โมจิไทย vs โมจิญี่ปุ่น ความอร่อยที่แตกต่าง 2017/03/03 โมจิไทย vs โมจิญี่ปุ่น ความอร่อยที่แตกต่าง 2017/03/03 ขนมโมจิ ขนมที่คนไทยรู้จักกันดี โดยเฉพาะโมจิจากจังหวัดนครสวรรค์ ใครที่เดินทางแวะผ่านมายังเมืองปากน้ำโพแห่งนี้ คงไม่พลาดซื้อโมจิไส้ต่าง ๆ กลับไปเป็นของฝากด้วยชื่อที่ดูไม่ไทยเท่าไรนัก อีกทั้งยังพ้องกับชื่อของกินของชาวญี่ปุ่นที่เรียกว่า “โมจิ” เหมือนกัน หลายคนคงเข้าใจว่าขนมชนิดนี้เป็นขนมญี่ปุ่น แต่ก่อนปริศนะ ปุญพ์ ก็คิดแบบนี้ครับ แต่พอมาญี่ปุ่น กลับพบว่า โมจิที่คุ้ยเคยที่บ้านเรา กับโมจิญี่ปุ่น มีอะไรหลายอย่างที่แตกต่าง จนเกิดเป็นคำถามในใจว่า ขนมโมจินครสวรรค์นี่เป็นขนมสไตล์ญี่ปุ่นจริง ๆ หรือไม่ หรือว่าแค่ชื่อเหมือนกัน แล้วถ้าเป็นขนมญี่ปุ่น วัฒนธรรมจากแดนอาทิตย์อุทัยแผ่ขยายไกลมาถึงที่ราบลุ่มปากน้ำโพตั้งแต่เมื่อไร ใครเป็นคนนำเข้ามา แล้วทำไมลักษณะมันถึงได้แตกต่างกันอยู่พอสมควร คำตอบของคำถามเหล่านี้ มีอยู่มากมายในกูเกิล แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเชื่อถือได้ 100% หรือปล่าวนะครับ เอาเป็นว่าในที่นี้จะไม่พูดถึงประเด็นเหล่านี้ แต่จะมาดูความแตกต่างของโมจิทั้งสองที่กันครับ เริ่มต้นจากบ้านเรา เราทราบกันดีว่าโมจิเป็นขนม ก้อนกลม ๆ เล็ก มีไส้ เป็นขนมหวาน จะว่าไปก็คล้ายขนมเปี๊ยะ この投稿をInstagramで見る Hikari Imaizumi(@hikari_imaizumi)がシェアした投稿 – 2020年 3月月15日午後8時21分PDT มาดูฝั่งญี่ปุ่น โมจิเป็นมากกว่าขนม แต่ยังเป็นอาหารอีกด้วยครับ เนื้อของโมจิทำมาจากแป้งข้าวเหนียว จึงมีความยืดหยุ่นเหนียวหนึบ ยืดได้ยาวเลยครับ ดังนั้นเนื้อโมจิจึงต่างจากโมจิบ้านเรามาก โมจิ ยังเป็นอาหารมงคล คนญี่ปุ่นนิยมทำโมจิกันในช่วงปีใหม่ บางชุมชนช่วยกันทำใหญ่โต ช่วยกันนึ่งข้าว ตำข้าวแล้วนวดเป็นก้อนแต่ปัจจุบันก็มีเครื่องทำโมจิผลิตออกมาขายแล้วนะครับ แค่เอาข้าวเหนียวใส่ เครื่องก็จะนึ่งใช้ พอสุกเครื่องก็จะบดข้าวเป็นแป้งข้าวเหนียวให้เลย ปริศนะ ปุญพ์ เคยไปช่วยคนญี่ปุ่นทำ พอได้แป้งข้าวเหนียวมาก็ปั้นเป็นก้อน ๆ แล้วก็เสร็จเลย ดังนั้นโมจิญี่ปุ่น