บทความที่เกี่ยวข้อง ท่าโพสถ่ายรูปสุดฮิตของวัยรุ่นญี่ปุ่นแต่ละสมัยและแฟชั่นชุดนักเรียนมัธยมย้อนยุคเป็นอย่างไรกัน
ทำความรู้จักกับอาหาร 9 อย่างที่ทานในวันเซ็ตสึบุน 2019/01/19 ทำความรู้จักกับอาหาร 9 อย่างที่ทานในวันเซ็ตสึบุน 2019/01/19 ไม่ทราบว่าผู้อ่านเคยได้ยินชื่อ “เทศกาลเซ็ตสึบุน” หรือไม่คะ วันนี้เป็นวันก่อนเข้าฤดูใบไม้ผลิของญี่ปุ่นตามปฏิทินจันทรคติ ซึ่งตรงกับ 3 ก.พ. ของทุกปี (บางปีเป็นวันที่ 4 ก.พ.) เทศกาลที่ผู้คนปาถั่วไล่ยักษ์กันนั่นแหละ เชิญคนดังไปปาตามงานวัดบ้าง ให้ผู้ชายในครอบครัวแต่งตัวเป็นยักษ์แล้วคนอื่นปาถั่วไล่ยักษ์บ้าง แต่ว่าวันนี้เราจะไม่พูดถึงที่มาประเพณีอะไรต่างๆ พวกนั้น เมื่อมีเทศกาลย่อมมีของกิน! เราจะมาพูดถึงของกินอร่อยๆ ในเทศกาลเซ็ตสึบุนค่ะ หลังการปาถั่วจบลงแล้ว ผู้คนมักรับประทานถั่วหรือไม่ก็ข้าวปั้นแท่งยาวที่เรียกว่า “เอโฮมากิ” แต่คนในบางภูมิภาคก็ไม่คุ้นเคยกับการทานเอโฮมากิหรอกนะคะ และผู้เขียนได้หาข้อมูลมาแบ่งปันให้ผู้อ่านทราบด้วยว่าในวันเซ็ตสึบุนนี้คนญี่ปุ่นเขาทานอะไรกัน 1. เอโฮมากิ ที่มาของการเริ่มทานเอโฮมากิในเทศกาลเซ็ตสึบุนนั้นไม่มีการยืนยันชัดเจน ทฤษฎีที่เป็นไปได้มากที่สุดคือ เหล่าพ่อค้าที่โอซาก้าทานเอโฮมากิโดยอธิษฐานขอให้ “ทำมาค้าขึ้น” และ “ขับไล่สิ่งอัปมงคล” เริ่มแพร่หลายไปทั่วประเทศเมื่อถูกเอามาจำหน่ายทั่วประเทศใน 7-11 เมื่อปี 1998 โดยใช้ชื่อ “เอโฮมากิ” โดยก่อนหน้านั้นไม่ปรากฏว่าเคยเรียกว่าเอโฮมากิแต่อย่างใด ความหมายในการทานเอโฮมากิคือ (1) การห่อวัตถุดิบ 7 อย่างเป็นการสื่อถึงเทพเจ้าโชคลาภทั้งเจ็ด ดึงเอาโชคลาภเข้ามาและขอพรให้ไม่เจ็บไข้ได้ป่วย ทำมาค้าขึ้น (2) เอโฮมากิคือกระบองของยักษ์ที่ทำตกไว้ตอนหนีไปเมื่อถูกปาถั่ว สิ่งนี้เป็นการบอกว่าการไล่ยักษ์เสร็จสิ้นแล้ว 2. ถั่วเหลือง ที่มาของการกินถั่วเหลืองมาจากเสียงคล้องจองของคำว่าถั่ว (มาเมะ) กับ “ตาปีศาจ” ที่อ่านออกเสียงว่ามาเมะเช่นเดียวกัน ความหมายของการทานถั่วมีที่มาจากการที่สมัยก่อนเชื่อว่าอาหารที่มีเปลือก (เช่น ถั่วเหลือง ข้าว ข้าวสาลี) มีพลังวิญญาณหรือพลังชีวิตอยู่ และอธิษฐานขอให้ไม่เจ็บไข้ได้ป่วยโดยการรับเอาพลังงานนั้นเข้าไป 3. ถั่วลิสง ถั่วลิสงถูกนำเอามาใช้แทนถั่วเหลืองในการปาถั่วแถบภูมิภาคอากาศหนาวอย่างโทโฮคุหรือฮอกไกโด เหตุผลที่ใช้ถั่วลิสงคาดว่าน่าจะมาจากการที่หาพบได้ง่ายแม้ตกบนพื้นหิมะ และถั่วลิสงมีแคลอรี่สูงเหมาะกับพื้นที่อากาศหนาว 4. ปลาซาร์ดีน ว่ากันว่ายักษ์เกลียดกลิ่นของปลาซาร์ดีน หากเอามาประดับที่ประตูจะป้องกันไม่ให้ยักษ์เข้าบ้านได้ 5. วาฬ เป็นธรรมเนียมที่พบเห็นได้เป็นหลักใน จ.