นั่งกระเช้าชมปีศาจหิมะ(Snow monsters)

นั่งกระเช้าชมปีศาจหิมะ(Snow monsters)

ทุกคนกำลังสงสัยกันใช่หรือไม่ว่าปีศาจหิมะคืออะไร? น่ากลัวไหม? ตอนนี้เราจะมาหาคำตอบกัน ปีศาจหิมะเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นทุกปีในช่วงฤดูหนาวบนยอดเขาสูง เกิดจากการที่อุณหภูมิติดลบบวกกับลมที่พัดหิมะขึ้นมาเกาะตัวบนต้นสน แต่ไม่ใช่ต้นสนทุกชนิดที่จะเกิดปรากฏการณ์นี้ได้ ต้องเป็นต้นสนที่มีใบเขียวตลอดทั้งปี เติบโตบนยอดเขาสูงชื่อพันธุ์ว่า อาโอโมริโทโดมัตสึ(Aomori-todomatsu) หิมะต้องตกไม่มากไปหรือน้อยไปถ้าตกน้อยไปจะไม่เกิดการเกาะตัวที่ต้นสน หรือถ้าตกมากไปต้นสนสายพันธุ์นี้อาจจะไม่ขึ้นได้ และเมื่อมีลมหนาวกำลังแรงพอจากทางฝั่งตะวันตกของเกาะญี่ปุ่น เมื่อลมพัดมาปะทะกับต้นสนอาโอโมริโทโดมัตสึด้วยอุณหภูมิที่ต่ำมากจะกลายเป็นน้ำแข็งทันที และเมื่อลมพัดมาแรงอย่างสม่ำเสมอจะเกิดการทับถมเรื่อย จนเกิดรูปร่างลักษณะต่างๆ เรียกว่า จุเฮียว (樹氷Jyuhyo) ในภาษาญี่ปุ่น หรือ ปีศาจหิมะ(Snow monsters)นั่นเอง

ปรากฏการณ์นี้หาชมได้เพียงไม่กี่ที่ในญี่ปุ่นเท่านั้น วันนี้เราจะพามาชมกันที่ซาโอะ(Sao) ณ เมืองยามากาตะ การเดินทางเริ่มจากสถานียามากาตะ(Yamagata station) เดินทางโดยรถบัสมาลงสุดสายที่ ซาโอะออนเซ็น(Zao Onsen) แล้วเดินต่อมาอีกนิด มาตรงลานสกีซาโอะเพื่อขึ้นกระเช้า

Credit: ผู้เขียน

เริ่มกันที่กระเช้าซาโอะ(Zao ropeway)ที่นี่เปิดให้ชมตั้งแต่ช่วงเดือนธันวาคมถึงมีนาคม แต่ไม่ได้เปิดให้ขึ้นชมทุกวัน ในแต่ละปีเปิดให้ชมประมาณ 53วันเท่านั้น ดังนั้นใครที่จะมาควรเช็คล่วงหน้าให้เรียบร้อย ราคาบัตรนั่งกระเช้าไปกลับอยู่ที่ผู้ใหญ่ 2600เยน เด็ก 1300เยน

Credit: ผู้เขียน

อันดับแรกจะต้องนั่งกระเช้าขึ้นไปจนสุดสายบนยอดเขาสูงใช้เวลาอย่างน้อยประมาณ18นาที การเปิดให้ชมจะมีทั้งช่วงเวลากลางวันและกลางคืน เลือกช่วงเวลาได้ตามใจชอบเลย อากาศข้างบนแตกต่างจากข้างล่างอย่างลิบลับตรงกับคำที่ว่ายิ่งสูงยิ่งหนาว

Credit: ผู้เขียน

อากาศข้างล่างว่าหนาวแล้วอากาศข้างบนคูณสิบเข้าไป อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ -10องศาดังนั้นใครที่จะมาชมควรเตรียมตัวตามคำแนะนำดังนี้ สวมเสื้อผ้าที่หนา สวมถุงมือ หมวกควรจะคลุมหูได้ยิ่งดี มีผ้าพันคอให้พร้อม และรองเท้าที่กันหิมะได้ดี ส่วนใครที่คิดว่ายังอุ่นไม่พอก่อนขึ้นกระเช้าก็จะมีเสื้อโค้ทให้เช่า ถ้าไม่อยากเสื้อเงินเพิ่มควรเตรียมตัวมาให้พร้อม

