บทความที่เกี่ยวข้อง ชมความงามใบไม้แดงที่ไหนดี? วางแผนทริปเที่ยวเกียวโตชมความงามใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง
อะระชิยะมะ สุดยอดใบไม้แดงเมืองเกียวโต 2016/12/05 อะระชิยะมะ สุดยอดใบไม้แดงเมืองเกียวโต 2016/12/05 พาดหัวบทความนี้อาจดูเวอร์ไปนิด แต่จริง ๆ แล้วมันสวยยิ่งกว่าคำว่า “สุดยอด” ไปเยอะครับสำหรับจุดชมใบไม้แดงชื่อดังของเมืองเกียวโตแห่งนี้ ถ้ามาเที่ยวเกียวโต หรือโอซาก้า ในช่วงฤดูนี้แล้ว ไม่แวะมาที่นี่ ก็ถือว่าพลาดน่าดูนะครับ การเดินทางก็ไม่ยากครับสามารถโดยสารรถไฟ JR สาย Sagano มาลงที่สถานี Saga-Arashiyama แล้วเดินอีกประมาณสิบนาที ตัวเลือกที่สองคือใช้บริการรถไฟ Keifuku Railways Keifuku แล้วลงที่สถานี Arashiyama Station จะถึงตรงบริเวณใจกลางของอะระชิยะมะเลยครับ และทางเลือกที่ 3 เป็นการเดินทางที่ปริศนะ ปุญพ์ คุ้นเคย และชื่นชอบ นั่นคือการเดินทางด้วยรถไฟฮันคิว รถไฟสีเลือดหมู ที่ตกแต่งด้านในด้วยวอลเปเปอร์ลายไม้ และเบาะกำมะหยี่สีเขียวอ่อน ประกอบกับบริเวณโดยรอบสถานีที่ตกแต่งอย่างคลาสิค และแตกต่างจากสถานีอื่น ทำให้ ปริศนะ ปุญพ์ ชื่นชอบการเดินทางมาที่นี่ด้วยรถไฟสายนี้ สำหรับท่านที่เดินทางมาจากโอซาก้า ปริศนะ ปุญพ์ แนะนำให้มาด้วยรถไฟฮันคิวนะครับ นั่งสายเกียวโตจากสถานีอุเมะดะ แล้วมาเปลี่ยนรถไฟที่สถานีคะสึระ แล้วขึ้นรถไฟสายอะระชิยะมะ ไปจนถึงสถานีสุดท้ายนะครับ เอาเป็นว่า ในบทความนี้จะแนะนำการเดินเล่นบริเวณอะระชิยะมะ จากสถานีรถไฟฮันคิวแล้วกันนะครับ เช่นเดียวกันกับจุดชมใบไม้แดงชื่อดังที่อื่น ๆ นะครับ ลงรถไฟแล้วก็กรูตามคนส่วนใหญ่ที่ถือกล้อง ดูท่าทางเป็นนักชื่นชมธรรมชาติทั้งหลายไปคงไม่หลงครับ เดิน ๆ ไปสักพักก็จะมาถึงไฮไลต์จุดแรกสะพานไม้โทะเกะสึเคียว (とげつきょう) หรือแปลเป็นไทยว่าสะพานข้ามจันทร์ นอกจากชื่อที่ฟังดูโรแมนติก บรรยากาศโดยรอบแถวนี้ก็โรแมนติกไม่แพ้กันนะครับ วิวแม่น้ำทอดยาวสุดสายตา กับวิวภูเขาที่เต็มไปด้วยใบไม้หลากสีในช่วงฤดูใบไม้ร่วง この投稿をInstagramで見る 関西の風景(@uk_1959)がシェアした投稿 – 2020年 5月月3日午前3時33分PDT ชื่นชมบรรยากาศพร้อมกับถ่ายรูปกับสะพานจนหนำใจแล้ว ก็เดินข้ามไปอีกฝั่ง ไปชมใบไม้แดงกันใกล้ ๆ ในย่านอะระชิยะมะ นอกจากใบไม้แดง ก็มีร้านค้า ร้านอาหาร ค่าเฟ่มากมายตั้งเรียงรายอยู่ในอาคารสุดคูล แวะเข้าวัดเท็นริวจิไปสักการะพระญี่ปุ่นเป็นสิริมงคลสักนิดก็ดีเหมือนกันนะครับ ในวัดนี้ก็มีวิวสวย ๆ ใบไม้แดงเยอะแยะให้เดินกันเพลินเลยครับ ค่าเข้า 500 เยน สำหรับผู้ใหญ่ และ 300 เยน สำหรับนักเรียนชั้นประถม และมัธยมต้น ส่วนเด็กเล็กเข้าฟรีครับ この投稿をInstagramで見る umiken(@umiken60)がシェアした投稿 – 2020年 2月月8日午後3時48分PST この投稿をInstagramで見る 京都コトハジメ(M&K