Yokoyama farm (strawberry picking): ไร่สตรอเบอรี่บุฟเฟ่ต์ใกล้โตเกียวที่สุด

Yokoyama farm (strawberry picking): ไร่สตรอเบอรี่บุฟเฟ่ต์ใกล้โตเกียวที่สุด

Credit: ผู้เขียน

ขอพาไปไร่สตรอเบอรี่ที่ใกล้โตเกียวสุด ๆ ชื่อว่า ไร่สตรอเบอรี่โยโกยามา: Yokoyama farm (strawberry hunting) ในเมืองคิตะโมโตะ (Kitamoto) เพียงแค่นั่งรถไฟจากสถานีอุเอโนะไปไม่ถึง 1 ชั่วโมงค่ะ ประมาณ 45 นาทีเท่านั้นก็ถึงแล้ว ลงที่สถานีคิตะโมโตะ แล้วเดินไปที่ไร่อีกแค่ 5 นาทีเลยค่ะ

Credit: ผู้เขียน

โดยเราเริ่มเดินทางจากสถานีอุเอะโนะ (Ueno Station) นะคะ นั่งรถไฟไปเรื่อยๆ ชมวิวสองข้างทางก็จะผ่านเมืองโอมิยะ (Omiya) ในไซตามะ (Saitama) โดยไม่ต้องเปลี่ยนสายรถไฟอะไรใดๆ นะคะ

Credit: ผู้เขียน

จากอุเอโนะนั่งพุ่งดิ่งต่อไปเรื่อยๆ จนถึงสถานีคิตะโมโตะ (Kitamoto Station)

Credit: ผู้เขียน

ออกจากสถานี เดินตรงไปเรื่อยๆ ประมาณ 5 นาที ก็จะถึงไร่สตรอเบอรี่แล้วค่ะ เรียกว่าเดินใกล้มากๆ ถ้าเทียบกับไร่สตรอเบอรี่อื่นๆ ที่เราเคยไปทานมานะคะ

Credit: ผู้เขียน

ไร่สตรอเบอรี่โยโกยามา: Yokoyama farm (strawberry hunting) เหมือนกับอยู่ในหมู่บ้าน ท่ามกลางความเจริญ มีลานจอดรถ (จอดได้ 7 คัน) อยู่ข้างหน้าไร่ หรือที่ญี่ปุ่นเรียกว่าฟาร์มสตรอเบอรี่เลย

Credit: ผู้เขียน

เดินเรียบไปตามฟุตบาทเพื่อไปสู่ทางเข้า

Credit: ผู้เขียน

บริเวณหน้าฟาร์มสตอเบอรี่หรือไร่สตอเบอรี่นะคะ ก็จะเป็นโรงเรือน หลังคาใสๆ แบบนี้ล่ะค่ะ

Credit: ผู้เขียน

ด้านข้าง จริงๆ แล้วเป็นไร่องุ่นนะคะ

Credit: ผู้เขียน

แต่ว่าช่วงที่เราไปเป็นเดือนเมษายน ก็จะเป็นการตกแต่งต้นองุ่นให้หน้าตาโล้นๆ อย่างนี้ล่ะค่ะ

Credit: ผู้เขียน

เราก็เดินเข้าไปในโรงเรือนที่แง้มๆ ประตูไว้ (เงียบมาก ไม่มีนักท่องเที่ยวเลย) จะมีเจ้าของฟาร์มนั่งเฝ้าอยู่นะคะ

Credit: ผู้เขียน

ชำระเงินเรียบร้อยค่าเข้าคนละ 1,800 เยน ทานได้ไม่อั้นเต็มที่ไปเลย ให้เวลา 30 นาที ไม่ต้องจองก่อนล่วงหน้านะคะ walk-in ได้เลย สามารถตรวจสอบรายละเอียดได้ตามลิงค์

Credit: ผู้เขียน

ไร่สตรอเบอรี่โยโกยามาเปิดเวลา 10.00 และปิด 14.00 น.

Credit: ผู้เขียน

หยุดวันพุธและพฤหัสบดี และต้องกะเวลาค่อนข้างดีๆ นะคะ

Credit: ผู้เขียน

เราพยายามไปให้เช้าที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้วคือ 11.00 น. สำหรับเพื่อนๆ ที่ต้องการไปที่นี่ ขอย้ำว่าให้วางแผนการเดินทางให้ถึงไร่ก่อน 13.30 น. เพราะจะปิดรับลูกค้าเวลานี้ และที่สำคัญคือถ้าสตรอเบอรี่หมดก่อนเวลาก็ไม่รับลูกค้าค่ะ

Credit: ผู้เขียน

ตอนเราไปถึงก็มีคนญี่ปุ่นอยู่ 1 ครอบครัวนะคะ แล้วก็เดินหนีหายเราไปเลย เงยหน้ามาอีกทีไม่มีใครเลย ว่างๆ โล่งๆ ค่ะ

Credit: ผู้เขียน

กลายเป็นว่าเราได้ครอบครองสตรอเบอรี่ทั้งฟาร์มเลยค่ะ หุหุ

Credit: ผู้เขียน

สำหรับการเก็บสตรอเบอรี่ ที่สวนนี้ไม่มีกรรไกรให้

Credit: ผู้เขียน

ให้ใช้มือเด็ดที่ขั้วสตรอเบอรี่ โดยไม่ต้องใช้กรรไกรตัดนะคะ

Credit: ผู้เขียน

สามารถเด็ดเบาๆ ก็หลุดได้เลย เราก็งงเหมือนกันค่ะ เพราะว่าไร่อื่นๆที่เคยไป จะให้กรรไกรเรามาตัดนะคะ

