จุใจกับสตรอเบอร์รี่สดๆ ทานได้ไม่อั้น

จุใจกับสตรอเบอร์รี่สดๆ ทานได้ไม่อั้น

 

この投稿をInstagramで見る

 

JUNICHI YAMAGUCHI / 山口 淳一(@junichi_yamaguchi)がシェアした投稿


กิจกรรมหนึ่งในฤดูหนาวที่จะขาดเสียไม่ได้เลยถ้ามาเที่ยวประเทศญี่ปุ่นก็คือการเก็บสตรอเบอร์รี่สดๆ หวานหอมและทานที่ไร่แบบ all-you-can-eat ได้ไม่อั้นให้ชุ่มฉ่ำหัวใจกันไปเลย

เราจะพาไปชมไปชิมสวนสตรอเบอร์รี่ที่ชื่อว่า Ichino Engei 市野園芸 กันค่ะ หลายคนอาจจะไม่เคยได้ยินชื่อสวนสตรอเบอร์รี่แห่งนี้แต่ถ้าได้เห็นความใหญ่และความสมบูรณ์ของสตรอเบอร์รี่ลูกโตๆ จะอยากตีตั๋วเครื่องบินมาเลยล่ะค่ะ

 

この投稿をInstagramで見る

 

クッパとピーチ姫の食事❤︎(@98meshi)がシェアした投稿


ป้ายหน้าสวนก็ประมาณนี้นะคะ แปลว่าสวนสตรอเบอร์รี่ พร้อมกับมีชื่อสวนบอกไว้ว่า “Ichino Engei 市野園芸” ตั้งอยู่ที่จังหวัดนาโกย่าค่ะ

จริงๆแล้ว สวนสตรอเบอรรี่มีอยู่มากมายหลายแห่ง กระจายอยู่ทั่วประเทศญี่ปุ่นเลยค่ะ สะดวกไปเที่ยวที่ไหนก็หาข้อมูลแล้วจองบอกจำนวนคน วัน เวลา กับทางสวนก็ไปได้เลย แต่ต้องใช้ภาษาญี่ปุ่นเป็นส่วนใหญ่นะคะ

 

この投稿をInstagramで見る

 

@mockingbird937がシェアした投稿


ช่วงเวลาการเก็บสตรอเบอร์รี่อยู่ในช่วงเดือนมกราคม-พฤษภาคมของทุกปีค่ะ บางสวนก็เปิดให้เก็บได้ตั้งแต่เดือนธันวาคมเลย

สำหรับกฎระเบียบพื้นฐานของที่นี่ก็เหมือนๆ กับสวนผลไม้อื่นๆ คือ สามารถเก็บแล้วทานได้ทันที ไม่ต้องล้างน้ำ เพราะที่นี่เป็นสวนแบบปิด ลักษณะเป็นโรงเรือน (GlassHouse) หลังคาโค้งๆ ขาวๆ ทั้งหมดค่ะ สตรอเบอร์รี่ที่เก็บในสวนไม่สามารถนำกลับบ้านได้ ให้เก็บเฉพาะลูกที่ต้องการทานเท่านั้น และห้ามทิ้งเศษขยะใดๆ เป็นอันขาด ห้ามนำถุงพลาสติกเข้ามาในโรงเรือน และห้ามทำให้ต้นสตรอเบอร์รี่เสียหายค่ะ ประมาณนี้ค่ะ อาจมีรายละเอียดอื่นๆ แตกต่างกันไปตามแต่ละแห่งนะคะ นอกจากจะมาทานที่สวนแล้ว ถ้าสนใจซื้อกลับบ้านก็ได้ค่ะ (ขึ้นอยู่กับแต่ละช่วงเวลา บางช่วงก็หมดค่ะไม่มีจำหน่าย)

อัตราค่าเข้าสวนเพื่อเก็บสตรอเบอร์รี่จะแตกต่างกันไปตามช่วงเวลาค่ะ
สำหรับสวน Ichino Engei ที่นาโกย่า มีอัตราดังนี้ค่ะ
เดือนธันวาคม-วันที่ 10 เดือนเมษายน ผู้ใหญ่ราคา 1,500 เยน เด็ก 1,300 เยน
วันที่ 11 เดือนเมษายน – 8 พฤษภาคม ผู้ใหญ่ราคา 1,200 เยน เด็ก 800 เยน

