รวมสามสุดยอดของญี่ปุ่น…ฟูจิซัง ซากุระ และเจดีย์ชูเรโตะ 2018/12/28 รวมสามสุดยอดของญี่ปุ่น…ฟูจิซัง ซากุระ และเจดีย์ชูเรโตะ 2018/12/28 ที่สุดแห่งองค์ประกอบของประเทศญี่ปุ่นคือ ฟูจิซัง ซากุระ และเจดีย์….และที่นี่ก็เป็นที่เดียวในโลกที่คุณสามารถเก็บทั้ง 3 องค์ประกอบได้ภายในภาพเดียว ที่นี่คือเจดีย์ชูเรโตะ (Chureito Pagoda) เริ่มการเดินทางไปเจดีย์ชูเรโตะ (Chureito Pagoda) จากสถานีคาวากุจิโกะ (Kawaguchiko Station) ไปที่สถานี ชิโมะโยชิดะ (Shimoyoshida Station) ซึ่งเป็นสถานีที่เราจะต้องลง แล้วก็เดินไปที่เจดีย์ชูเรโตะต่อค่ะโดยซื้อตั๋วรถไฟได้ในเคาน์เตอร์กดๆ ที่สถานีคาวากูจิโกะ เราเลือกแบบขาไป+ขากลับเลยค่ะ เพราะว่ายังไงเราก็จะต้องมาลงที่สถานีคาวากุจิโกะ เพื่อนั่งรถบัสหรือรถไฟกลับไปยังโตเกียวอยู่แล้วนะคะ Credit: ผู้เขียน ระหว่างที่รอเราก็เข้าไปในร้านค้าของสถานี หาอะไรทานรองท้องด้วย Hot-Dog พอหายหิว แต่รู้สึกไม่ค่อยสมกับมาญี่ปุ่นเลย ทำไมไม่ทานข้าวปั้นอะไรก็ว่าไปเนอะ ฮ่าๆๆ Credit: ผู้เขียน พอรถไฟมา ก็รีบขึ้นไป หาที่นั่งให้เรียบร้อย Credit: ผู้เขียน ลักษณะรถไฟเป็นรถไฟสไตล์เรโทร คือแนวสไตล์โบราณๆ มีที่นั่ง 2 ฝั่งนะคะ แดดส่องฝั่งตรงข้าม เราก็ด้วยความเป็นคนไทยไม่ตากแดดอยู่แล้ว เลยเลือกนั่งอีกฝั่งหนึ่งที่ไม่โดนแดด แป๊บเดียวรถไฟก็ออกตรงเวลาเป๊ะค่ะ Credit: ผู้เขียน เดินทาง ไม่กี่นาทีนะคะประมาณ 10 นาทีหรือ 15 นาทีเท่านั้นก็ถึง สถานี Shimoyoshida ค่ะ ลงจากสถานี ก็จะเจอแผนที่การเดิน ไปสู่เจดีย์ชูเรโตะ ลองศึกษาดูแล้วเขาบอกว่าเดิน 20 นาทีนะคะ แต่เราใช้เวลาไปทั้งหมด 30 นาที อาจจะด้วยความที่ขาสั้น แล้วก็แวะถ่ายรูประหว่างทางอะไรด้วยนะคะ ก็เลยถึงช้ากว่าที่ประมาณการไว้ Credit: ผู้เขียน มาถึงแยกตรงนี้ค่ะก็จะต้องเลือกนะคะ ว่าถ้าเราขับรถมา (หรือเรียกแท็กซี่) ก็ให้เลี้ยวขวาไป แต่ถ้าเราเดินเท้าก็ให้เดินไปทางซ้ายนะคะ ทำไมถึงต้องมีป้ายนี่ไว้เพราะว่าเวลาเราเปิด Google Map บางคนเชื่ออากู๋ คิดว่าเดินตามทางรถได้ แต่จริงๆ แล้วไม่ได้นะคะ ก็จะต้องเดินตามทางที่เขาแนะนำไว้แบบนี้ล่ะค่ะ Credit: ผู้เขียน ระหว่างเดิน มองไปที่พื้น ก็จะมีรูปเจดีย์ชูเรโตะ พร้อมซากุระ ปูเป็นกระเบื้อง อิฐทางเท้าเป็นระยะๆ Credit: ผู้เขียน หลายรูปเลย เป็นเจดีย์ชูเรโตในฤดูกาลต่างๆ หลายๆ มุม ก็ทำให้เรารู้ว่ายังไงเราเดินมาถูกทางแล้วค่ะ เดินตามพื้นหินอย่างนี้ไปเรื่อยๆ นะคะ จะต้องมีจุดข้ามถนน ข้ามทางรถไฟ ค่อยๆ เดินกันไปค่ะ สักพักเดียวก็มาถึงข้างหน้าทางขึ้นนะคะ Credit: ผู้เขียน มีให้เลือก 2 แบบ คือแบบบันได 398 ขั้น สเต็ปปรกติ Credit: ผู้เขียน ก็คือถ้าเรามาแบบวีลแชร์ หรือเดินขึ้นบันไดไม่สะดวก ก็จะมีทางลาดให้ค่ะ Credit: ผู้เขียน แต่ว่าทางลาดเนี่ย จะเหมือนอ้อมกว่าเล็กน้อยนะคะ ก็แล้วแต่ถนัดค่ะ แต่เราขอขึ้นบันไดดีกว่า น่าจะถึงเร็วกว่า เพราะจริงๆ แล้วคนสปีดดีๆ ใช้เวลาเดินขึ้นแค่ 2 นาทีเองค่ะ ก็เดินขึ้นบันไดไปเรื่อยๆ นะคะ แต่ระหว่างการขึ้นบันไดก็จะมีจุดให้พัก แล้วก็จะมีเสาประตูใหญ่กลางทาง และมีศาลเจ้าอยู่ตรงประมาณชั้นกลางๆ อย่าลืมหันหลังกลับไปดูวิวอลังการด้วยนะคะ Credit: ผู้เขียน แล้วก็เราก็เดินจนถึงเจดีย์สีแดงแจ่ม …. เจดีย์ชูเรโตะ(Chureito Pagoda) แล้ว เย่!! Credit: ผู้เขียน แต่เราจะไม่หยุดแค่นี้ค่ะ เพราะเราจะต้องขึ้นไปจนถึงจุดชมวิวที่จะมองลงมาเห็นเจดีย์ชูเรโตะ ดอกซากุระ แล้วก็ฉากหลังเป็นฟูจิซัง Credit: ผู้เขียน ตรงนี้สามารถต่อ WiFi ได้นะคะ แต่เราก็ไม่มีเวลาต่อ WiFi เพราะว่าแบตมือถือใกล้หมด เลยไม่รู้ว่าสัญญาณแรงหรือเปล่านะคะต้องขออภัยไว้ด้วยค่ะ มาถึงเจดีย์ชูเรโตะ(Chureito Pagoda) แล้วค่ะ ชื่อเล่นๆ คือเจดีย์แดง ลักษณะเป็นเจดีย์ห้าชั้นบนเนินเขา ที่สามารถมองเห็นเมืองฟูจิโยชิดะ (Fujiyoshida City) และภูเขาไฟฟูจิในระยะไกลได้อย่างชัดเจนและงดงาม (ต้องมาตอนเช้าจะได้แสงดีแบบนี้ค่ะ) Credit: ผู้เขียน จุดที่เรายืนอยู่คือจุดแดงๆ ที่ตั้งของเจดีย์ชูเรย์โตะ… แต่เนื่องด้วยเจดีย์นี้ตั้งอยู่บนศาลเจ้าอาราคุระเซนเกน(Arakura Sengen Shrine) ซึ่งตั้งบนเนินเขา นักท่องเที่ยวจะสามารถชมทัศนียภาพอันสวยงามของภูเขาไฟฟูจิ หรือฟูจิซัง ร่วมกับเจดีย์ห้าชั้น โดยเฉพาะในช่วงดอกซากุระบานในช่วงประมาณกลางเดือนเมษายน จะเป็นจุดชมธรรมชาติยอดนิยมเป็นอย่างยิ่ง Credit: ผู้เขียน แอบเห็น LIVE Camera นะคะ Credit: ผู้เขียน ต้องระวังอย่าไปโดนกล้องตัวนี้เด็ดขาดค่ะ เราแอบเก็บภาพจากมุมกล้องมุมนี้นะคะ จะได้ภาพที่สวยงามเช่นกัน ก็เป็นอีกเทคนิคหนึ่งค่ะว่าตรงนี้จะมีคนน้อยหน่อยนะคะ ให้เดินมาริมๆ ของเจดีย์ Credit: ผู้เขียน สำหรับทางเดินตรงจุดชมวิวตรงนี้ จะเป็นพื้นดินแท้ทรู ถ้าเราจะต้องการไต่ขึ้นมาได้เห็นภาพสวยๆ หรือนั่งพักสักเล็กน้อยนะคะ จะมีเหมือนเป็น ชั้นดินอัฒจันทร์แบบขั้นบันไดเล็กๆ นะคะ สามารถไต่ขึ้นมานั่งชมวิวนั่งพักเหนื่อย ดื่มด่ำบรรยากาศได้ ดังนั้นรองเท้าที่จะต้องใส่ก็คือจะเป็นผ้าใบหรือคัทชูที่สวมใส่สบายนะคะ แล้วก็ไม่มีส้นแหลมเพื่อที่จะได้เดินไปตั้งแต่บันไดชั้นล่างมาจนถึงชั้นบนนี้ได้ค่ะ Credit: ผู้เขียน อย่างที่บอกนะคะ แนะนำให้มาตอนเช้า จะได้แสงที่สวยสำหรับการถ่ายภาพ แต่ถ้ามาตอนบ่ายก็จะได้มืดๆ แบบนี้ค่ะ แล้วภาพนี้คือภาพความเป็นจริงนะคะ ว่าคนเยอะ แล้วก็ค่อนข้างแน่นนะคะ จะต้องยืนแย่งกันถ่ายรูปนิดนึงค่ะ แล้วก็เลือกมุมดีๆ เพื่อไม่ให้ติดศีรษะคนนี่ล่ะค่ะ งานยาก Credit: ผู้เขียน หลังจากชมเจดีย์ชูเรโตะกับซากุระอิ่มใจแล้ว เราก็เดินมาข้างๆ จุดชมวิวหรือ Observation Deck ที่มีสวยอลังการลืมหายใจ Credit: ผู้เขียน บริเวณจุดชมวิวนี้ จะเป็นสวนซากุระจำนวนถึง 650 ต้นจะพร้อมใจกันเบ่งบานและสามารถมองเห็นวิวสุดลูกหูลูกตาของเมืองฟูจิโยชิดะ (Fujiyoshida City) ได้ชัดเจนอีกด้วย รีวิวไว้ตามลิงค์ค่ะ Credit: ผู้เขียน หลังจากอื่มจากชมวิวแล้ว ก็เดินลงทางเดิม ระวังลื่นนะคะ แล้วก็ระวังลิงด้วยค่ะ (แต่เราไม่เจอเลยสักตัวค่ะตอนไป) โดยที่ตอนลง เราได้แวะสัการะศาลเจ้าอาราคุระเซนเกน (Arakura Sengen Shrine) Credit: ผู้เขียน จะมีอาหาร-เครื่องดื่มขายให้รับประทาน นะคะ Credit: ผู้เขียน วันที่เราไปเนื่องจากเป็นเทศกาลชมซากุระ คนค่อนข้างเยอะค่ะ เจอคนไทยอยู่หลายคน ทักทายกันอบอุ่นดีค่ะ Credit: ผู้เขียน เข้าห้องน้ำได้ตรงจุดนี้ค่ะ Credit: ผู้เขียน ขึ้นรถไฟกลับที่สถานี Shimoyoshida เหมือนเดิมนะคะ ที่สถานีมีร้านกาแฟและอาหารเบาๆ รวมถึงของที่ระลึกก็มีจำหน่ายด้วยก็แวะเข้าไปได้ เคยเขียนรีวิวไว้ตามลิงค์นี้ค่ะ Shimoyoshida Club – Cafe Restaurant : ร้านอาหารขนมของฝากที่สถานีชิโมะโยชิดะ http://komachijp.com/other-spot/16353 เจดีย์ชูเรโตะ (Chureito Pagoda) ที่ตั้ง: 3360−1 Arakura, Fujiyoshida City, Yamanashi 403-0011 การเดินทาง: สถานีรถไฟที่ใกล้ที่สุดชิโมโยชิดะ ถ้าขับรถมาสามารถจอดไว้ได้ที่ทางขึ้น เจดีย์ค่ะ ค่าใช้จ่าย: ค่าเข้าชมเจดีย์ชูเรโตะฟรีนะคะ เว็บไซต์: http://chureito-pagoda.com/ แผนที่: บทความที่เกี่ยวข้อง How to : นั่งบัส KEIO Highway Express ชิบุย่า ↔ คาวากุจิโกะ http://komachijp.com/tokyo/15748 Shimoyoshida Club – Cafe Restaurant : ร้านอาหารขนมของฝากที่สถานีชิโมะโยชิดะ http://komachijp.com/other-spot/16353 