ชอบเรียนภาษา ดูหนังและชอบอ่านหนังสือเป็นชีวิตจิตใจ เป็นครูสอนภาษาไทยให้ชาวต่างชาติและปัจจุบันนักเรียนส่วนใหญ่ก็เป็นคนญี่ปุ่นเลยได้มีโอกาสพูดคุยแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกันกับชาวญี่ปุ่นเกือบทุกวัย นอกจากนี้ ก็เป็นคนเขียนบทประจำให้กับรายการ DID YOU KNOW…? และมีเพจภาษาอังกฤษบนเฟสบุ๊ค
ปกติเวลาเพื่อนญี่ปุ่นมาเที่ยวเมืองไทย เขาก็มักจะซื้อขนมมาฝากเสมอ หนึ่งในขนมที่เป็นที่นิยมมากๆก็หนีไม่พ้นคิทแคท
และเป็นเพราะเขาคิดว่าคนไทยบ้าชาเขียวมากก็เลยซื้อคิทแคทชาเขียวมาฝากอยู่บ่อยๆ
คนไทยเองก็เหมือนกันไปญี่ปุ่นทีไรก็ไม่พลาดที่จะซื้อคิทแคทติดไม้ติดมือกลับมาด้วยซึ่งก็ไม่แปลกอะไรเพราะที่ญี่ปุ่นเขามีคิทแคทรสชาติแปลกๆให้เลือกมากมายตั้งแต่รสวาซาบิไปจนถึงพุดดิ้งฟักทอง
แต่ก่อนที่จะมีให้เลือกถึงกว่า 300 รสชาติอย่างทุกวันนี้
แรกเริ่มเดิมทีคิทแคทถือกำเนิดขึ้นที่เมืองยอร์ก ประเทศอังกฤษ
แต่ชื่อเสียงยังไม่เป็นที่แพร่หลายนัก
จนกระทั่งบริษัทเนสท์เล่ซื้อกิจการไปในช่วงปี 1980
แล้วก็ค่อยๆเป็นที่รู้จักกันไปทั่วโลก
แต่สิ่งที่ทำให้คิทแคทประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลายจนกลายเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของญี่ปุ่นไปแล้วก็เพราะความแปลกใหม่ทั้งรสชาติที่ผู้ผลิตพยายามคิดค้นอยู่ตลอดเวลา
รวมไปจนถึงดีไซน์รูปแบบผลิตภัณฑ์ที่บ่งบอกความเป็นเอกลักษณ์แบบญี่ปุ่น ผสานกับวัฒนธรรมได้อย่างลงตัว
ความหลากหลายของรสชาติก็จะขึ้นอยู่กับฤดูกาลด้วย
และที่ทำให้สินค้ามีความพิเศษ ดึงดูดใจใครต่อหลายคนคือ
เขามีการผลิตแบบลิมิตเต็ด อิดิชั่น
ที่ต้องขอบอกว่าใครอยากได้ต้องรีบจับจองด่วน
นอกจากนี้
ผู้ผลิตยังได้ใส่ใจถึงคุณภาพผลิตภัณฑ์ที่จะคัดสรรเอาส่วนประกอบมาจากแหล่งที่มีชื่อเสียงของเมืองต่างๆ เหมือนกับ OTOP บ้านเรา เช่น คิทแคทวาซาบิ ก็จะมาจากจังหวัดชิซุโอกะ มันม่วงกับชาเขียวมาจากจังหวัดโอกินาวา เมลอนมาจากฮอกไกโด เป็นต้น กลายเป็นของฝากประจำจังหวัดไป
อีกเหตุผลที่ทำให้คิทแคทเป็นที่นิยมคือ
ความบังเอิญของชื่อที่มีเสียงคล้ายกับคำว่า “คิโตะคะโตะ”
ซึ่งในภาษาญี่ปุ่นแปลว่า “ชนะแน่ๆ” (to surely win)
ทำให้เพื่อนๆมักจะซื้อคิทแคทให้กับเพื่อนด้วยกันในช่วงที่กำลังจะสอบพร้อมกับเขียนข้อความให้กำลังใจเพื่อเป็นการอวยพรให้โชคดีในการสอบนั่นเอง
ใครอยากจะซื้อมาชิมดูเดี๋ยวนี้ก็หาไม่ยากแล้วจะซื้อออนไลน์ ไปเกตเวย์เอกมัย อิเซตันหรือห้างดังๆแถวสยามก็ตามไปสอยได้เลยค่ะ
About the author
ออ
ชอบเรียนภาษา ดูหนังและชอบอ่านหนังสือเป็นชีวิตจิตใจ เป็นครูสอนภาษาไทยให้ชาวต่างชาติและปัจจุบันนักเรียนส่วนใหญ่ก็เป็นคนญี่ปุ่นเลยได้มีโอกาสพูดคุยแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกันกับชาวญี่ปุ่นเกือบทุกวัย นอกจากนี้ ก็เป็นคนเขียนบทประจำให้กับรายการ DID YOU KNOW…? และมีเพจภาษาอังกฤษบนเฟสบุ๊ค
https://www.facebook.com/English-in-the-Air-227307993959056/
คิดถูกใจ