านกาแฟในฝันกลางกรุงโตเกียว : ONIBUS COFFEE Naka-meguro