ดูบทความที่เกี่ยวข้อง About the author RiangSupod ดูบทความผู้เขียน เลขาสาวผู้ชื่นชอบการท่องเที่ยว อาหาร และวัฒนธรรมญี่ปุ่น จบปริญญาตรีจากคณะอักษรศาสตร์-ปริญญาโทรัฐศาสตร์ จุฬาฯ เคยอาศัยอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น และได้เดินทางไปทำงานและไปท่องเที่ยวที่ญี่ปุ่นบ่อยๆ ทำให้มีเพื่อนทั้งชาวไทยและชาวญี่ปุ่นทุกเพศทุกวัย ปัจจุบันเป็นเลขานุการผู้บริหารระดับสูงของรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง คิดถูกใจ Komachi JAPAN ถูกใจ แชร์เลย
ที่สุดแห่งองค์ประกอบของประเทศญี่ปุ่นคือ ฟูจิซัง ซากุระ และเจดีย์….และที่นี่ก็เป็นที่เดียวในโลกที่คุณสามารถเก็บทั้ง 3 องค์ประกอบได้ภายในภาพเดียว ที่นี่คือเจดีย์ชูเรโตะ (Chureito Pagoda)
เริ่มการเดินทางไปเจดีย์ชูเรโตะ (Chureito Pagoda) จากสถานีคาวากุจิโกะ (Kawaguchiko Station) ไปที่สถานี ชิโมะโยชิดะ (Shimoyoshida Station) ซึ่งเป็นสถานีที่เราจะต้องลง แล้วก็เดินไปที่เจดีย์ชูเรโตะต่อค่ะโดยซื้อตั๋วรถไฟได้ในเคาน์เตอร์กดๆ ที่สถานีคาวากูจิโกะ เราเลือกแบบขาไป+ขากลับเลยค่ะ เพราะว่ายังไงเราก็จะต้องมาลงที่สถานีคาวากุจิโกะ เพื่อนั่งรถบัสหรือรถไฟกลับไปยังโตเกียวอยู่แล้วนะคะ
ระหว่างที่รอเราก็เข้าไปในร้านค้าของสถานี หาอะไรทานรองท้องด้วย Hot-Dog พอหายหิว แต่รู้สึกไม่ค่อยสมกับมาญี่ปุ่นเลย ทำไมไม่ทานข้าวปั้นอะไรก็ว่าไปเนอะ ฮ่าๆๆ
พอรถไฟมา ก็รีบขึ้นไป หาที่นั่งให้เรียบร้อย
ลักษณะรถไฟเป็นรถไฟสไตล์เรโทร คือแนวสไตล์โบราณๆ มีที่นั่ง 2 ฝั่งนะคะ แดดส่องฝั่งตรงข้าม เราก็ด้วยความเป็นคนไทยไม่ตากแดดอยู่แล้ว เลยเลือกนั่งอีกฝั่งหนึ่งที่ไม่โดนแดด แป๊บเดียวรถไฟก็ออกตรงเวลาเป๊ะค่ะ
เดินทาง ไม่กี่นาทีนะคะประมาณ 10 นาทีหรือ 15 นาทีเท่านั้นก็ถึง สถานี Shimoyoshida ค่ะ ลงจากสถานี ก็จะเจอแผนที่การเดิน ไปสู่เจดีย์ชูเรโตะ ลองศึกษาดูแล้วเขาบอกว่าเดิน 20 นาทีนะคะ แต่เราใช้เวลาไปทั้งหมด 30 นาที อาจจะด้วยความที่ขาสั้น แล้วก็แวะถ่ายรูประหว่างทางอะไรด้วยนะคะ ก็เลยถึงช้ากว่าที่ประมาณการไว้
มาถึงแยกตรงนี้ค่ะก็จะต้องเลือกนะคะ ว่าถ้าเราขับรถมา (หรือเรียกแท็กซี่) ก็ให้เลี้ยวขวาไป แต่ถ้าเราเดินเท้าก็ให้เดินไปทางซ้ายนะคะ ทำไมถึงต้องมีป้ายนี่ไว้เพราะว่าเวลาเราเปิด Google Map บางคนเชื่ออากู๋ คิดว่าเดินตามทางรถได้ แต่จริงๆ แล้วไม่ได้นะคะ ก็จะต้องเดินตามทางที่เขาแนะนำไว้แบบนี้ล่ะค่ะ