FUKUNAGA)(@kyoto_kotohajime)がシェアした投稿 – 2020年 2月月13日午前4時50分PST ออกจากวัดเลยมาอีกหน่อย มีอีกจุดหนึ่งที่พลาดไม่ได้คือสวนไผ่ ฟังชื่อแล้วอาจดูธรรมดา ลองดูรูปเป็นตัวอย่างแล้วกันนะครับ ว่ามันน่าไปเดินเล่นแค่ไหน พักสายตาจากใบไม้สีแดงมาสูดอากาศดี ๆ ที่อุโมงค์ไผ่สีเขียวสดชื่นที่นี่กันนะครับ สุดท้ายนี้ แวะไปพูดคุยกับ ปริศนะ ปุญพ์ ได้ที่เฟซบุ๊คแฟนเพจ “บันทึกจากแดนอาทิตย์” นะครับ この投稿をInstagramで見る @k__viewがシェアした投稿 – 2020年 5月月7日午前2時58分PDT ดูบทความที่เกี่ยวข้อง About the author ปริศนะ ปุญพ์ ดูบทความผู้เขียน ” ปริศนะ ปุญพ์ หนุ่มไทยไกลบ้าน ผู้ผ่านร้อนผ่านหนาวในโอซาก้ามานานกว่า 3 ปี และคงจะใช้ชีวิตอย่างสงบที่ประเทศญี่ปุ่นไปอีกสักพัก ปริศนะ ปุญพ์ เป็นคนพูดน้อย น้อยซะจนเรียกว่าไม่พูดเลย จนกลายเป็นคนที่เข้าถึงได้ยาก มีคนบางคนพยายามแกล้งจะมองตาชายหนุ่มคนนี้ ด้วยหวังให้ดวงตาจะเป็นหน้าต่างของหัวใจ หวังให้เป็นช่องทางเข้าไปสู่โลกส่วนตัวของเขา แต่ทว่าปริศนะ ปุญพ์ ก็หลบสายตาทุกครั้ง หน้าต่างบานนี้คงไม่เหมาะสำหรับเจาะใจชายคนนี้ แต่ !!! มันก็มีหน้าต่างบานหนึ่งนะที่ปริศนะ ปุญพ์ ไม่เคยปิด นั่นคือบทความต่าง ๆ ที่เขาเขียนไว้ในโซเชียลเน็ตเวิร์ค และตั้งแต่เดือนธันวาคม 2559 เป็นต้นไป ปริศนะ ปุญพ์ ได้สร้างต่างบานใหม่ บานใหญ่ขึ้น ด้วยการตกลงรับงานนักเขียนในเว็บไซต์นี้ เขาหวังเป็นอย่างยิ่งบทความของเขาจะสร้างความเพลิดเพลินให้กับผู้อ่าน และเป็นสื่อให้ผู้อ่านได้ยินเสียงที่ดังอยู่ในความคิดของเขาได้ ปล. เขาว่ากันว่าคนมีโลกส่วนตัวสูงแบบปริศนะ ปุญพ์ มักเข้าถึงจาก แต่ถ้าเข้าถึงใจเขาได้แล้ว เขาจะรักคุณตลอดไป ” คิดถูกใจ Komachi JAPAN ถูกใจ แชร์เลย
พาดหัวบทความนี้อาจดูเวอร์ไปนิด แต่จริง ๆ แล้วมันสวยยิ่งกว่าคำว่า “สุดยอด” ไปเยอะครับสำหรับจุดชมใบไม้แดงชื่อดังของเมืองเกียวโตแห่งนี้
ถ้ามาเที่ยวเกียวโต หรือโอซาก้า ในช่วงฤดูนี้แล้ว ไม่แวะมาที่นี่ ก็ถือว่าพลาดน่าดูนะครับ
การเดินทางก็ไม่ยากครับสามารถโดยสารรถไฟ JR สาย Sagano มาลงที่สถานี Saga-Arashiyama แล้วเดินอีกประมาณสิบนาที
ตัวเลือกที่สองคือใช้บริการรถไฟ Keifuku Railways Keifuku แล้วลงที่สถานี Arashiyama Station จะถึงตรงบริเวณใจกลางของอะระชิยะมะเลยครับ
และทางเลือกที่ 3 เป็นการเดินทางที่ปริศนะ ปุญพ์ คุ้นเคย และชื่นชอบ นั่นคือการเดินทางด้วยรถไฟฮันคิว รถไฟสีเลือดหมู ที่ตกแต่งด้านในด้วยวอลเปเปอร์ลายไม้ และเบาะกำมะหยี่สีเขียวอ่อน ประกอบกับบริเวณโดยรอบสถานีที่ตกแต่งอย่างคลาสิค และแตกต่างจากสถานีอื่น ทำให้ ปริศนะ ปุญพ์ ชื่นชอบการเดินทางมาที่นี่ด้วยรถไฟสายนี้ สำหรับท่านที่เดินทางมาจากโอซาก้า ปริศนะ ปุญพ์ แนะนำให้มาด้วยรถไฟฮันคิวนะครับ นั่งสายเกียวโตจากสถานีอุเมะดะ แล้วมาเปลี่ยนรถไฟที่สถานีคะสึระ แล้วขึ้นรถไฟสายอะระชิยะมะ ไปจนถึงสถานีสุดท้ายนะครับ