จึงเป็นแป้งข้าวเหนียวปล่าว ๆ ไม่มีไส้ ไร้รสชาติ ไม่เหมือนโมจิบ้านเราครับ พอปั้นโมจิเสร็จแล้วเนี่ย ก็เก็บใส่ถุงแช่ช่องฟรีซ โมจินุ่ม ๆ ก็จะแข็งโป๊กระดับปาหัวคนแตกเลยทีเดียวเจ้าโมจิแข็ง ๆ เนี่ยเก็บไว้ทานได้เป็นปีครับ พอจะกินก็เอามาเข้าไมโครเวฟ หรืออุ่นด้วยวิธีต่าง ๆ この投稿をInstagramで見る 1/87の底辺サラリーマン(@minitoru87)がシェアした投稿 – 2020年 1月月7日午前6時07分PST この投稿をInstagramで見る Hideki Furukawa(@oldriver1021)がシェアした投稿 – 2019年12月月30日午後3時48分PST วิธีการรับประทานนั้นก็มีหลายวิธี ดัดแปลงทำได้หลายเมนูครับ ตัวอย่างเช่น ต้มกับซุป ทำเป็นชาบู สุกี้ หม้อไฟ หรืออะไรก็แล้วแต่ คนญี่ปุ่นที่รู้จักบอกปริศนะ ปุญพ์ว่า นักกีฬาซูโม่ญี่ปุ่นเขาจะกินแบบนี้กัน เพราะโมจิเป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรต ให้พลังงานสูง บางคนก็เอาไปย่างไฟ คงให้อารมณ์แบบข้าวจี่ อีสานบ้านเรานะครับ この投稿をInstagramで見る @mina.wtがシェアした投稿 – 2020年 1月月1日午後8時28分PST อีกวิธีหนึ่งคือ เอาโมจิเข้าไมโครเวฟ พอนุ่มก็เอาซอสโชยุ (ซอสถั่วเหลืองญี่ปุ่น) มาเยาะ แล้วโปะด้วยสาหร่ายแผ่น แล้วทานได้ この投稿をInstagramで見る Hiromi♡Ishikawa(@hiromi5736)がシェアした投稿 – 2020年 1月月17日午後10時25分PST この投稿をInstagramで見る @tamasuzu0915がシェアした投稿 – 2020年 5月月6日午前2時37分PDT ส่วนอีกวิธีหนึ่งคือทานเป็นของหวาน เช่นกินกับถั่วแดงต้ม หรือนำโมจินุ่ม ๆ มาคลุกกับผงถั่วเหลืองคั่วผสมน้ำตาล เขาเรียกโมจิแบบนี้ว่า คินะโกะโมจิครับ โดยส่วนตัวปริศนะ ปุญพ์ จะชอบแบบหลังนี้ที่สุด โมจินุ่ม ๆ หวาน ๆ มัน ๆ ปนกันไป … ดูบทความที่เกี่ยวข้อง About the author ปริศนะ ปุญพ์ ดูบทความผู้เขียน ปริศนะ ปุญพ์ หนุ่มไทยไกลบ้าน ผู้ผ่านร้อนผ่านหนาวในโอซาก้ามานานกว่า 3 ปี และคงจะใช้ชีวิตอย่างสงบที่ประเทศญี่ปุ่นไปอีกสักพัก ปริศนะ ปุญพ์ เป็นคนพูดน้อย น้อยซะจนเรียกว่าไม่พูดเลย จนกลายเป็นคนที่เข้าถึงได้ยาก มีคนบางคนพยายามแกล้งจะมองตาชายหนุ่มคนนี้ ด้วยหวังให้ดวงตาจะเป็นหน้าต่างของหัวใจ หวังให้เป็นช่องทางเข้าไปสู่โลกส่วนตัวของเขา แต่ทว่าปริศนะ ปุญพ์ ก็หลบสายตาทุกครั้ง