ยามากุจิ ว่ากันว่า “การกินของใหญ่จะทำให้โชคดี” ดังนั้นวาฬซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตในทะเลที่ใหญ่ที่สุดจึงกลายเป็นตัวแทน “ของใหญ่” 6. โซบะ เพราะสมัยก่อนเซ็ตสึบุนถือเป็น “วันก่อนขึ้นปีใหม่” โซบะที่ทานในวันเซ็ตสึบุนจึงเป็นโซบะข้ามปี 7. คอนเนียคุ คอนเนียคุเป็นอาหารที่เปี่ยมด้วยเส้นใยไฟเบอร์ เมื่อทานเข้าไปแล้วจะช่วยทำความสะอาดและขับพิษออกจากร่างกาย ไม่ปรากฏเหตุผลชัดเจนที่ทานคอนเนียคุในเซ็ตสึบุน แต่คาดว่าเพราะสมัยก่อนวันเซ็ตสึบุนตรงกับวันขึ้นปีใหม่ จึงทานคอนเนียคุเพื่อเป็นการชำระล้างร่างกาย 8. ซุปเคนจิน ซุปเคนจินทำจากหัวไชเท้า แครอท ผักโกโบ มันฝรั่ง เอาไปผัดในน้ำมันงากับคอนเนียคุและเต้าหู้ จากนั้นนำไปต้มและปรุงรสด้วยโชยุ คาดว่าที่เริ่มทานในวันเซ็ตสึบุนเพราะซุปเคนจินเป็นอาหารที่ใช้ในกิจกรรมต่างๆ ในฤดูหนาว จึงทานในวันเซ็ตสึบุนไปด้วยโดยปริยาย 9. ชามงคล (ฟุคุฉะ) เป็นเครื่องดื่มที่ดื่มกันทั่วประเทศ อธิษฐานให้สุขภาพแข็งแรงไม่เจ็บไข้ได้ป่วยแปลและเรียบเรียงจาก https://miyakyo0001.com/setubun-tabemono ดูบทความที่เกี่ยวข้อง About the author DarkNeon ดูบทความผู้เขียน ฟรีแลนซ์พเนจรที่รักอิสระกว่าสิ่งใด เริ่มหัดภาษาญี่ปุ่นจากอนิเมกับเกม ปัจจุบันมีประสบการณ์ทำงานแปลมา 10 ปี อนิเมกับเกมเป็นจุดเริ่มต้นให้ ตอนนี้เริ่มหันมาสนใจการเดินทาง และอยากบอกเล่าประสบการณ์แปลกๆ ที่พบเจอมาให้ผู้อ่านได้รู้ คิดถูกใจ Komachi JAPAN ถูกใจ แชร์เลย
ไม่ทราบว่าผู้อ่านเคยได้ยินชื่อ “เทศกาลเซ็ตสึบุน” หรือไม่คะ วันนี้เป็นวันก่อนเข้าฤดูใบไม้ผลิของญี่ปุ่นตามปฏิทินจันทรคติ ซึ่งตรงกับ 3 ก.พ. ของทุกปี (บางปีเป็นวันที่ 4 ก.พ.) เทศกาลที่ผู้คนปาถั่วไล่ยักษ์กันนั่นแหละ เชิญคนดังไปปาตามงานวัดบ้าง ให้ผู้ชายในครอบครัวแต่งตัวเป็นยักษ์แล้วคนอื่นปาถั่วไล่ยักษ์บ้าง แต่ว่าวันนี้เราจะไม่พูดถึงที่มาประเพณีอะไรต่างๆ พวกนั้น เมื่อมีเทศกาลย่อมมีของกิน! เราจะมาพูดถึงของกินอร่อยๆ ในเทศกาลเซ็ตสึบุนค่ะ หลังการปาถั่วจบลงแล้ว ผู้คนมักรับประทานถั่วหรือไม่ก็ข้าวปั้นแท่งยาวที่เรียกว่า “เอโฮมากิ” แต่คนในบางภูมิภาคก็ไม่คุ้นเคยกับการทานเอโฮมากิหรอกนะคะ และผู้เขียนได้หาข้อมูลมาแบ่งปันให้ผู้อ่านทราบด้วยว่าในวันเซ็ตสึบุนนี้คนญี่ปุ่นเขาทานอะไรกัน
1. เอโฮมากิ
ที่มาของการเริ่มทานเอโฮมากิในเทศกาลเซ็ตสึบุนนั้นไม่มีการยืนยันชัดเจน ทฤษฎีที่เป็นไปได้มากที่สุดคือ เหล่าพ่อค้าที่โอซาก้าทานเอโฮมากิโดยอธิษฐานขอให้ “ทำมาค้าขึ้น” และ “ขับไล่สิ่งอัปมงคล” เริ่มแพร่หลายไปทั่วประเทศเมื่อถูกเอามาจำหน่ายทั่วประเทศใน 7-11 เมื่อปี 1998 โดยใช้ชื่อ “เอโฮมากิ” โดยก่อนหน้านั้นไม่ปรากฏว่าเคยเรียกว่าเอโฮมากิแต่อย่างใด ความหมายในการทานเอโฮมากิคือ