ระหว่างเดิน มองไปที่พื้น ก็จะมีรูปเจดีย์ชูเรโตะ พร้อมซากุระ ปูเป็นกระเบื้อง อิฐทางเท้าเป็นระยะๆ
หลายรูปเลย เป็นเจดีย์ชูเรโตในฤดูกาลต่างๆ หลายๆ มุม ก็ทำให้เรารู้ว่ายังไงเราเดินมาถูกทางแล้วค่ะ เดินตามพื้นหินอย่างนี้ไปเรื่อยๆ นะคะ จะต้องมีจุดข้ามถนน ข้ามทางรถไฟ ค่อยๆ เดินกันไปค่ะ
สักพักเดียวก็มาถึงข้างหน้าทางขึ้นนะคะ
มีให้เลือก 2 แบบ คือแบบบันได 398 ขั้น สเต็ปปรกติ
ก็คือถ้าเรามาแบบวีลแชร์ หรือเดินขึ้นบันไดไม่สะดวก ก็จะมีทางลาดให้ค่ะ
แต่ว่าทางลาดเนี่ย จะเหมือนอ้อมกว่าเล็กน้อยนะคะ ก็แล้วแต่ถนัดค่ะ แต่เราขอขึ้นบันไดดีกว่า น่าจะถึงเร็วกว่า เพราะจริงๆ แล้วคนสปีดดีๆ ใช้เวลาเดินขึ้นแค่ 2 นาทีเองค่ะ
ก็เดินขึ้นบันไดไปเรื่อยๆ นะคะ แต่ระหว่างการขึ้นบันไดก็จะมีจุดให้พัก แล้วก็จะมีเสาประตูใหญ่กลางทาง และมีศาลเจ้าอยู่ตรงประมาณชั้นกลางๆ อย่าลืมหันหลังกลับไปดูวิวอลังการด้วยนะคะ
แล้วก็เราก็เดินจนถึงเจดีย์สีแดงแจ่ม …. เจดีย์ชูเรโตะ(Chureito Pagoda) แล้ว เย่!!
แต่เราจะไม่หยุดแค่นี้ค่ะ เพราะเราจะต้องขึ้นไปจนถึงจุดชมวิวที่จะมองลงมาเห็นเจดีย์ชูเรโตะ ดอกซากุระ แล้วก็ฉากหลังเป็นฟูจิซัง
ตรงนี้สามารถต่อ WiFi ได้นะคะ แต่เราก็ไม่มีเวลาต่อ WiFi เพราะว่าแบตมือถือใกล้หมด เลยไม่รู้ว่าสัญญาณแรงหรือเปล่านะคะต้องขออภัยไว้ด้วยค่ะ
มาถึงเจดีย์ชูเรโตะ(Chureito Pagoda) แล้วค่ะ ชื่อเล่นๆ คือเจดีย์แดง ลักษณะเป็นเจดีย์ห้าชั้นบนเนินเขา ที่สามารถมองเห็นเมืองฟูจิโยชิดะ (Fujiyoshida City) และภูเขาไฟฟูจิในระยะไกลได้อย่างชัดเจนและงดงาม (ต้องมาตอนเช้าจะได้แสงดีแบบนี้ค่ะ)
จุดที่เรายืนอยู่คือจุดแดงๆ ที่ตั้งของเจดีย์ชูเรย์โตะ… แต่เนื่องด้วยเจดีย์นี้ตั้งอยู่บนศาลเจ้าอาราคุระเซนเกน(Arakura Sengen Shrine) ซึ่งตั้งบนเนินเขา นักท่องเที่ยวจะสามารถชมทัศนียภาพอันสวยงามของภูเขาไฟฟูจิ หรือฟูจิซัง ร่วมกับเจดีย์ห้าชั้น โดยเฉพาะในช่วงดอกซากุระบานในช่วงประมาณกลางเดือนเมษายน จะเป็นจุดชมธรรมชาติยอดนิยมเป็นอย่างยิ่ง
แอบเห็น LIVE Camera นะคะ
ต้องระวังอย่าไปโดนกล้องตัวนี้เด็ดขาดค่ะ เราแอบเก็บภาพจากมุมกล้องมุมนี้นะคะ จะได้ภาพที่สวยงามเช่นกัน ก็เป็นอีกเทคนิคหนึ่งค่ะว่าตรงนี้จะมีคนน้อยหน่อยนะคะ ให้เดินมาริมๆ ของเจดีย์
