ใบไม้แดงที่สวนโนริตาเกะ: แหล่งผลิตเครื่องแก้วและเซรามิคที่หรูหราที่สุดในโลก 2018/08/28 ใบไม้แดงที่สวนโนริตาเกะ: แหล่งผลิตเครื่องแก้วและเซรามิคที่หรูหราที่สุดในโลก 2018/08/28 Credit: ผู้เขียน เราจะพาเพื่อนๆ ไปเปิดประสบการณ์ใบไม้แดงที่สวนโนริตาเกะ (Noritake Garden : ノリタケの森) แหล่งผลิตเครื่องแก้วและเซรามิคที่หรูหราที่สุดในโลกกันค่ะ Credit: ผู้เขียน เริ่มต้นทริปด้วยการขับรถจากแถวๆ สถานีนาโกย่า (ใครใช้รถรถไฟเราบอกวิธีการเดินทางไว้ตอนท้ายนะคะ) เห็นใบไม้เหลืองสดกันแล้วใช่มั้ยเอ่ย ฤดูใบไม้ร่วงแน่นอนค่ะแบบนี้ วันที่เราไปคือ 2 ธันวาคม 2560 ปีที่แล้วค่ะ ซึ่งเป็นปีที่หนาวช้า ทำให้ยังเห็นใบไม้แดงกันอยู่ จริงๆ แล้วควรจะไปช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนโดยปรกตินะคะ Credit: ผู้เขียน กดเนวิเกเตอร์ในรถซึ่งเป็นภาษาญี่ปุ่น…เพื่อนเป็นชาวญี่ปุ่นก็เลยสบายไปค่ะ Credit: ผู้เขียน แต่อย่างไรก็ตาม เปิดแผนที่กระดาษนี่แหละค่ะ งงน้อยที่สุด เอาชัวร์ๆ ว่าไปถูกทิศแน่นะ เป้าหมายคือสวนโนริตาเกะ (Noritake Garden : ノリタケの森 หรืออ่านว่า Noritake-no-Mori) Credit: ผู้เขียน ขับจากสถานีนาโกย่ามาเพียง 10 นาที ก็ถึงแล้วค่ะ เราจะต้องไปที่จอดรถฝั่งประตูทิศเหนือของสวน (North Gate) ถนนก็จะเงียบสงัดแบบนี้ค่ะ มาเช้าเกินคือมาเปิดสวนเลยตอน 10.00 น. Credit: ผู้เขียน กดรับบัตรจอดรถ (เสียค่าจอดไม่กี่ร้อยเยนค่ะ) Credit: ผู้เขียน ที่จอดรถได้ถึง 165 คัน กว้างๆ โล่งๆ แทบไม่มีคนเลยค่ะ Credit: ผู้เขียน เพื่อนชาวญี่ปุ่นเรียกให้เรามาดู นี่ๆ จากลานจอดรถเดินไป 80 เมตร ก็จะเจอ North Gate ของสวนโนริตาเกะ Credit: ผู้เขียน แต่พอเข้าไปในสวนแล้ว เดินไกลเหมือนกันเนอะ จะไหวมั้ยเรา ยังเมาขี้ตาอยู่เลย Credit: ผู้เขียน จุดไฮไลท์ของสวนโนริตาเกะ คือ อาคารอิฐสีแดง ที่มีปล่อง 6 ปล่อง หรือ Six Chimneys ได้รับเลือกจากกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของประเทศญี่ปุ่นให้เป็นแหล่งประวัติศาสตร์อุตสาหกรรมสมัยใหม่ Credit: ผู้เขียน ในขณะที่เรากำลังศึกษาแผนผังของสวนโนริตาเกะอยู่นั้น…พี่ รปภ. เห็นเราทำท่าทางเป็นนักท่องเที่ยว ฮ่าๆ ก็นักท่องเที่ยวจริงๆ นี่นา พี่เค้าก็ยิ้ม ๆ และบอกว่าเดินไปไม่ไกล ทางนั้นๆ ก็จะถึงครับผม Credit: ผู้เขียน ระหว่างทางเดินทางจากลานจอดรถไปสวนโนริตาเกะ จะมีป้ายบอกเป็นระยะ ไม่ต้องกลัวหลงค่ะ (คือแค่ 80 เมตรเอง จะหลงก็ให้รู้กันไปซิคะ แหมๆ) Credit: ผู้เขียน เดินแค่นิดเดียวก็ถึงประตู North Gate ของสวนนิตาเกะแล้วค่ะ Credit: ผู้เขียน จากจุดนี้ขอเริ่มต้นการชมสวนอย่างเป็นทางการ จากประตูทางทิศเหนือของสวนโนริตาเกะ (Noritake Garden : ノリタケの森) เดินเข้าทางนี้ค่อนข้างไกลกว่าจะถึงใจกลางของสวนและจุดไฮไลท์ ถ้าเทียบกับประตูอีกทิศนึงที่มาจากสถานีรถไฟนะคะ Credit: ผู้เขียน เมื่อเดินเข้ามา ก็จะผ่านสวนที่จะเป็นเหมือนลานสนามหญ้าโล่งๆ มีต้นไม้สีเหลืองแดงสมกับเป็นฤดูใบไม้ร่วงจริงๆค่ะ Credit: ผู้เขียน ต้นสน ใบเมเปิ้ล ใบแปะก๊วย สีเหลืองและสีแดง ผสมกันอยู่ ขนาดเราถ่ายรูปไม่ค่อยเก่งยังถ่ายออกมาสวยดีเนอะ Credit: ผู้เขียน ถ่ายรูปไปเพลินๆ ไม่ทันไร ก็จะถึงบริเวณที่เป็นปล่องทั้ง 6 ปล่องตั้งตระหง่านด้วยความสูงถึง 8 เมตร เรียงรายกันอยู่ค่ะ เรียกว่าเป็นไฮไลท์และเป็นแลนด์มาร์คของสวนโนริตาเกะ แสดงถึงความเป็นนาโกย่า เมืองอุตสาหกรรมอย่างแท้จริง Credit: ผู้เขียน ความเจริญรุ่งเรืองในสมัยก่อน ลองย้อนนึกไปถึง โรงงานผลิตเซรามิคที่ต้องใช้เตาเผาถึง 6 เตาใหญ่ๆ ขนาดนี้ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว Credit: ผู้เขียน เพื่อนชาวญี่ปุ่นช่วยอ่านประวัติความเป็นมาและสรุปให้ฟังง่ายๆ ว่าคือเตาเผาเซรามิคในสมัยก่อน ที่ยังคงซากไว้ให้เห็น พอเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาก็เลิกใช้นานแล้ว และกลายเป็นอนุสรณ์สถานถึงความเจริญรุ่งเรืองขั้นสูงสุดของโนริตาเกะในช่วงผลิตอุตสาหกรรมเซรามิคสไตล์ยุโรป ผสมความเป็นญี่ปุ่นนั่นเองค่ะ Credit: ผู้เขียน เป็นความภาคภูมิใจขั้นสูงสุดอย่างหนึ่งของเมืองนาโกย่าที่ได้ผลิตเครื่องแก้วเซรามิค หรูหราระดับ Hi Class ที่เรียกว่าในปัจจุบันแพงที่สุดถึงที่สุด โดยส่วนตัวเราเองไม่มีปัญญาซื้อแน่นอนค่ะ แก้วจานชามชุดนึงไม่ต่ำกว่า 5,000 บาท มีการประมูลกันด้วยนะคะในเว็บไซต์หรือร้านขายของเก่าต่างๆ ท่าพลิกจานมาดูว่าเป็นแบรนด์โนริตาเกะ เรียกได้ว่ายิ่งเก่ายิ่งแพงค่ะ Credit: ผู้เขียน สิ่งก่อสร้างหนึ่งที่ เป็นสัญลักษณ์ของโนริตาเกะก็คืออาคารอิฐแดงของโรงงานอันเก่าแก่ ลักษณะแบบนี้นะคะ แถวๆ นี้จะมีอาคารอิฐลักษณะเก่าแก่แบบนี้เยอะอยู่ค่ะ ข้างๆ กัน ในโรงงาน Toyota เดิม ซึ่งปัจจุบันเป็นบริเวณของพิพิธภัณฑ์อนุสรณ์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยีโตโยต้า