ชานมไข่มุกเมนูยอดฮิตของปี2018

ชานมไข่มุกเมนูยอดฮิตของปี2018

เครื่องดื่มยอดนิยมในช่วงนี้เห็นจะหนีไม่พ้นชานมไข่มุก เจ้าเครื่องดื่มแห่งยุค2018นี้ หากลองย้อนไปเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ถ้าเกิดคุณอยู่โตเกียวแล้วอยากจะดื่มชานมไข่มุกขึ้นมาละก็ สถานที่ที่ใกล้ที่สุดที่จะหาดื่มเครื่องดื่มประเภทนี้ได้คงจะเป็นโยโกฮาม่า นั่งรถไฟไปกลับก็แค่ชั่วโมงกว่าๆเอง แต่สมัยนี้ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็จะเจอแต่ร้านชานมไช่มุกเรียงรายเต็มไปหมด วันนี้เราจึงจะพาคุณไปตะเวนชิมชานมไข่มุกรอบๆโตเกียวกัน ถ้าคุณพร้อมจะดื่มชานมไข่มุกที่ให้พลังงานเท่ากับต้มยำ 6 ถ้วยก็ตามเรามาเลย

ร้านแรกนี้เรียกได้ว่าเป็นร้านติดอันดับหนึ่งในดวงใจของผู้เขียนเลยทีเดียว เรียกได้ว่าถ้าเดินผ่านร้านนี้ทีไรต่อให้ต้องต่อคิวฉันก็ยอม ร้าน Gong Cha เป็นร้านชานมไข่มุกที่ถือกำเนิดจากไต้หวันก่อนจะขยายตัวมาที่เกาหลีจนถึงตอนนี้ก็มีสาขาทั่วโลกมากกว่า 1400สาขาเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นไต้หวัน ฮ่องกง จีน สิงค์โปร มาเก๊า มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เกาหลี ไทยก็เคยมีนะ และอื่นๆอีกมากมายหลายประเทศ ด้วยความหอมของชา และการเลือกท๊อปปิ้งได้มากมายได้อย่าง บวกกับไข่มุกสีดำที่คัดสรรมาอย่างดีกลมกล่อมลงตัวสุดๆ ในโตเกียวมีสาขามากมายให้เลือกไปลองชิมกัน ถ้าใครผ่านร้าน Gong Cha ก็อย่าลืมแวะลองชิมกันดูนะ (เมนูแนะนำ Black Milk Tea)

ร้านที่สองกับร้าน CoCo ที่มีต้นกำเนิดมาตั้งแต่ปี 1997 โดยเริ่มต้นสาขาแรกที่ไทเป ก่อนจะขยายสาขาไปมากกว่า 3000 กว่าสาขาทั่วโลก ร้าน CoCo เรียกได้ว่าเป็นร้านที่มีเอกลักษณ์ไม่ว่าจะเป็นชานมหรือชาผลไม้ เห็นได้จากแถวที่ต่อยาวเหยียดวนเป็นงูเลื้อยอยู่หน้าร้านสาขาชิบูย่า การันตีความอร่อยและมีเอกลักษณ์ของแบรนด์นี้ได้เป็นอย่างดี (เมนูแนะนำ 3Guys เป็นการผสมผสานท๊อปปิ้งระหว่างไข่มุก พุดดิ้งและเฉาก๊วย)

Credit: ผู้เขียน

มาต่อกันกับร้านที่สามที่มีชื่อว่า Chatime โดยเริ่มเปิดสาขาแรกที่ Toronto ในเดือนกันยายนปี 2011 ก่อนจะขยายไปมากกว่า 800สาขาทั่วโลก โดยวัตถุดิบทั้งหมดส่งตรงมาจากไต้หวัน ในโตเกียวสามารถหาดื่มได้ที่สถานี Shin-okubo สถานี ikebukuro สถานี Ginza (เมนูแนะนำ Grass Jelly Milk Tea)