สำหรับทางเดินตรงจุดชมวิวตรงนี้ จะเป็นพื้นดินแท้ทรู ถ้าเราจะต้องการไต่ขึ้นมาได้เห็นภาพสวยๆ หรือนั่งพักสักเล็กน้อยนะคะ จะมีเหมือนเป็น ชั้นดินอัฒจันทร์แบบขั้นบันไดเล็กๆ นะคะ สามารถไต่ขึ้นมานั่งชมวิวนั่งพักเหนื่อย ดื่มด่ำบรรยากาศได้ ดังนั้นรองเท้าที่จะต้องใส่ก็คือจะเป็นผ้าใบหรือคัทชูที่สวมใส่สบายนะคะ แล้วก็ไม่มีส้นแหลมเพื่อที่จะได้เดินไปตั้งแต่บันไดชั้นล่างมาจนถึงชั้นบนนี้ได้ค่ะ
อย่างที่บอกนะคะ แนะนำให้มาตอนเช้า จะได้แสงที่สวยสำหรับการถ่ายภาพ แต่ถ้ามาตอนบ่ายก็จะได้มืดๆ แบบนี้ค่ะ แล้วภาพนี้คือภาพความเป็นจริงนะคะ ว่าคนเยอะ แล้วก็ค่อนข้างแน่นนะคะ จะต้องยืนแย่งกันถ่ายรูปนิดนึงค่ะ แล้วก็เลือกมุมดีๆ เพื่อไม่ให้ติดศีรษะคนนี่ล่ะค่ะ งานยาก
หลังจากชมเจดีย์ชูเรโตะกับซากุระอิ่มใจแล้ว เราก็เดินมาข้างๆ จุดชมวิวหรือ Observation Deck ที่มีสวยอลังการลืมหายใจ
บริเวณจุดชมวิวนี้ จะเป็นสวนซากุระจำนวนถึง 650 ต้นจะพร้อมใจกันเบ่งบานและสามารถมองเห็นวิวสุดลูกหูลูกตาของเมืองฟูจิโยชิดะ (Fujiyoshida City) ได้ชัดเจนอีกด้วย รีวิวไว้ตามลิงค์ค่ะ
หลังจากอื่มจากชมวิวแล้ว ก็เดินลงทางเดิม ระวังลื่นนะคะ
แล้วก็ระวังลิงด้วยค่ะ (แต่เราไม่เจอเลยสักตัวค่ะตอนไป)
โดยที่ตอนลง เราได้แวะสัการะศาลเจ้าอาราคุระเซนเกน (Arakura Sengen Shrine)
จะมีอาหาร-เครื่องดื่มขายให้รับประทาน นะคะ
วันที่เราไปเนื่องจากเป็นเทศกาลชมซากุระ คนค่อนข้างเยอะค่ะ เจอคนไทยอยู่หลายคน ทักทายกันอบอุ่นดีค่ะ
เข้าห้องน้ำได้ตรงจุดนี้ค่ะ
ขึ้นรถไฟกลับที่สถานี Shimoyoshida เหมือนเดิมนะคะ ที่สถานีมีร้านกาแฟและอาหารเบาๆ รวมถึงของที่ระลึกก็มีจำหน่ายด้วยก็แวะเข้าไปได้ เคยเขียนรีวิวไว้ตามลิงค์นี้ค่ะ
เจดีย์ชูเรโตะ (Chureito Pagoda)
ที่ตั้ง: 3360−1 Arakura, Fujiyoshida City, Yamanashi 403-0011
การเดินทาง: สถานีรถไฟที่ใกล้ที่สุดชิโมโยชิดะ ถ้าขับรถมาสามารถจอดไว้ได้ที่ทางขึ้น เจดีย์ค่ะ
ค่าใช้จ่าย: ค่าเข้าชมเจดีย์ชูเรโตะฟรีนะคะ
เว็บไซต์:
แผนที่:
บทความที่เกี่ยวข้อง
About the author
RiangSupod
เลขาสาวผู้ชื่นชอบการท่องเที่ยว อาหาร และวัฒนธรรมญี่ปุ่น จบปริญญาตรีจากคณะอักษรศาสตร์-ปริญญาโทรัฐศาสตร์ จุฬาฯ
เคยอาศัยอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น และได้เดินทางไปทำงานและไปท่องเที่ยวที่ญี่ปุ่นบ่อยๆ ทำให้มีเพื่อนทั้งชาวไทยและชาวญี่ปุ่นทุกเพศทุกวัย
ปัจจุบันเป็นเลขานุการผู้บริหารระดับสูงของรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง
คิดถูกใจ