เคยได้เขียนไปแล้วตามลิงค์ พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยีโตโยต้า “Toyota Commemorative Museum of Industry and Technology” (トヨタ産業技術記念館) ในเมืองนาโกย่า http://komachijp.com/other-spot/16209 Credit: ผู้เขียน สามารถเดินชมวิวชิลๆ ในวันสบายๆ หลีกหนีความวุ่นวายและความเจริญ ในเมืองนาโกย่า Credit: ผู้เขียน เหมือนก้าวมาสู่อีกโลกนึงค่ะ ทุกคนต่างเดินแบบเงียบๆ ไม่มีใครคุยกันด้วยเสียงดังไม่มีทัวร์ลงด้วยค่ะ Credit: ผู้เขียน ในพื้นที่สวนโนริตาเกะ ที่เป็นอาคารอิฐแดงโบราณมีร้านอาหารเปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยวอีกด้วย น่านั่งมากค่ะ Credit: ผู้เขียน เดินผ่านอาคารอิฐแดง จนมาเจอจุดน้ำพุกลางสวนเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่จะต้องมาถ่ายภาพนะคะ Credit: ผู้เขียน ให้เรายืนหันหน้าเข้าอาคารอิฐแดงก็จะได้ภาพที่สวยงาม ด้านหน้าเป็นน้ำพุ ด้านหลังเป็น โรงงานอิฐสีแดง พร้อมด้วยต้นไม้ใบสีเหลืองสีแดงแบบนี้เข้ากันที่สุด เป็นสีสันในช่วงฤดูใบไม้ร่วงหรือใบไม้เปลี่ยนสีนั่นเอง Credit: ผู้เขียน แต่ถ้าหันไปอีกทางหนึ่งก็จะเป็นวิวของอาคาร ที่มีความเจริญสมัยใหม่ อาคารตึกสูงของเมืองนาโกย่าเป็นฉากหลัง ก็ได้ฟิลลิ่งอีกแบบนึงนะคะ Credit: ผู้เขียน เราถ่ายทุกมุมเลยค่ะ 4 มุมให้รู้กันไป ถึงความสวยปัง!! Credit: ผู้เขียน นอกจากนี้ ในส่วนของสวนโนริตาเกะก็จะมีบริเวณที่เป็นขายสินค้า เครื่องแก้วเซรามิคระดับโลกนะคะและมีส่วนของพิพิธภัณฑ์ด้วย ไว้เราจะพาไปค่ะ Credit: ผู้เขียน เดินชมสวนเสร็จแล้ว วนออกก็จะเจอเหมือนเป็นศาลเจ้าเล็กๆ นะคะ มีใบเมเปิ้ลหรือที่ชาวญี่ปุ่นเรียกว่าโมมิจิ สีแดงส้มอยู่หน้าศาลเจ้าสวยงามมาก แวะถ่ายรูปและสักการะขอพร ก่อนกลับค่ะ Credit: ผู้เขียน สรุปใช้เวลาในสวนโนริตาเกะ ประมาณ 1 ชั่วโมงเดินเล่นในสวน และพิพิธภัณฑ์อีกประมาณครึ่งชั่วโมงก็เรียกว่าหมดเวลา Credit: ผู้เขียน เป็นทริปสั้นๆ ที่ ใช้เวลาได้คุ้มค่า ได้ภาพที่สวยงามและน่าประทับใจที่สุดเลยค่ะ ถ้ามาในช่วงเวลาอื่นที่ไม่ใช่ใบไม้เปลี่ยนสีก็จะได้เจอต้นไม้เขียวเขียวชอุ่ม สนามหญ้าเขียวๆ ก็สวยไปอีกแบบนะคะ Credit: ผู้เขียน เดินกลับออกทางเดิมเพราะว่าจอดรถไว้บริเวณลานจอดรถนะคะ ก่อนเคลื่อนตัวรถออกจากลานก็ขอเก็บภาพเกร๋ๆ สมบูรณ์แบบจริงๆ สำหรับการพักผ่อนสั้นๆ ในสวนโนริตาเกะใจลางนาโกย่าที่สงบสุข