Credit: ผู้เขียน

แต่ถ้าอยากดื่ม Cheese Tea ต้องร้านนี้เลย Comma Tea ตั้งอยู่สถานี Ebisu ร้านนี้คัดสรรชาชั้นดีปรุงด้วยความละเอียดทีละแก้วทีละแก้ว ชีสนั้นยังเป็นชีสโฮมเมดของร้านนี้อีกด้วย ที่พิเศษกว่านั้นคือไข่มุกของร้านที่ผ่านการเคี่ยวมากกว่า 1ชั่วโมง และต้องใช้ให้หมดภายใน 4ชั่วโมง เห็นถึงความพิถีพิถันของร้านนี้แล้วทุกคนก็อยากจะมาลองชิมกันใช่มั้ย มาตามที่อยู่นี้เลย Silver Plaza Ebisu 101, 1−22−3, Ebisu, Shibuya-ku, Tokyo 150-0013 (〒150-0013 東京都渋谷区恵比寿1−22−3 シルバープラザ恵比寿101)

Credit: ผู้เขียน

แต่ถ้าสายเกาหลีต้องร้านนี้ Select Café Kkotbing ร้านนี้ตั้งอยู่ที่สถานี Jiyugaoka เป็นร้านสไตล์เกาหลีที่มีทั้งน้ำแข็งไสและชานมไข่มุก ถ้าไม่อยากพลาดความอร่อยในสไตล์เกาหลีต้องตามมาที่ Jiyugaoka Masumoto Building 1F, 1-26-3, Jiyugaoka, Meguro-ku, Tokyo 152-0035 (〒152-0035 東京都目黒区自由が丘1-26-3 自由ヶ丘升本ビル1F)

Credit: ผู้เขียน

และร้านสุดท้ายที่เราอยากทิ้งท้ายไว้คือร้าน Piyanee ร้านชาไทยที่เพิ่งมาเปิดที่ชิบูย่าได้ไม่นานนัก ใครอยากลองชิมรสชาดชาไทยในญี่ปุ่นเรียนเชิญได้ที่นี่เลย Piyanee, Emilia Building 1F, 33-8, Udagawa-cho, Shibuya-ku, Tokyo 150-0042 (〒150-0042 東京都渋谷区宇田川町33番8号 エミリアビル1階) บอกไว้ตรงนี้เลยว่าผู้จัดการร้านร้านนี้ดีมากๆ

Credit: ผู้เขียน
ดูบทความที่เกี่ยวข้อง

About the author

Minripae

ดูบทความผู้เขียน

จากบัณฑิตนิเทศศาสตร์สู่นักเรียนทุนส่งหนังสือพิมพ์ในประเทศญี่ปุ่น ประสบการณ์กว่า3ปีกับการเรียนและทำงานไปพร้อมๆกัน ปัจจุบันผันตัวมาเริ่มต้นชีวิตแม่บ้านญี่ปุ่น มีเพจท่องเที่ยวร่วมกับเพื่อนบนเฟสบุ๊คชื่อ go there / ไปดิรอไร

https://www.facebook.com/paidigothere/

ถูกใจ แชร์เลย

บทความที่เกี่ยวข้อง

พุดดิ้งไข่ร้าน Quatre

ร้านซูชิตกแต่งสไตล์ยุคเอโดะ

ลองหรือยัง? ราเมนสับปะรดที่ร้าน “พาพาพาไพน์” PaPaPaPine!

มาเรียนรู้วิธีการดีดซามิเซ็ง (Shamisen) เครื่องดนตรีโบราณของญี่ปุ่นกันที่ “โฮสเทล อิจินิจิ” (HOTEL ICHINICHI)

พาไปทานของแปลก “มูงิโทโระ” (麦とろ)

“มิกิเฮ้าส์” (“MIKIHOUSE”) ร้านเสื้อผ้าเด็กระดับไฮเอนด์แบรนด์ญี่ปุ่น

ร้านดองกี้อาซะกุสะ เดินง่ายสะดวก แหล่งช้อปปิ้งของนักท่องเที่ยวไทย

มาทำความรู้จักกับ “วัดโกโตคุจิ” วัดแมวกวักนำโชคหรือ “มาเนกิ เนโกะ” กัน

“Beauty and the Beast” โฉมงามกับเจ้าชายอสูร โลดแล่นบนกระเป๋าแบรนด์ Jewelna Rose