หลายคนคงสงสัยว่าเพราะเหตุใดอัตราค่าเข้าสวนจึงแตกต่างกันในแต่ละช่วงเวลา อธิบายง่ายๆ ก็คือรีบไปเก็บช่วงต้นฤดูก็จะได้สตรอเบอร์รี่ที่ลูกโต สวนไม่บอบช้ำ มีให้เลือกเยอะ ราคาค่าเข้าก็จะแพงกว่าช่วงปลายฤดูค่ะ

บรรยากาศโดยรอบๆ สวนสตรอเบอร์รี่ก็จะเป็นเหมือนทุ่งโล่งๆ นี่แหละค่ะ ได้อารมณ์ Country side ของญี่ปุ่นแท้ๆ

เมื่อไปถึง ก็เข้าไปที่สวนสตรอเบอร์รี่ในโรงเรือนเลยค่ะ จะมีเจ้าของสวนต้อนรับอยู่

จากที่เราได้โทรจองไว้ล่วงหน้า บอกจำนวนคนและช่วงเวลาที่สะดวก แต่ทางสวนจะกำหนดวันเวลาที่สามารถเปิดให้เรามาได้ค่ะ เพราะถ้าคนมาเยอะๆ แย่งกันเก็บ แย่งกันทาน สตรอเบอร์รี่ก็โตไม่ทันพอดีจริงมั้ยคะ ทางสวนเค้าละเอียดรอบคอบมากค่ะ เพื่อนๆสามารถเข้าไปจองวันและเวลาที่ต้องการไปเที่ยวได้ทางเว็บไซต์ของสวน

จะมีตารางทำนัดหมายและโทรจองconfirmอีกที

จะเริ่มเก็บแล้วนะคะ ตื่นเต้นๆ…อุปกรณ์ที่ทางสวนจะแจกให้แต่ละคนคือ กล่องพลาสติกใสๆ หรือจานโฟมขนาดพอเหมาะ พร้อมอาวุธคู่กายคือกรรไกร ไว้สำหรับตัดสตรอเบอร์รี่ ห้ามใช้มือเด็ดนะคะ เพราะจะทำให้ต้นสตรอเบอร์รี่เสียหาย พอทานเสร็จเหลือเศษขั้วก็ทิ้งใส่ในกล่องพลาสติกค่ะ ห้ามทิ้งลงพื้นเด็ดขาด

 

この投稿をInstagramで見る

 

kasumi(@___ka_29)がシェアした投稿


ลูกสตรอเบอร์รี่รสชาติหวานหอมสุดๆ ไม่มีรสเปรี้ยวให้ระคายลิ้น

 

この投稿をInstagramで見る

 

Ko-suke(@ko_suke514)がシェアした投稿


นักท่องเที่ยวสามารถเดินเก็บสตรอเบอร์รี่ได้ทั่วทั้งโรงเรือนเลยค่ะ ทางเดินยาวพอสมควร หรือถ้าไม่หนำใจ ก็สามารถเดินไปโรงเรือนอื่นๆ ได้ แต่ต้องให้เจ้าของสวนอนุญาตก่อนนะคะ ทางสวนจะแจ้งไว้ก่อนเลยว่าเราสามารถเดินไปโรงเรือนไหนได้บ้าง

ที่สำคัญคือสตรอเบอร์รี่แต่ละโรงเรือนจะรสชาติไม่เหมือนกันนะคะ แตกต่างกันนิดหน่อย แต่ที่แน่ๆ คือหวานหอมสุดบรรยาย และมันเฟรชแอนด์จูสซี่มาก ผู้ใหญ่แบบคุณพ่อคุณแม่เราที่ไม่ค่อยชอบทานผลไม้รสเปรี้ยว เพราะมีปัญหาเรื่องฟันไม่แข็งแรงตามวัย ก็ไม่เป็นอุปสรรคเลยค่ะ แถมปลื้มมากอีกต่างหาก เราสามารถทานได้ตลอด บางคนก็ทานได้เยอะ บางคนก็ทานได้น้อย แล้วแต่ความสามารถส่วนบุคคลค่ะ

 

この投稿をInstagramで見る

 

森 廉始(@ymomori5)がシェアした投稿


บางสวนจะมีนมข้นหวานบริการไว้สำหรับจิ้มเพิ่มรสชาติไปด้วย อาจจะฟรีหรือคิดเงินราคาไม่แพงค่ะ แต่เพื่อความสบายใจเราอาจจะพกไปเองได้ค่ะ มีเวลาประมาณ 1 ชั่วโมงที่จะอยู่ในโรงเรือนค่ะ ถ้าเมื่อยล้าก็มีเก้าอีกให้นั่งทานนั่งคุยกันได้ เก็บมาทานเท่าที่เราจะทานไหวนะคะ ตอนเก็บอาจจะมีผึ้งตัวเล็กๆ ตอมๆ อยู่บ้างไม่ต้องกลัวค่ะ ไม่ทำอันตรายเรา