จัดแต่งสวนอย่างดี ท่ามกลางอาคารอิฐแดงที่มีประวัติยาวนาน ให้การผ่อนคลายที่สันติจากเมืองที่พลุกพล่านโดยรอบ ที่ตั้ง: 3-1-36, Noritake Shinmachi, Nishi-ku, Nagoya City, Aichi, 451-8501 โทร: +81 52-561-7142 เวลาเปิดปิด: 10.00-18.00 น. วันหยุด: วันจันทร์ (หากวันจันทร์เป็นวันหยุดราชการหรือวันหยุดชดเชย จะหยุดวันถัดไป)ช่วงวันสิ้นปีและปีใหม่ การเดินทาง ・ขึ้นรถไฟใต้ดินสายฮิกาชิยามะ ที่สถานีนาโกย่า และลงที่สถานีคาเมจิมะ แล้วเดินจากทางออก 2 ใช้เวลา 5 นาที / ลงที่สถานีนาโกย่า แล้วเดิน 15 นาที ・ขึ้นรถไฟสายหลักเมอิเท็ตสึนาโกย่าที่สถานีนาโกย่า และลงที่สถานีซาโคอุ แล้วเดิน 15 นาที การเดินทางโดยรถยนค์: 10 นาทีจากทางด่วนนาโกย่า ทางออกเส้นทางวงแหวนนิชิคิบาชิ แผนที่ : ดูบทความที่เกี่ยวข้อง About the author RiangSupod ดูบทความผู้เขียน เลขาสาวผู้ชื่นชอบการท่องเที่ยว อาหาร และวัฒนธรรมญี่ปุ่น จบปริญญาตรีจากคณะอักษรศาสตร์-ปริญญาโทรัฐศาสตร์ จุฬาฯ เคยอาศัยอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น และได้เดินทางไปทำงานและไปท่องเที่ยวที่ญี่ปุ่นบ่อยๆ ทำให้มีเพื่อนทั้งชาวไทยและชาวญี่ปุ่นทุกเพศทุกวัย ปัจจุบันเป็นเลขานุการผู้บริหารระดับสูงของรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง คิดถูกใจ Komachi JAPAN ถูกใจ แชร์เลย
เราจะพาเพื่อนๆ ไปเปิดประสบการณ์ใบไม้แดงที่สวนโนริตาเกะ (Noritake Garden : ノリタケの森) แหล่งผลิตเครื่องแก้วและเซรามิคที่หรูหราที่สุดในโลกกันค่ะ
เริ่มต้นทริปด้วยการขับรถจากแถวๆ สถานีนาโกย่า (ใครใช้รถรถไฟเราบอกวิธีการเดินทางไว้ตอนท้ายนะคะ) เห็นใบไม้เหลืองสดกันแล้วใช่มั้ยเอ่ย ฤดูใบไม้ร่วงแน่นอนค่ะแบบนี้ วันที่เราไปคือ 2 ธันวาคม 2560 ปีที่แล้วค่ะ ซึ่งเป็นปีที่หนาวช้า ทำให้ยังเห็นใบไม้แดงกันอยู่ จริงๆ แล้วควรจะไปช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนโดยปรกตินะคะ
กดเนวิเกเตอร์ในรถซึ่งเป็นภาษาญี่ปุ่น…เพื่อนเป็นชาวญี่ปุ่นก็เลยสบายไปค่ะ
แต่อย่างไรก็ตาม เปิดแผนที่กระดาษนี่แหละค่ะ งงน้อยที่สุด เอาชัวร์ๆ ว่าไปถูกทิศแน่นะ เป้าหมายคือสวนโนริตาเกะ (Noritake Garden : ノリタケの森 หรืออ่านว่า Noritake-no-Mori)
ขับจากสถานีนาโกย่ามาเพียง 10 นาที ก็ถึงแล้วค่ะ เราจะต้องไปที่จอดรถฝั่งประตูทิศเหนือของสวน (North Gate) ถนนก็จะเงียบสงัดแบบนี้ค่ะ มาเช้าเกินคือมาเปิดสวนเลยตอน 10.00 น.
