สวัสดีครับ บทความชิ้นแรกที่เหมือนเป็นหน้าต่างความคิดบานใหม่ของผู้ชายเงียบ ๆ ที่ชื่อ “ปริศนะ ปุญพ์” ชิ้นนี้ ขออัปเดทสถานที่ท่องเที่ยวในโอซาก้าให้เข้ากับฤดูกาลหน่อยนะครับ

เช้าวันที่ 28 พฤศจิกายน 2559 ณ ชุมชนเล็ก ๆ ทางตอนเหนือของจังหวัดโอซาก้า ประเทศญีปุ่น 
ปริศนะ ปุญพ์ กระเสือกกระสนลนลานตื่นขึ้นมาพร้อมกับเสียงนาฬิกาปลุก เขารีบลุกเดินไปเปิดประตู และเปิดหน้าต่างที่ระเบียงเพื่อรับแสงสว่างยามเช้า แต่ทันใดที่เขาเปิดประตูหน้าต่าง ความร้อนรนในยามเช้ากลับถูกสยบด้วยภาพที่ปรากฎอยู่ตรงหน้าเขา ภาพบ้านสไตล์ญี่ปุ่นหลังใหญ่ที่อยู่ตรงข้าม และฉากหลังที่เป็นภูเขามิโนที่ถูกแต่งแต้มด้วยใบไม้สีแดง น้ำตาล เหลือง ฉุดให้เขายืนนิ่งแล้วนึกถึงวันเก่า ๆ บนภูเขาแห่งนั้น ภาพวันดี ๆ ที่พี่สาว และน้องชายแสนดีจากประเทศไทยมาเยี่ยมเขาเมื่อปีก่อน ภาพที่พวกเราเพลิดเพลินเดินชิลในบรรยากาศสุดคูลได้ไหลเข้ามาในหัวเขาอย่างต่อเนื่อง คิดแล้วเขาก็อดไม่ได้ที่จะบอกเล่าสถานที่ดี ๆ แห่งนี้ ให้คนไทยได้รู้จักและแวะเวียนมาสัมผัสบรรยากาศอันยอดเยี่ยมที่นี่

 

この投稿をInstagramで見る

 

lemonlime(@lemonlime0828)がシェアした投稿 – 2020年 5月月4日午後11時05分PDT

บนภูเขาแห่งนี้ มีวัดพุทธที่ชื่อว่า “คะสึโอะจิ (勝尾寺)”　วัดเก่าแก่ที่ชื่อมีความหมายดี ๆ แปลว่า “ชัยชนะ” แห่งนี้ สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1289 วัดบนเขาสูงทางตอนเหนือของโอซาก้าแห่งนี้ที่แม้ว่าจะเดินทางมาถึงได้อย่างยากลำบาก แต่รับรองคุ้มค่ากับการมาเยือนแน่นอนครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ที่นี่ถือเป็นจุดชมใบไม้แดงที่มีชื่อเสียงของโอซาก้าแห่งหนึ่งเลยที่เดียว
ทีนี้เราไปสำรวจข้างในวัดกันเลยนะครับ เริ่มจากทางเข้า นอกจากซุ้มประตูแบบญี่ปุ่นที่น่าไปถ่ายรูปด้วยแล้ว ก็มีสะพานที่ทอดยาวจากประตูวัดข้ามยังตัววัด และสิ่งหนึ่งที่จะทำให้คุณรู้สึกอเมซิ่งคือไอน้ำที่พ่นออกมารอบสะพาน ปริศนะ ปุญพ์ ก็จินตนาการไปเองว่า ไอน้ำพวกนี้นี่มันให้ความรู้สึกขณะเดินข้ามสะพานเหมือนเดินข้ามสะพานไปสู่สรวงสวรรค์เลยนะครับ

ประตูทางเข้า (ภาพโดย ปริศนะ ปุญพ์)

พอเดินข้ามสะพานมาถึงสวรรค์นะครับ คุณจะพบบันไดหินทอดยาวที่ประดับด้วยโคมไฟหินสไตล์ญี่ปุ่นตลอดเส้นทาง และที่สำคัญมีต้นเมเปิลที่กำลังเปลี่ยนสีเป็นสีแดงปกคลุมเป็นอุโมงค์ตลอดเส้นทาง

(ภาพโดย ปริศนะ ปุญพ์)

(ภาพโดย ปริศนะ ปุญพ์)

