โทโดโรกิ หุบเขาหนึ่งเดียวในโตเกียว

โทโดโรกิ หุบเขาหนึ่งเดียวในโตเกียว

Credit: ผู้เขียน

ไม่น่าเชื่อว่าเพียงเดินทางด้วยรถไฟจากสถานีชิบูย่าแค่20นาที เราก็จะได้พบกับหุบเขาหนึ่งเดียวในโตเกียว หุบเขาโทโดโรกิเป็นหุบเขาที่รายล้อมไปด้วยป่าคอนกรีตของเมืองโตเกียว หุบเขาโทโดโรกินี้ตั้งอยู่ในเขตเซตากายะ ซึ่งเป็นย่านที่อยู่อาศัยใจกลางเมืองแต่เงียบสงบแห่งหนึ่ง เสียงใบไม้เสียดสีเสียงลมเสียงน้ำไหล ต่างดึงดูงให้นักท่องเที่ยวและผู้คนที่รักความสงบร่มรื่นให้มาเยือนที่แห่งนี้ หากเดินออกจากสถานีโทโดโรกิมาจะผ่านซุปเปอร์มาเก็ตที่อยู่ทางขวามือ เมื่อเดินเลยซุปเปอร์มาเก็ตมาเล็กน้อยก็จะพบทางเข้าหุบเขาโทโดโรกิ ขั้นบันไดที่ทอดยาวลงไปนำเราไปสู่ลำธารที่สายน้ำกำลังไหลเอื่อยๆ ทางเดินที่ขนานตัวไปกับลำธารต่างก็มีพืชพันธ์นานาชนิดเขียวชอุ่มขึ้นอยู่ทั่ว มองแล้วสบายตา เมื่อเงยหน้าขึ้นมองด้านบนจะพบกับสะพานสีแดงสดเด่นสะดุดตาที่มีชื่อว่า โกรุฟุ (กอล์ฟ) บาชิ สะพานแห่งนี้ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของหุบเขาโทโดโรกิและเปรียบเสมือนเป็นประตูด่านแรกที่รอต้อนรับนักท่องเที่ยว ทางเดินที่ทอดยาวขนานไปตามลำธารตลอด1กิโลเมตรกับสายน้ำไหลเอื่อยที่ใสจนมองเห็นพื้นดินด้านล่าง ม้านั่งที่เรียงรายตลอดทางก็พาลให้อยากจะซื้อเบนโตะมานั่งกินเสียจริงๆ ชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่ก็มักจะมาเดินเล่นพักผ่อนในเวลาว่าง บางคนมากับสุนัขตัวโปรด กลุ่มแม่ๆทั้งหลายมากับรถเข็นเด็ก หุบเขาแห่งนี้สามารถใช้เวลาได้ตลอดทั้งวันแม้ในเวลากลางวันที่แดดจ้า เพราะต้นไม้ที่ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่นทำให้แสงแดดลอดลงมาเพียงรำไร ถ้าในเดือนกุมภาพันธ์เราอาจจะได้เห็นดอกบ๊วยบานสะพรั่งเป็นสีชมพูนวลๆดูคล้ายกับดอกซากุระ แต่ถ้าอยากจะชมดอกซากุระจริงๆให้มาชมในปลายเดือนมีนาคมจนถึงเดือนเมษายน แนะนำว่าให้เดินขึ้นไปชมดอกซากุระที่วัดโทโดโรดิฟุโดซอง

Credit: ผู้เขียน

วัดโทโดโรกิฟุโดซองเป็นวัดที่อยู่กึ่งกลางทางพอดี ก่อนที่จะเดินขึ้นไปบนวัดก็จะพบกับน้ำตกเล็กๆที่นักบวชเคยใช้เป็นสถานที่ฝึกจิตฝึกกรรมฐาน ตรงทางขึ้นบันไดมีร้านขายขนมสไตล์ญี่ปุ่นที่เมนูจะวนเวียนไปเรื่อยๆในแต่ละช่วงฤดู ย่างเข้าเดือนสี่จะมีเมนูที่ชื่อว่า anmitsu อันมิตสึ เป็นขนมที่ประกอบไปด้วยโมจิก้อนขาวกลม ผลไม้ ถั่วแดง พอถึงหน้าร้อนจะเป็นเวลาของการนั่งฟังเสียงน้ำตกไปพร้อมๆกับรับประทานน้ำแข็งไสที่เกล็ดนุ่มละมุนละลายทันทีเมื่อเข้าปาก ส่วนหน้าหนาวก็เป็นโมจิที่กินกับถั่วแดงร้อนๆ เป็นร้านที่แนะนำอยากให้ทุกคนได้แวะเมื่อมาเที่ยวที่หุบเขาแห่งนี้จริงๆ เมื่อเดินถึงด้านบนวัดทางด้านขวาจะเป็นทางแยกเดินไปชมธรรมชาติ ส่วนด้านหน้าที่มองเห็นจะเป็นบ่อล้างมือที่มีรูปปั้นคล้ายมังกรประดับอยู่ ภายในวัดมีจุดชมวิวที่เป็นระเบียงไม้ยื่นออกไป ที่นี่อาจจะมีซากุระไม่กี่ร้อยต้นแต่ก็สวยงามไม่แพ้จุดชมซากุระที่อื่นๆ นอกจากนี้ยังเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ค่อนข้างมีชื่อเสียง ลองนึกภาพว่าใบไม้สีแดงร่วงโรยเต็มทางเดินกลายเป็นพรมธรรมชาติสีแดงที่มนุษย์ไม่ได้สร้าง

