โอลิมปิกครั้งถัดไปจะจัดขึ้นที่โตเกียว ประเทศญี่ปุ่นในอีกแค่ 2 ปีข้างหน้า (2020) ในโลกที่พัฒนาและเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดดโดยเฉพาะในเรื่องของเทคโนโลยี ญี่ปุ่นก็เป็นหนึ่งในประเทศที่เดินทางมาไกลและเป็นต้นแบบในด้านการผลิตนวัตกรรมใหม่ๆ ควบคู่ไปกับการรณรงค์รักษาสิ่งแวดล้อม

มาดูกันเลยค่ะว่าประเทศญี่ปุ่นมีการเตรียมการทางด้านเทคโนโลยีและความปลอดภัยอย่างไรบ้างเพื่อต้อนรับการมาถึงของการแข่งขันโอลิมปิกครั้งนี้

1. ใช้พลังงานทดแทน 100% ในการจัดการแข่งขันงาน

Powering the games with 100% renewable energy

โดยจะใช้พลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ในส่วนของสนามกีฬาและหมู่บ้านนักกีฬา

2. เปลี่ยนมือถือเก่าๆ ให้เป็นเหรียญรางวัล

Turning old phones into medals

ชิ้นส่วนในมือถือนั้นประกอบไปด้วยส่วนที่เป็นทอง เงิน และทองแดง ซึ่งจะนำมาแยกและสกัดเป็นเหรียญรางวัลจำนวน 5,000 เหรียญ ตอนนี้ก็ได้รับบริจาคมือถือเก่าและอุปกรณ์อื่นๆ แล้วกว่า 80,000 เครื่อง

และก็ยังแพลนไว้อีกด้วยว่าข้าวของเครื่องใช้ต่างๆที่ใช้ในการแข่งขันครั้งนี้ก็จะถูกนำกลับมาใช้หรือรีไซเคิลใหม่มากถึง 99%

3. บริการแท็กซี่ไร้คนขับ

Driverless taxis for guests

ผู้โดยสารสามารถปลดล็อคประตูและจ่ายค่าบริการแท็กซี่ได้ง่ายๆ ด้วยสมาร์ทโฟน ไอเดียนี้เป็นที่นิยมและมีผู้เข้าร่วมทดสอบการขับแล้วกว่า 1,500 ราย

4. ถนนพลังงานแสงอาทิตย์หรือ Solar Road

Solar roads

ขณะนี้ที่ประเทศญี่ปุ่นกำลังดำเนินการทดสอบการใช้งานถนนพลังงานแสงอาทิตย์เป็นระยะหลายไมล์อยู่

โดยแผงโซล่าเซลล์จะถูกติดตั้งลงบนพื้นถนนเคลือบด้วยเรซินเพื่อรองรับกับน้ำหนักของรถยนต์ (ประเทศที่ใช้ถนนพลังงานแสงอาทิตย์แล้วก็มีฝรั่งเศสและจีน)

5. หุ่นยนต์รองรับการแปลภาษาสำหรับชาวต่างชาติ

Robots will translate Japanese for foreign guests

จะมีการจัดเตรียมหุ่นยนต์แปลภาษาตลอดงานเพื่อรองรับการใช้งานของการแปลภาษาต่างประเทศให้กับชาวต่างชาติ

อีกทั้งยังมีหุ่นยนต์ผู้ช่วยถือกระเป๋าให้กับผู้พิการและคนชราอีกด้วย

ข้อมูลและภาพจาก : World Economic Forum

About the author

ออ

ดูบทความผู้เขียน

ชอบเรียนภาษา ดูหนังและชอบอ่านหนังสือเป็นชีวิตจิตใจ เป็นครูสอนภาษาไทยให้ชาวต่างชาติและปัจจุบันนักเรียนส่วนใหญ่ก็เป็นคนญี่ปุ่นเลยได้มีโอกาสพูดคุยแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกันกับชาวญี่ปุ่นเกือบทุกวัย นอกจากนี้ ก็เป็นคนเขียนบทประจำให้กับรายการ DID YOU KNOW…? และมีเพจภาษาอังกฤษบนเฟสบุ๊ค

https://www.facebook.com/English-in-the-Air-227307993959056/