(ภาพโดย ปริศนะ ปุญพ์)
หลังจากเดินตามบันไดนี้ไปจนถึงส่วนบนสุดของวัด คุณจะได้สัมผัสกับเสียงแห่งธรรมะ พุทธมนต์สไตล์ญี่ปุ่นซึ่งคุณอาจไม่เข้าใจ ปริศนะ ปุญพ์ เองก็ฟังไม่ออกครับ แหะ ๆ แต่ก็เพราะดี ฟังเสียงพระสวด ยืนชมวิวโอซาก้าจากมุมสูง พร้อมกลิ่นธูปญี่ปุ่นหอม ๆ แล้วค่อยเดินกลับลงมานะครับ

จุดเด่นของวัดนี้อีกอย่างหนึ่งคือตุ๊กตาดารุมะ ตุ๊กตาสีแดงหน้าตาเหมือนในรูปที่ตั้งอยู่หลายซอกหลายมุมทั่วบริเวณวัด ตามกิ่งไม้ ซอกหิน และริมสระ ฯลฯ โดยทั่วไปแล้ว ตุ๊กตาตัวนี้จะมีสีแดง แต่ก็มีสีอื่นอยู่ด้วยนะครับ ถ้าใครมาเที่ยวที่นี่ลองหาดูนะครับว่ามีสีอะไรบ้าง

(ภาพโดย ปริศนะ ปุญพ์)
สำหรับการเดินทาง ให้นั่งรถไฟใต้ดิน Osaka Municipal Subway สายสีแดง มาลงที่สถานี Senrichuo แล้วมองหารสบัสที่ตรงไปยังวัดคะสึโอะจิ (มีให้บริการในช่วงฤดูใบไม้ร่วง) 
ขากลับ แนะนำให้กลับมาที่ป้ายรถบัสหน้าวัดประมาณสามโมงกว่า ๆ เพราะรถบัสรอบสุดท้ายจะออกเวลาประมาณสี่โมง ถ้าพลาดบัสรอบสุดท้ายอาจต้องพึ่งรถแท็กซี่ ซึ่งแพงและหายากด้วยเพราะวัดอยู่บนเขานะครับ ความจริงช่วงกลางคืนมีการฉายไฟประดับ แต่อาจจะหารถกลับยากนะครับ

อ้อ ลืมบอก ค่าเข้าชมไม่ฟรีนะครับ 400 เยน สำหรับผู้ใหญ่ 300 เยน สำหรับเด็กตั้งแต่มัธยมต้นลงไป
แล้วแวะมาเที่ยวที่นี่นะครับ ต้นเดือนธันวาคมคงยังทันดูใบไม้แดงอยู่

About the author

ปริศนะ ปุญพ์

ดูบทความผู้เขียน

”

ปริศนะ ปุญพ์　หนุ่มไทยไกลบ้าน ผู้ผ่านร้อนผ่านหนาวในโอซาก้ามานานกว่า 3 ปี และคงจะใช้ชีวิตอย่างสงบที่ประเทศญี่ปุ่นไปอีกสักพัก
ปริศนะ ปุญพ์ เป็นคนพูดน้อย น้อยซะจนเรียกว่าไม่พูดเลย จนกลายเป็นคนที่เข้าถึงได้ยาก มีคนบางคนพยายามแกล้งจะมองตาชายหนุ่มคนนี้ ด้วยหวังให้ดวงตาจะเป็นหน้าต่างของหัวใจ หวังให้เป็นช่องทางเข้าไปสู่โลกส่วนตัวของเขา แต่ทว่าปริศนะ ปุญพ์ ก็หลบสายตาทุกครั้ง หน้าต่างบานนี้คงไม่เหมาะสำหรับเจาะใจชายคนนี้
แต่ !!! มันก็มีหน้าต่างบานหนึ่งนะที่ปริศนะ ปุญพ์ ไม่เคยปิด นั่นคือบทความต่าง ๆ ที่เขาเขียนไว้ในโซเชียลเน็ตเวิร์ค
และตั้งแต่เดือนธันวาคม 2559 เป็นต้นไป ปริศนะ ปุญพ์ ได้สร้างต่างบานใหม่ บานใหญ่ขึ้น ด้วยการตกลงรับงานนักเขียนในเว็บไซต์นี้ เขาหวังเป็นอย่างยิ่งบทความของเขาจะสร้างความเพลิดเพลินให้กับผู้อ่าน และเป็นสื่อให้ผู้อ่านได้ยินเสียงที่ดังอยู่ในความคิดของเขาได้
ปล. เขาว่ากันว่าคนมีโลกส่วนตัวสูงแบบปริศนะ ปุญพ์ มักเข้าถึงจาก แต่ถ้าเข้าถึงใจเขาได้แล้ว เขาจะรักคุณตลอดไป

”