(1) การห่อวัตถุดิบ 7 อย่างเป็นการสื่อถึงเทพเจ้าโชคลาภทั้งเจ็ด ดึงเอาโชคลาภเข้ามาและขอพรให้ไม่เจ็บไข้ได้ป่วย ทำมาค้าขึ้น
(2) เอโฮมากิคือกระบองของยักษ์ที่ทำตกไว้ตอนหนีไปเมื่อถูกปาถั่ว สิ่งนี้เป็นการบอกว่าการไล่ยักษ์เสร็จสิ้นแล้ว
2. ถั่วเหลือง
ที่มาของการกินถั่วเหลืองมาจากเสียงคล้องจองของคำว่าถั่ว (มาเมะ) กับ “ตาปีศาจ” ที่อ่านออกเสียงว่ามาเมะเช่นเดียวกัน ความหมายของการทานถั่วมีที่มาจากการที่สมัยก่อนเชื่อว่าอาหารที่มีเปลือก (เช่น ถั่วเหลือง ข้าว ข้าวสาลี) มีพลังวิญญาณหรือพลังชีวิตอยู่ และอธิษฐานขอให้ไม่เจ็บไข้ได้ป่วยโดยการรับเอาพลังงานนั้นเข้าไป
3. ถั่วลิสง
ถั่วลิสงถูกนำเอามาใช้แทนถั่วเหลืองในการปาถั่วแถบภูมิภาคอากาศหนาวอย่างโทโฮคุหรือฮอกไกโด เหตุผลที่ใช้ถั่วลิสงคาดว่าน่าจะมาจากการที่หาพบได้ง่ายแม้ตกบนพื้นหิมะ และถั่วลิสงมีแคลอรี่สูงเหมาะกับพื้นที่อากาศหนาว
4. ปลาซาร์ดีน
ว่ากันว่ายักษ์เกลียดกลิ่นของปลาซาร์ดีน หากเอามาประดับที่ประตูจะป้องกันไม่ให้ยักษ์เข้าบ้านได้
5. วาฬ
เป็นธรรมเนียมที่พบเห็นได้เป็นหลักใน จ.ยามากุจิ ว่ากันว่า “การกินของใหญ่จะทำให้โชคดี” ดังนั้นวาฬซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตในทะเลที่ใหญ่ที่สุดจึงกลายเป็นตัวแทน “ของใหญ่”
6. โซบะ
เพราะสมัยก่อนเซ็ตสึบุนถือเป็น “วันก่อนขึ้นปีใหม่” โซบะที่ทานในวันเซ็ตสึบุนจึงเป็นโซบะข้ามปี
7. คอนเนียคุ
คอนเนียคุเป็นอาหารที่เปี่ยมด้วยเส้นใยไฟเบอร์ เมื่อทานเข้าไปแล้วจะช่วยทำความสะอาดและขับพิษออกจากร่างกาย ไม่ปรากฏเหตุผลชัดเจนที่ทานคอนเนียคุในเซ็ตสึบุน แต่คาดว่าเพราะสมัยก่อนวันเซ็ตสึบุนตรงกับวันขึ้นปีใหม่ จึงทานคอนเนียคุเพื่อเป็นการชำระล้างร่างกาย
8. ซุปเคนจิน
ซุปเคนจินทำจากหัวไชเท้า แครอท ผักโกโบ มันฝรั่ง เอาไปผัดในน้ำมันงากับคอนเนียคุและเต้าหู้ จากนั้นนำไปต้มและปรุงรสด้วยโชยุ คาดว่าที่เริ่มทานในวันเซ็ตสึบุนเพราะซุปเคนจินเป็นอาหารที่ใช้ในกิจกรรมต่างๆ ในฤดูหนาว จึงทานในวันเซ็ตสึบุนไปด้วยโดยปริยาย
9. ชามงคล (ฟุคุฉะ)
เป็นเครื่องดื่มที่ดื่มกันทั่วประเทศ อธิษฐานให้สุขภาพแข็งแรงไม่เจ็บไข้ได้ป่วยแปลและเรียบเรียงจาก
About the author
DarkNeon
ฟรีแลนซ์พเนจรที่รักอิสระกว่าสิ่งใด เริ่มหัดภาษาญี่ปุ่นจากอนิเมกับเกม
ปัจจุบันมีประสบการณ์ทำงานแปลมา 10 ปี อนิเมกับเกมเป็นจุดเริ่มต้นให้
ตอนนี้เริ่มหันมาสนใจการเดินทาง และอยากบอกเล่าประสบการณ์แปลกๆ
ที่พบเจอมาให้ผู้อ่านได้รู้
คิดถูกใจ