กดรับบัตรจอดรถ (เสียค่าจอดไม่กี่ร้อยเยนค่ะ)
ที่จอดรถได้ถึง 165 คัน กว้างๆ โล่งๆ แทบไม่มีคนเลยค่ะ
เพื่อนชาวญี่ปุ่นเรียกให้เรามาดู นี่ๆ จากลานจอดรถเดินไป 80 เมตร ก็จะเจอ North Gate ของสวนโนริตาเกะ
แต่พอเข้าไปในสวนแล้ว เดินไกลเหมือนกันเนอะ จะไหวมั้ยเรา ยังเมาขี้ตาอยู่เลย
จุดไฮไลท์ของสวนโนริตาเกะ คือ อาคารอิฐสีแดง ที่มีปล่อง 6 ปล่อง หรือ Six Chimneys ได้รับเลือกจากกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของประเทศญี่ปุ่นให้เป็นแหล่งประวัติศาสตร์อุตสาหกรรมสมัยใหม่
ในขณะที่เรากำลังศึกษาแผนผังของสวนโนริตาเกะอยู่นั้น…พี่ รปภ. เห็นเราทำท่าทางเป็นนักท่องเที่ยว ฮ่าๆ ก็นักท่องเที่ยวจริงๆ นี่นา พี่เค้าก็ยิ้ม ๆ และบอกว่าเดินไปไม่ไกล ทางนั้นๆ ก็จะถึงครับผม
ระหว่างทางเดินทางจากลานจอดรถไปสวนโนริตาเกะ จะมีป้ายบอกเป็นระยะ ไม่ต้องกลัวหลงค่ะ (คือแค่ 80 เมตรเอง จะหลงก็ให้รู้กันไปซิคะ แหมๆ)
เดินแค่นิดเดียวก็ถึงประตู North Gate ของสวนนิตาเกะแล้วค่ะ
จากจุดนี้ขอเริ่มต้นการชมสวนอย่างเป็นทางการ จากประตูทางทิศเหนือของสวนโนริตาเกะ (Noritake Garden : ノリタケの森) เดินเข้าทางนี้ค่อนข้างไกลกว่าจะถึงใจกลางของสวนและจุดไฮไลท์ ถ้าเทียบกับประตูอีกทิศนึงที่มาจากสถานีรถไฟนะคะ
เมื่อเดินเข้ามา ก็จะผ่านสวนที่จะเป็นเหมือนลานสนามหญ้าโล่งๆ มีต้นไม้สีเหลืองแดงสมกับเป็นฤดูใบไม้ร่วงจริงๆค่ะ
ต้นสน ใบเมเปิ้ล ใบแปะก๊วย สีเหลืองและสีแดง ผสมกันอยู่ ขนาดเราถ่ายรูปไม่ค่อยเก่งยังถ่ายออกมาสวยดีเนอะ
ถ่ายรูปไปเพลินๆ ไม่ทันไร ก็จะถึงบริเวณที่เป็นปล่องทั้ง 6 ปล่องตั้งตระหง่านด้วยความสูงถึง 8 เมตร เรียงรายกันอยู่ค่ะ เรียกว่าเป็นไฮไลท์และเป็นแลนด์มาร์คของสวนโนริตาเกะ แสดงถึงความเป็นนาโกย่า เมืองอุตสาหกรรมอย่างแท้จริง
ความเจริญรุ่งเรืองในสมัยก่อน ลองย้อนนึกไปถึง โรงงานผลิตเซรามิคที่ต้องใช้เตาเผาถึง 6 เตาใหญ่ๆ ขนาดนี้ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว
เพื่อนชาวญี่ปุ่นช่วยอ่านประวัติความเป็นมาและสรุปให้ฟังง่ายๆ ว่าคือเตาเผาเซรามิคในสมัยก่อน ที่ยังคงซากไว้ให้เห็น พอเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาก็เลิกใช้นานแล้ว และกลายเป็นอนุสรณ์สถานถึงความเจริญรุ่งเรืองขั้นสูงสุดของโนริตาเกะในช่วงผลิตอุตสาหกรรมเซรามิคสไตล์ยุโรป ผสมความเป็นญี่ปุ่นนั่นเองค่ะ
เป็นความภาคภูมิใจขั้นสูงสุดอย่างหนึ่งของเมืองนาโกย่าที่ได้ผลิตเครื่องแก้วเซรามิค หรูหราระดับ Hi Class ที่เรียกว่าในปัจจุบันแพงที่สุดถึงที่สุด โดยส่วนตัวเราเองไม่มีปัญญาซื้อแน่นอนค่ะ แก้วจานชามชุดนึงไม่ต่ำกว่า 5,000 บาท มีการประมูลกันด้วยนะคะในเว็บไซต์หรือร้านขายของเก่าต่างๆ ท่าพลิกจานมาดูว่าเป็นแบรนด์โนริตาเกะ เรียกได้ว่ายิ่งเก่ายิ่งแพงค่ะ
สิ่งก่อสร้างหนึ่งที่ เป็นสัญลักษณ์ของโนริตาเกะก็คืออาคารอิฐแดงของโรงงานอันเก่าแก่ ลักษณะแบบนี้นะคะ แถวๆ นี้จะมีอาคารอิฐลักษณะเก่าแก่แบบนี้เยอะอยู่ค่ะ ข้างๆ กัน ในโรงงาน Toyota เดิม ซึ่งปัจจุบันเป็นบริเวณของพิพิธภัณฑ์อนุสรณ์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยีโตโยต้า เคยได้เขียนไปแล้วตามลิงค์
สามารถเดินชมวิวชิลๆ ในวันสบายๆ หลีกหนีความวุ่นวายและความเจริญ ในเมืองนาโกย่า
เหมือนก้าวมาสู่อีกโลกนึงค่ะ ทุกคนต่างเดินแบบเงียบๆ ไม่มีใครคุยกันด้วยเสียงดังไม่มีทัวร์ลงด้วยค่ะ
ในพื้นที่สวนโนริตาเกะ ที่เป็นอาคารอิฐแดงโบราณมีร้านอาหารเปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยวอีกด้วย น่านั่งมากค่ะ
เดินผ่านอาคารอิฐแดง จนมาเจอจุดน้ำพุกลางสวนเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่จะต้องมาถ่ายภาพนะคะ
ให้เรายืนหันหน้าเข้าอาคารอิฐแดงก็จะได้ภาพที่สวยงาม ด้านหน้าเป็นน้ำพุ ด้านหลังเป็น โรงงานอิฐสีแดง พร้อมด้วยต้นไม้ใบสีเหลืองสีแดงแบบนี้เข้ากันที่สุด เป็นสีสันในช่วงฤดูใบไม้ร่วงหรือใบไม้เปลี่ยนสีนั่นเอง
แต่ถ้าหันไปอีกทางหนึ่งก็จะเป็นวิวของอาคาร ที่มีความเจริญสมัยใหม่ อาคารตึกสูงของเมืองนาโกย่าเป็นฉากหลัง ก็ได้ฟิลลิ่งอีกแบบนึงนะคะ
เราถ่ายทุกมุมเลยค่ะ 4 มุมให้รู้กันไป ถึงความสวยปัง!!
