บทความที่เกี่ยวข้อง กวางน้อยใต้เงาซากุระในสวนนารา (Nara-Koen Park) อีก 1 จุดชมซากุระอันแสนงดงามในญี่ปุ่น
นั่งเรือให้อาหารนกนางนวลที่โจโดกาฮามะ 2019/02/22 นั่งเรือให้อาหารนกนางนวลที่โจโดกาฮามะ 2019/02/22 โจโดกาฮามะ เป็นชายฝั่งที่ได้รับภัยธรรมชาติจากสึนามิเมื่อปี 2011 แต่ปัจจุบันได้รับการฟื้นฟูจนกลับมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นี่เสน่ห์ดังเดิม นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับการเล่นน้ำทะเล สนุกสนานกับการนั่งเรือชมทัศนียภาพของชายฝั่งทะเลพร้อมกับให้อาหารนกนางนวล หรือล่องเรือชมความสวยงามของถ้ำอย่างใกล้ชิด โจโดกาฮามะคือสถานที่เดียวที่รวบรวมกิจกรรมสนุกสนานมากมายไว้รอคอยต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนทุกคน Credit: ผู้เขียน วันนี้เราจะพาออกเรือไปให้อาหารนกนางนวลกลางทะเลบนเรือ Miyako Jodogahama Boat Cruise เรือที่จะพาชมทัศนียภาพบริเวณโจโดกาฮามะ เรือลำนี้มีความพิเศษคือเป็นลำเดียวที่หลงเหลืออยู่จากเหตุการณ์สึนามิเมื่อปี 2011 เรือลำนี้ก็เหมือนกับความงามของชายฝั่งที่นี่ ที่เป็นเพียงสิ่งเดียวที่ไม่หายไปจากเหตุการณ์สึนามิครั้งนั้น การเดินเรือในแต่ละรอบจะใช้เวลาประมาณ 40 นาที และจะจัดเฉพาะวันเสาร์ วันอาทิตย์ วันจันทร์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ค่าบริการเพียงคนละ 1400 เยน Credit: ผู้เขียน Credit: ผู้เขียน แค่ออกเรือมาไม่ทันไรน้องๆนกนางนวลก็เริ่มบินมาโฉบใกล้ๆกับเรือ เพื่อรอรับอาหารจากเรา พร้อมกับส่งเสียงร้องออกมาคล้ายกับแมว นกนางนวลเหล่านี้จึงถูกเรียกว่า Umineko (ウミネコ) แปลตามตัวก็คือแมวทะเลนั่นเอง Credit: ผู้เขียน อาหารที่ใช้ป้อนเจ้านกนางนวลพวกนี้ก็คือ ขนมปัง ว่ากันว่าเป็นอาหารยอดฮิตของพวกมันซึ่งได้ทำการจำหน่ายมาตลอดยาวนานกว่า 50 ปี เพียงแค่ฉีกเป็นชิ้นเล็กๆแล้วโยนขึ้นกลางอากาศ เจ้านกนางนวลพวกนี้ก็จะบินมารับอย่างแม่นยำ Nice Catch!! ขนมปังพวกนี้ทำมาจากของชอบของนกนางนวลทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นปลาหมึก ผงคอนบุ แม้แต่คนก็ยังสามารถกินได้ ขนมปังมีจำหน่ายบนเรือในราคา 100 เยนเท่านั้น Credit: ผู้เขียน Credit: ผู้เขียน บรรยากาศบนเรือ Credit: ผู้เขียน โขดหินนี้มีชื่อว่า Meotoiwa เมะโอะโทอิวะ ด้วยความที่ว่าเป็นโขดหินสองอันอยู่คู่กัน มองดูแล้วคล้ายกับแนบชิดพิงกันอยู่ จึงถูกเรียกว่าเมะโอะโทอิวะ (夫婦岩) แปลตามตัวคือ หินสามีภรรยา Credit: ผู้เขียน ส่วนบริเวณนี้ในวันปกติจะเกิดคลื่นที่ซัดเข้ากับช่องว่างของหินแล้วเกิดเป็นน้ำทะเลพุ่งสูงขึ้น ราวๆ 30 เมตร มีชื่อเรียกว่า shiofukiana ชิโอะฟุคิอะนะ แต่ในวันที่เดินทางไปอากาศไม่ค่อยเป็นใจเลยอดเห็นความสวยงามของธรรมชาตินี้ Credit: ผู้เขียน บริเวณนี้เรียกว่าแหลม Anegasaki ตั้งอยู่บริเวณเหนือสุดของอ่าว Miyako ความสลับซับซ้อนของหน้าผาที่มีความสูงถึง 60 เมตร จึงกลายเป็นแหล่งขยายพันธุ์ของเหล่านกนางนวล Credit: ผู้เขียน นอกจากการโดยสารเรือขนาดใหญ่เพื่อชมความสวยงามของโจโดกาฮามะแล้ว ที่นี่ยังมีบริการนั่งเรือขนาดเล็กเพื่อเข้าชมถ้ำสีฟ้าอีกด้วย Credit: ผู้เขียน หลังจากนั่งเรือเสร็จก็เดินต่อมาที่ชายหาดโจโดกาฮามะ ซึ่งเป็นชายหาดที่เต็มไปด้วยหินกรวดสีขาว แล้วบนชายฝั่งก็เต็มไปด้วยต้นสนสีเขียว น้ำทะเลสีฟ้าครามกับคลื่นสีขาว งดงามราวกับอยู่ในดินแดนสวรรค์ ชายหาดโจโดกาฮามะนับได้ว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยงามแห่งหนึ่งของเมือง Miyako ในสมัยเอโดะเคยมีพระสงฆ์รูปหนึ่งได้เปรียบเปรยสถานที่แห่งนี้ว่า สวยงามราวกับสรวงสวรรค์แห่งพระอมิตาภพุทธะ Credit: ผู้เขียน ในหน้าร้อนที่นี่ถือเป็นสถานตากอากาศของชาวญี่ปุ่น นักท่องเที่ยวต่างหลั่งไหลมาเล่นน้ำที่นี่กันมากมาย ความสวยงามของชายหาดนี้ไม่ได้มีแค่หน้าร้อนอย่างเดียว ในแต่ฤดูก็มีความสวยงามแตกต่างกันออกไป อย่างหน้าหนาวก็จะปกคลุมไปด้วยหิมะสวยงามไปอีกแบบ ดูบทความที่เกี่ยวข้อง About the author Minripae ดูบทความผู้เขียน จากบัณฑิตนิเทศศาสตร์สู่นักเรียนทุนส่งหนังสือพิมพ์ในประเทศญี่ปุ่น ประสบการณ์กว่า3ปีกับการเรียนและทำงานไปพร้อมๆกัน ปัจจุบันผันตัวมาเริ่มต้นชีวิตแม่บ้านญี่ปุ่น มีเพจท่องเที่ยวร่วมกับเพื่อนบนเฟสบุ๊คชื่อ go there / ไปดิรอไร https://www.facebook.com/paidigothere/ คิดถูกใจ Komachi JAPAN ถูกใจ แชร์เลย
Book Off Super Bazaar สาขาโอมิยะ (Omiya) ในห้าง Stellar Town ที่ไซตามะ (Saitama) แหล่งของมือสองที่ใหญ่สุดๆ
โจโดกาฮามะ เป็นชายฝั่งที่ได้รับภัยธรรมชาติจากสึนามิเมื่อปี 2011 แต่ปัจจุบันได้รับการฟื้นฟูจนกลับมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นี่เสน่ห์ดังเดิม นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับการเล่นน้ำทะเล สนุกสนานกับการนั่งเรือชมทัศนียภาพของชายฝั่งทะเลพร้อมกับให้อาหารนกนางนวล หรือล่องเรือชมความสวยงามของถ้ำอย่างใกล้ชิด โจโดกาฮามะคือสถานที่เดียวที่รวบรวมกิจกรรมสนุกสนานมากมายไว้รอคอยต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนทุกคน
วันนี้เราจะพาออกเรือไปให้อาหารนกนางนวลกลางทะเลบนเรือ Miyako Jodogahama Boat Cruise เรือที่จะพาชมทัศนียภาพบริเวณโจโดกาฮามะ เรือลำนี้มีความพิเศษคือเป็นลำเดียวที่หลงเหลืออยู่จากเหตุการณ์สึนามิเมื่อปี 2011 เรือลำนี้ก็เหมือนกับความงามของชายฝั่งที่นี่ ที่เป็นเพียงสิ่งเดียวที่ไม่หายไปจากเหตุการณ์สึนามิครั้งนั้น การเดินเรือในแต่ละรอบจะใช้เวลาประมาณ 40 นาที และจะจัดเฉพาะวันเสาร์ วันอาทิตย์ วันจันทร์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ค่าบริการเพียงคนละ 1400 เยน