กระเช้าที่เรานั่งขึ้นมาเป็นแบบกระจกทั้งหมดชมวิวได้รอบทั้ง360องศา ถ่ายรูปมุมไหนตรงไหนก็ฟินไปหมดพอถึงข้างบนยอดเขาถ้าวันไหนอากาศดีในช่วงกลางวันจะเห็นปีศาจหิมะสีขาวเรียงรายกันอย่างสวยงาม แต่ถ้าวันไหนอากาศไม่ดีลมแรง หิมะตกหนัก อาจจะได้เห็นเพียงเล็กน้อยหรืออาจจะไม่เห็นเลย ก่อนจะมาอย่าลืมเช็คสภาพอากาศกันด้วย มาทั้งทีถ้าไม่ได้เห็นนี่เสียดายแย่เลย

Credit: ผู้เขียน

บนจุดชมวิวมีจุดที่ให้นักท่องเที่ยวได้คล้องกุญแจรูปหัวใจสวยๆ ได้รับความสนใจจากคู่รักเป็นอย่างมาก ใครมากับแฟนอย่าลืมมาคล้องกุญแจที่นี่ด้วยเดี๋ยวมาก็เหมือนมาไม่ถึงนะ อีกทั้งมีร้านอาหารที่ทำสำหรับนักท่องเที่ยวไว้หลบหนาว ใครอยู่ข้างนอกทนกับความหนาวนานๆไม่ไหวแวะใช้บริการได้ มีเมนูอาหารและเครื่องดื่มมากมายไว้คลายหนาวอาทิเช่น ข้าวแกงกระหรี อูดงญี่ปุ่นร้อนๆ ชา กาแฟ เป็นต้น

Credit: ผู้เขียน

และเมื่อตกเย็นจะมีการฉายไฟ(light up)ในช่วงเวลา 5 โมงเย็นจนถึง 3 ทุ่ม จุดให้ชมไฟไลท์อัพจะมีด้วยกันอยู่สามจุด จุดแรกคือจุดเปลี่ยนสายกระเช้าที่ จุเฮียวโคฮาระ(Jyuhyo Kohara) จุดต่อไปอยู่ระหว่างการนั่งกระเช้าจากสถานีนี้ไปจุดบนยอดเขาแต่จะชมไปเพียงจากในกระเช้าเท่านั้น และจุดสุดท้ายคือจุดบนยอดเขาที่สถานี จิโซซังโจ(Jizosancho) เหมือนกับจุดชมวิวในตอนกลางวัน

Credit: ผู้เขียน

แต่ไฟสีสันต่างๆทำให้ปีศาจหิมะเหล่าสวยและดูมีเสน่ห์ขึ้นไม่แพ้ไปกว่าตอนกลางวัน ให้อารมณ์อีกแบบ สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างมาก อากาศจะหนาวแค่ไหนนักท่องเที่ยวทุกคนก็ไม่หวั่น ต่างพากันแชะภาพสวยๆ เก็บไว้เป็นที่ระลึกกัน ไม่มาถือว่าพลาดนะขอบอก

ดูบทความที่เกี่ยวข้อง

ถูกใจ แชร์เลย

บทความที่เกี่ยวข้อง

ทิวลิปและกุหลาบบานสะพรั่งพรั่งแล้วในสวน Karuizawa Lake Garden ที่ซ่อนอยู่ในเมืองคารุอิซาวะ

เดินทางใต้ทะเลข้ามเกาะที่ช่องแคบคันมง

“ปูเฮย์เค” ปูหน้าคนแห่งความแค้น!

Onitsuka Tiger สาขานาโกย่า (オニツカタイガー 名古屋) ในห้าง SAKAE NOVA(栄 ノバ)

เที่ยวถ้ำริวเซนโด ถ้ำที่น้ำใสจนเห็นเป็นสีฟ้าและถูกขนานนามว่า “ดราก้อนบูล”

นั่งเรือให้อาหารนกนางนวลที่โจโดกาฮามะ

จุใจกับสตรอเบอร์รี่สดๆ ทานได้ไม่อั้น

เปลี่ยนคุกเก่าแก่ยุคเมจิให้เป็นโรงแรมหรูแห่งแรกในญี่ปุ่น (นาระ)

กินลมชมวิวไปกับรถไฟ Iyonada Monogatari