นอกจากนี้ ในส่วนของสวนโนริตาเกะก็จะมีบริเวณที่เป็นขายสินค้า เครื่องแก้วเซรามิคระดับโลกนะคะและมีส่วนของพิพิธภัณฑ์ด้วย ไว้เราจะพาไปค่ะ
เดินชมสวนเสร็จแล้ว วนออกก็จะเจอเหมือนเป็นศาลเจ้าเล็กๆ นะคะ มีใบเมเปิ้ลหรือที่ชาวญี่ปุ่นเรียกว่าโมมิจิ สีแดงส้มอยู่หน้าศาลเจ้าสวยงามมาก แวะถ่ายรูปและสักการะขอพร ก่อนกลับค่ะ
สรุปใช้เวลาในสวนโนริตาเกะ ประมาณ 1 ชั่วโมงเดินเล่นในสวน และพิพิธภัณฑ์อีกประมาณครึ่งชั่วโมงก็เรียกว่าหมดเวลา
เป็นทริปสั้นๆ ที่ ใช้เวลาได้คุ้มค่า ได้ภาพที่สวยงามและน่าประทับใจที่สุดเลยค่ะ ถ้ามาในช่วงเวลาอื่นที่ไม่ใช่ใบไม้เปลี่ยนสีก็จะได้เจอต้นไม้เขียวเขียวชอุ่ม สนามหญ้าเขียวๆ ก็สวยไปอีกแบบนะคะ
เดินกลับออกทางเดิมเพราะว่าจอดรถไว้บริเวณลานจอดรถนะคะ ก่อนเคลื่อนตัวรถออกจากลานก็ขอเก็บภาพเกร๋ๆ สมบูรณ์แบบจริงๆ สำหรับการพักผ่อนสั้นๆ ในสวนโนริตาเกะใจลางนาโกย่าที่สงบสุข จัดแต่งสวนอย่างดี ท่ามกลางอาคารอิฐแดงที่มีประวัติยาวนาน ให้การผ่อนคลายที่สันติจากเมืองที่พลุกพล่านโดยรอบ
ที่ตั้ง: 3-1-36, Noritake Shinmachi, Nishi-ku, Nagoya City, Aichi, 451-8501
โทร: +81 52-561-7142
เวลาเปิดปิด: 10.00-18.00 น.
วันหยุด: วันจันทร์ (หากวันจันทร์เป็นวันหยุดราชการหรือวันหยุดชดเชย จะหยุดวันถัดไป)ช่วงวันสิ้นปีและปีใหม่
การเดินทาง
・ขึ้นรถไฟใต้ดินสายฮิกาชิยามะ ที่สถานีนาโกย่า และลงที่สถานีคาเมจิมะ แล้วเดินจากทางออก 2 ใช้เวลา 5 นาที / ลงที่สถานีนาโกย่า แล้วเดิน 15 นาที
・ขึ้นรถไฟสายหลักเมอิเท็ตสึนาโกย่าที่สถานีนาโกย่า และลงที่สถานีซาโคอุ แล้วเดิน 15 นาที
การเดินทางโดยรถยนค์: 10 นาทีจากทางด่วนนาโกย่า ทางออกเส้นทางวงแหวนนิชิคิบาชิ
แผนที่ :
About the author
RiangSupod
เลขาสาวผู้ชื่นชอบการท่องเที่ยว อาหาร และวัฒนธรรมญี่ปุ่น จบปริญญาตรีจากคณะอักษรศาสตร์-ปริญญาโทรัฐศาสตร์ จุฬาฯ
เคยอาศัยอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น และได้เดินทางไปทำงานและไปท่องเที่ยวที่ญี่ปุ่นบ่อยๆ ทำให้มีเพื่อนทั้งชาวไทยและชาวญี่ปุ่นทุกเพศทุกวัย
ปัจจุบันเป็นเลขานุการผู้บริหารระดับสูงของรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง
คิดถูกใจ