เอาเป็นว่า ในบทความนี้จะแนะนำการเดินเล่นบริเวณอะระชิยะมะ จากสถานีรถไฟฮันคิวแล้วกันนะครับ
เช่นเดียวกันกับจุดชมใบไม้แดงชื่อดังที่อื่น ๆ นะครับ ลงรถไฟแล้วก็กรูตามคนส่วนใหญ่ที่ถือกล้อง ดูท่าทางเป็นนักชื่นชมธรรมชาติทั้งหลายไปคงไม่หลงครับ
เดิน ๆ ไปสักพักก็จะมาถึงไฮไลต์จุดแรกสะพานไม้โทะเกะสึเคียว (とげつきょう) หรือแปลเป็นไทยว่าสะพานข้ามจันทร์ นอกจากชื่อที่ฟังดูโรแมนติก บรรยากาศโดยรอบแถวนี้ก็โรแมนติกไม่แพ้กันนะครับ วิวแม่น้ำทอดยาวสุดสายตา กับวิวภูเขาที่เต็มไปด้วยใบไม้หลากสีในช่วงฤดูใบไม้ร่วง
ชื่นชมบรรยากาศพร้อมกับถ่ายรูปกับสะพานจนหนำใจแล้ว ก็เดินข้ามไปอีกฝั่ง ไปชมใบไม้แดงกันใกล้ ๆ ในย่านอะระชิยะมะ นอกจากใบไม้แดง ก็มีร้านค้า ร้านอาหาร ค่าเฟ่มากมายตั้งเรียงรายอยู่ในอาคารสุดคูล
แวะเข้าวัดเท็นริวจิไปสักการะพระญี่ปุ่นเป็นสิริมงคลสักนิดก็ดีเหมือนกันนะครับ ในวัดนี้ก็มีวิวสวย ๆ ใบไม้แดงเยอะแยะให้เดินกันเพลินเลยครับ ค่าเข้า 500 เยน สำหรับผู้ใหญ่ และ 300 เยน สำหรับนักเรียนชั้นประถม และมัธยมต้น ส่วนเด็กเล็กเข้าฟรีครับ
ออกจากวัดเลยมาอีกหน่อย มีอีกจุดหนึ่งที่พลาดไม่ได้คือสวนไผ่ ฟังชื่อแล้วอาจดูธรรมดา ลองดูรูปเป็นตัวอย่างแล้วกันนะครับ ว่ามันน่าไปเดินเล่นแค่ไหน พักสายตาจากใบไม้สีแดงมาสูดอากาศดี ๆ ที่อุโมงค์ไผ่สีเขียวสดชื่นที่นี่กันนะครับ
สุดท้ายนี้ แวะไปพูดคุยกับ ปริศนะ ปุญพ์ ได้ที่เฟซบุ๊คแฟนเพจ “บันทึกจากแดนอาทิตย์” นะครับ
About the author
ปริศนะ ปุญพ์
”
ปริศนะ ปุญพ์ หนุ่มไทยไกลบ้าน ผู้ผ่านร้อนผ่านหนาวในโอซาก้ามานานกว่า 3 ปี และคงจะใช้ชีวิตอย่างสงบที่ประเทศญี่ปุ่นไปอีกสักพัก
ปริศนะ ปุญพ์ เป็นคนพูดน้อย น้อยซะจนเรียกว่าไม่พูดเลย จนกลายเป็นคนที่เข้าถึงได้ยาก มีคนบางคนพยายามแกล้งจะมองตาชายหนุ่มคนนี้ ด้วยหวังให้ดวงตาจะเป็นหน้าต่างของหัวใจ หวังให้เป็นช่องทางเข้าไปสู่โลกส่วนตัวของเขา แต่ทว่าปริศนะ ปุญพ์ ก็หลบสายตาทุกครั้ง หน้าต่างบานนี้คงไม่เหมาะสำหรับเจาะใจชายคนนี้
แต่ !!! มันก็มีหน้าต่างบานหนึ่งนะที่ปริศนะ ปุญพ์ ไม่เคยปิด นั่นคือบทความต่าง ๆ ที่เขาเขียนไว้ในโซเชียลเน็ตเวิร์ค
และตั้งแต่เดือนธันวาคม 2559 เป็นต้นไป ปริศนะ ปุญพ์ ได้สร้างต่างบานใหม่ บานใหญ่ขึ้น ด้วยการตกลงรับงานนักเขียนในเว็บไซต์นี้ เขาหวังเป็นอย่างยิ่งบทความของเขาจะสร้างความเพลิดเพลินให้กับผู้อ่าน และเป็นสื่อให้ผู้อ่านได้ยินเสียงที่ดังอยู่ในความคิดของเขาได้
ปล. เขาว่ากันว่าคนมีโลกส่วนตัวสูงแบบปริศนะ ปุญพ์ มักเข้าถึงจาก แต่ถ้าเข้าถึงใจเขาได้แล้ว เขาจะรักคุณตลอดไป
”
คิดถูกใจ