แค่ออกเรือมาไม่ทันไรน้องๆนกนางนวลก็เริ่มบินมาโฉบใกล้ๆกับเรือ เพื่อรอรับอาหารจากเรา พร้อมกับส่งเสียงร้องออกมาคล้ายกับแมว นกนางนวลเหล่านี้จึงถูกเรียกว่า Umineko (ウミネコ) แปลตามตัวก็คือแมวทะเลนั่นเอง
อาหารที่ใช้ป้อนเจ้านกนางนวลพวกนี้ก็คือ ขนมปัง ว่ากันว่าเป็นอาหารยอดฮิตของพวกมันซึ่งได้ทำการจำหน่ายมาตลอดยาวนานกว่า 50 ปี เพียงแค่ฉีกเป็นชิ้นเล็กๆแล้วโยนขึ้นกลางอากาศ เจ้านกนางนวลพวกนี้ก็จะบินมารับอย่างแม่นยำ Nice Catch!! ขนมปังพวกนี้ทำมาจากของชอบของนกนางนวลทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นปลาหมึก ผงคอนบุ แม้แต่คนก็ยังสามารถกินได้ ขนมปังมีจำหน่ายบนเรือในราคา 100 เยนเท่านั้น
บรรยากาศบนเรือ
โขดหินนี้มีชื่อว่า Meotoiwa เมะโอะโทอิวะ ด้วยความที่ว่าเป็นโขดหินสองอันอยู่คู่กัน มองดูแล้วคล้ายกับแนบชิดพิงกันอยู่ จึงถูกเรียกว่าเมะโอะโทอิวะ (夫婦岩) แปลตามตัวคือ หินสามีภรรยา
ส่วนบริเวณนี้ในวันปกติจะเกิดคลื่นที่ซัดเข้ากับช่องว่างของหินแล้วเกิดเป็นน้ำทะเลพุ่งสูงขึ้น ราวๆ 30 เมตร มีชื่อเรียกว่า shiofukiana ชิโอะฟุคิอะนะ แต่ในวันที่เดินทางไปอากาศไม่ค่อยเป็นใจเลยอดเห็นความสวยงามของธรรมชาตินี้
บริเวณนี้เรียกว่าแหลม Anegasaki ตั้งอยู่บริเวณเหนือสุดของอ่าว Miyako ความสลับซับซ้อนของหน้าผาที่มีความสูงถึง 60 เมตร จึงกลายเป็นแหล่งขยายพันธุ์ของเหล่านกนางนวล
นอกจากการโดยสารเรือขนาดใหญ่เพื่อชมความสวยงามของโจโดกาฮามะแล้ว ที่นี่ยังมีบริการนั่งเรือขนาดเล็กเพื่อเข้าชมถ้ำสีฟ้าอีกด้วย
หลังจากนั่งเรือเสร็จก็เดินต่อมาที่ชายหาดโจโดกาฮามะ ซึ่งเป็นชายหาดที่เต็มไปด้วยหินกรวดสีขาว แล้วบนชายฝั่งก็เต็มไปด้วยต้นสนสีเขียว น้ำทะเลสีฟ้าครามกับคลื่นสีขาว งดงามราวกับอยู่ในดินแดนสวรรค์ ชายหาดโจโดกาฮามะนับได้ว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยงามแห่งหนึ่งของเมือง Miyako ในสมัยเอโดะเคยมีพระสงฆ์รูปหนึ่งได้เปรียบเปรยสถานที่แห่งนี้ว่า สวยงามราวกับสรวงสวรรค์แห่งพระอมิตาภพุทธะ
ในหน้าร้อนที่นี่ถือเป็นสถานตากอากาศของชาวญี่ปุ่น นักท่องเที่ยวต่างหลั่งไหลมาเล่นน้ำที่นี่กันมากมาย ความสวยงามของชายหาดนี้ไม่ได้มีแค่หน้าร้อนอย่างเดียว ในแต่ฤดูก็มีความสวยงามแตกต่างกันออกไป อย่างหน้าหนาวก็จะปกคลุมไปด้วยหิมะสวยงามไปอีกแบบ
About the author
Minripae
จากบัณฑิตนิเทศศาสตร์สู่นักเรียนทุนส่งหนังสือพิมพ์ในประเทศญี่ปุ่น ประสบการณ์กว่า3ปีกับการเรียนและทำงานไปพร้อมๆกัน ปัจจุบันผันตัวมาเริ่มต้นชีวิตแม่บ้านญี่ปุ่น มีเพจท่องเที่ยวร่วมกับเพื่อนบนเฟสบุ๊คชื่อ go there / ไปดิรอไร
https://www.facebook.com/paidigothere/
คิดถูกใจ