Credit: ผู้เขียน

ลงจากวัดกลับมาที่น้ำตกที่เดิมแล้วเดินไปทางซ้ายก็จะเจอกับสวนสไตล์ญี่ปุ่น สิ่งที่พิเศษของสวนนี้คือมีสนามหญ้าสีเขียวที่อยู่สูงราวกับว่าเป็นสวนลอยฟ้าและสามารถนั่งหรือนอนกับพื้นสนามหญ้าได้ นับว่าเป็นสิ่งที่ค่อนข้างหายากของสวนสาธารณะที่นี่ เมื่อมองลงไปข้างล่างจะพบกับวิวทิวทัศน์ของเมืองโตเกียว ทอดสายตามองวิวของเมืองที่ตัดกับท้องฟ้าแล้วสูดหายใจให้ลึก ทิ้งความเหนื่อยล้าจากสิ่งต่างๆให้ธรรมชาติได้เยียวยาคุณ นี่คือเหตุผลที่อยากชวนให้คุณมาที่หุบเขาโทโดโรกิแห่งนี้

Credit: ผู้เขียน

สำหรับวิธีการเดินทางหากมาด้วยรถไฟจากสถานีชิบูย่า ให้ขึ้นรถไฟสาย tokyu toyoko line มาลงที่สถานี jiyugaoka แล้วเปลี่ยนรถไฟเป็นสาย tokyu oimachi line นั่งมาเพียงแค่สามสถานีก็จะถึงสถานี Todoroki เบ็ดเสร็จจ่ายค่าโดยสารไปเพียงแค่200เยน ก็จะได้มาพบกับบรรยากาศธรรมชาติอันเงียบสงบจนน่าแปลกใจทั้งๆที่เดินออกมาจากสถานีไม่ถึงสามนาที

แผนที่:

ดูบทความที่เกี่ยวข้อง

About the author

Minripae

ดูบทความผู้เขียน

จากบัณฑิตนิเทศศาสตร์สู่นักเรียนทุนส่งหนังสือพิมพ์ในประเทศญี่ปุ่น ประสบการณ์กว่า3ปีกับการเรียนและทำงานไปพร้อมๆกัน ปัจจุบันผันตัวมาเริ่มต้นชีวิตแม่บ้านญี่ปุ่น มีเพจท่องเที่ยวร่วมกับเพื่อนบนเฟสบุ๊คชื่อ go there / ไปดิรอไร

https://www.facebook.com/paidigothere/

ถูกใจ แชร์เลย

บทความที่เกี่ยวข้อง

ร้านคาเฟ่นกฮูก “Akiba2960” ในย่านอากิฮาบาระ

ร้านไอศกรีมไต้หวันชื่อดัง NINAO Gelato จะมาเปิดตัวสาขาแรกในญี่ปุ่นที่สถานี Sangenjaya แล้วเดือนตุลา 2018

พิพิธภัณฑ์ของเล่นโตเกียวหรือ “Tokyo Toy Museum”

แวะซื้อของฝากเก๋ๆที่ Village Vanguard

Hard Off สาขาอากิฮาบาระ แหล่งเครื่องเสียงเครื่องดนตรีมือสอง

ช้อปปิ้งสุดมันส์ที่ตลาดอะเมโยะโก (ameyoko)

Tokyo snake center คาเฟ่ของคนชอบงู

ร้านชานม CHAYAM ผู้เชี่ยวชาญด้านความอร่อยมาเปิดตัวในญี่ปุ่นที่ Shin-Okubo แล้ว

ลองหรือยัง? ราเมนสับปะรดที่ร้าน “พาพาพาไพน์” PaPaPaPine!