Credit: ผู้เขียน

แต่ว่าที่นี่ให้เด็ดได้เลย

Credit: ผู้เขียน

อุปกรณ์ที่ได้ก็คือเป็นแค่ถ้วยพลาสติกสำหรับใส่นมข้นหวาน (นมข้นหวานจะพกมาเองหรือจะซื้อที่ไร่ก็มีค่ะ)

Credit: ผู้เขียน

เราทานไปทั้งหมดไม่กี่ลูก…เอาจริงๆแล้วประมาณ 7-8 ลูกเท่านั้นค่ะ ไม่เคยสามารถทานได้มากกว่านี้ ไม่ว่าจะหิวแค่ไหนหรือว่าอยากกินแค่ไหนก็ได้เท่านี้จริงๆ เป็นคนทานผลไม้ไม่เก่ง

Credit: ผู้เขียน

แต่สำหรับคนที่ทานผลไม้เก่งๆ นะคะหรือชอบสตรอเบอรี่เป็นชีวิตจิตใจก็สามารถจัดได้ถึง 10-20 ลูก หรือมากกว่าค่ะ

Credit: ผู้เขียน

แดดแรงๆ ภายในโรงเรือน ทำให้สตรอเบอรี่งามจัง

Credit: ผู้เขียน

ดอกสตรอเบอรี่สีขาว หน้าตาแบบนี้ค่ะ

Credit: ผู้เขียน

สำหรับสตรอเบอรี่ญี่ปุ่นมีหลากหลายสายพันธุ์เลยค่ะ ลักษณะลูกกลมๆ

Credit: ผู้เขียน

บางลูกจะออกแบนๆ นอนมาสบายเลยนะคะ

Credit: ผู้เขียน

สำหรับการประเมินความคุ้มค่า คุ้มราคา 1,800 เยน (ประมาณ 500 กว่าบาท) เราถือวึคุ้มค่าประสบการณ์และบรรยากาศที่ได้เด็ดสตรอเบอรี่สดๆ และได้เห็นว่าโรงเรือนที่ปลูกเป็นอย่างไร ถ้าไม่เคยมาก็จะไม่รู้จริงๆ นึกภาพไม่ออกเลยค่ะ แม้ว่าจะทานได้ไม่กี่ลูกแต่คุ้มค่าประสบการณ์และที่ไร่สตรอเบอรี่โยโกยามา: Yokoyama farm (strawberry hunting) ก็เดินทางสะดวกสุดๆ นั่งรถไฟต่อเดียวจากโตเกียวถึงเลยค่ะ

Credit: ผู้เขียน

Yokoyama farm

ที่ตั้ง: 2−103 Chūō, Kitamoto City, Saitama 364-0031

การเดินทาง : ลงที่สถานีคิตะโมโตะ (Kitamoto Station) แล้วเดินต่อ 5 นาที

เว็บไซต์:

ช่วงเวลาที่เปิดให้ทานสตรอเบอรี่ : เดือนมกราคม -พฤษภาคม

เวลาเปิดปิด: เวลา 10.00-13.30 น. (หยุดทุกวันพุธและวันพฤหัสบดี)

แผนที่:

บทความที่เกี่ยวข้อง

ดูบทความที่เกี่ยวข้อง

About the author

riangsupod-profile_pic_image

RiangSupod

ดูบทความผู้เขียน

เลขาสาวผู้ชื่นชอบการท่องเที่ยว อาหาร และวัฒนธรรมญี่ปุ่น จบปริญญาตรีจากคณะอักษรศาสตร์-ปริญญาโทรัฐศาสตร์ จุฬาฯ
เคยอาศัยอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น และได้เดินทางไปทำงานและไปท่องเที่ยวที่ญี่ปุ่นบ่อยๆ ทำให้มีเพื่อนทั้งชาวไทยและชาวญี่ปุ่นทุกเพศทุกวัย
ปัจจุบันเป็นเลขานุการผู้บริหารระดับสูงของรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง

ถูกใจ แชร์เลย

บทความที่เกี่ยวข้อง

หนาวสุดขั้วที่หมู่บ้านชิราคาวาโกะ (Shirakawa-gō)

ครึ่งวันก็เที่ยวได้ half-day trip in Niigata

ฮิเมะยาโด โรงแรมสำหรับหญิงสาวที่อยากเยียวยาหัวใจสไตล์ไฮโซ

ซัมเมอร์ 2017นี้ ไปเล่นสวนน้ำระดับโลกที่นากาชิม่าสปาแลนด์ (Nagashima Spaland)

ญี่ปุ่นเตรียมเปิดพิพิธภัณฑ์ “อุนโกะ” (อึ) ในแบบคาวาอิ สีหวานๆ ถ่ายรูปเพลิน

แนะนำที่เที่ยวใหม่ติดสถานีโยโกฮามะ “ASOBUILD”

ผ่านมาทางนี้เมื่อไหร่ แวะมาอุดหนุนบุฟเฟ่ต์อาหาร 500 เยนร้านคุณยายฮัจจังวัย 82 ปีกันหน่อยน้า

“โดโกะออนเซน ฮอนคัง” โรงอาบน้ำเก่าแก่ต้นแบบอนิเมชั่น “Spirited Away”

“นิชิยะมะ ออนเซน เคอุงกัง” โรงแรมทีมีประวัติยาวนานถึง 1,300 ปี