ที่อยู่: Tashiro-cho 156-1, Handa City半田市田代町156−1
เวลาเปิดปิด : 09.00 – 17.00 น.ทุกวันตั้งแต่กลางเดือนธันวาคม-ปลายเดือนพฤษภาคมของทุกปี (ต้องโทรจองทางโทรศัพท์ก่อนหมายเลข 0569-27-7586)
จำกัดเวลาทาน : 60 นาที ทานได้ไม่อั้น (All-you-can-eat)
ทางสวนมีห้องน้ำไว้บริการด้วยค่ะ ไม่ต้องกังวลใจ
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเข้าไปดูได้ทางเว็บไซต์

นอกจากสวน Ichino แล้ว ในจังหวัดนาโกย่ามีสวนสตรอเบอร์รี่อีกหลายสวนที่น่าสนใจดังนี้ค่ะ

1.Marimo Farm マリモファーム

2.Gamagori Orange Park 蒲郡オレンジパーク

3.Sawada Noen 澤田農園

4.Umekou-en うめこう桃梨苺園

สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ตามเว็บไซต์ของแต่ละแห่งได้ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นภาษาญี่ปุ่นและต้องโทรจองล่วงหน้ากับเจ้าของสวน อาจจะต้องขอความช่วยเหลือจากเพื่อนที่สามารถพูดภาษาญี่ปุ่นได้ช่วยโทรจองให้

แต่ละสวนก็อยู่ไม่ห่างกันมากค่ะ แผนที่ตามลิงค์นี้เลยค่ะ

 

การเดินทางไปสวน Ichino: จากสถานีรถไฟ Sumiyoshicho Station 住吉町 (Meitestu Kowa Line 河和). ให้นั่ง Taxi ต่อมาอีกประมาณ 5 กิโลเมตร (ใช้เวลา 15 นาที) ถ้าขับรถมาเองให้ออกจากทางด่วนด่าน Handa Chuō IC 半田中央インター (ส่วนใหญ่สวนสตรอเบอร์รี่จะอยู่ห่างไกลจากตัวเมืองค่ะ แนะนำให้เช่ารถหรือซื้อทัวร์พาชิมสตรอเบอร์รี่จะสะดวกกว่า จะได้ไม่ต้องกลัวหลงหรือเสียเวลาค่ะ)

ดูบทความที่เกี่ยวข้อง

About the author

riangsupod-profile_pic_image

RiangSupod

ดูบทความผู้เขียน

เลขาสาวผู้ชื่นชอบการท่องเที่ยว อาหาร และวัฒนธรรมญี่ปุ่น จบปริญญาตรีจากคณะอักษรศาสตร์-ปริญญาโทรัฐศาสตร์ จุฬาฯ
เคยอาศัยอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น และได้เดินทางไปทำงานและไปท่องเที่ยวที่ญี่ปุ่นบ่อยๆ ทำให้มีเพื่อนทั้งชาวไทยและชาวญี่ปุ่นทุกเพศทุกวัย
ปัจจุบันเป็นเลขานุการผู้บริหารระดับสูงของรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง

ถูกใจ แชร์เลย

บทความที่เกี่ยวข้อง

[Miyagi] พาไปชมเกาะแมว ”เกาะทาชิโระ” จ.มิยางิ

ขนมดังโงะสุดน่ารัก ที่ใครเห็นก็ต้องหลงรัก

ร้าน Chibi Maruko-chan กำลังจะมาเปิดที่ LaLaport TOKYO-BAY แล้ว

ไปเที่ยวฟูจิแบบเช้าเย็นกลับด้วยวิธีไหนดี?

เที่ยวโอกินาว่าด้วย “YUI Rail: ยูอิเรล”

กินลมชมวิวไปกับรถไฟ Iyonada Monogatari

ไดบุตสึปุริน พุดดิ้งพระพุทธรูปแสนอร่อย ของฝากจังหวัดนารา

Blumen Hugel สวนสไตล์เยอรมันที่มีดอกไม้บานตลอดทั้งปี

สวนริทสึริน (Ritsurin Garden): สวนไดเมียวที่ “Michelin Green Guide Japan” มอบให้ระดับ 3 ดาว