หน้าต่างบานนี้คงไม่เหมาะสำหรับเจาะใจชายคนนี้ แต่ !!! มันก็มีหน้าต่างบานหนึ่งนะที่ปริศนะ ปุญพ์ ไม่เคยปิด นั่นคือบทความต่าง ๆ ที่เขาเขียนไว้ในโซเชียลเน็ตเวิร์ค และตั้งแต่เดือนธันวาคม 2559 เป็นต้นไป ปริศนะ ปุญพ์ ได้สร้างต่างบานใหม่ บานใหญ่ขึ้น ด้วยการตกลงรับงานนักเขียนในเว็บไซต์นี้ เขาหวังเป็นอย่างยิ่งบทความของเขาจะสร้างความเพลิดเพลินให้กับผู้อ่าน และเป็นสื่อให้ผู้อ่านได้ยินเสียงที่ดังอยู่ในความคิดของเขาได้ ปล.1 เขาว่ากันว่าคนมีโลกส่วนตัวสูงแบบปริศนะ ปุญพ์ มักเข้าถึงจาก แต่ถ้าเข้าถึงใจเขาได้แล้ว เขาจะรักคุณตลอดไป ปล. 2 เขาเก็บรวบรวมบทความของตัวเองไว้ในแฟนเพจตามลิงค์ด้านล่างนะครับ ตามไปอ่านกันได้ครับ https://www.facebook.com/prysanapyunp/ คิดถูกใจ Komachi JAPAN ถูกใจ แชร์เลย
หนาวนี้ก็ขอลอง ไอศครีม Cold Stone ไส้โมจินุ่มๆ กับความหวานที่ลงตัวของถั่วแดงกวนกับไอศครีมวานิลลาทำจากนมฮอกไกโด
ขนมโมจิ ขนมที่คนไทยรู้จักกันดี โดยเฉพาะโมจิจากจังหวัดนครสวรรค์ ใครที่เดินทางแวะผ่านมายังเมืองปากน้ำโพแห่งนี้ คงไม่พลาดซื้อโมจิไส้ต่าง ๆ กลับไปเป็นของฝากด้วยชื่อที่ดูไม่ไทยเท่าไรนัก อีกทั้งยังพ้องกับชื่อของกินของชาวญี่ปุ่นที่เรียกว่า “โมจิ” เหมือนกัน หลายคนคงเข้าใจว่าขนมชนิดนี้เป็นขนมญี่ปุ่น แต่ก่อนปริศนะ ปุญพ์ ก็คิดแบบนี้ครับ แต่พอมาญี่ปุ่น กลับพบว่า โมจิที่คุ้ยเคยที่บ้านเรา กับโมจิญี่ปุ่น มีอะไรหลายอย่างที่แตกต่าง จนเกิดเป็นคำถามในใจว่า ขนมโมจินครสวรรค์นี่เป็นขนมสไตล์ญี่ปุ่นจริง ๆ หรือไม่ หรือว่าแค่ชื่อเหมือนกัน แล้วถ้าเป็นขนมญี่ปุ่น วัฒนธรรมจากแดนอาทิตย์อุทัยแผ่ขยายไกลมาถึงที่ราบลุ่มปากน้ำโพตั้งแต่เมื่อไร ใครเป็นคนนำเข้ามา แล้วทำไมลักษณะมันถึงได้แตกต่างกันอยู่พอสมควร
คำตอบของคำถามเหล่านี้ มีอยู่มากมายในกูเกิล แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเชื่อถือได้ 100% หรือปล่าวนะครับ เอาเป็นว่าในที่นี้จะไม่พูดถึงประเด็นเหล่านี้ แต่จะมาดูความแตกต่างของโมจิทั้งสองที่กันครับ
เริ่มต้นจากบ้านเรา เราทราบกันดีว่าโมจิเป็นขนม ก้อนกลม ๆ เล็ก มีไส้ เป็นขนมหวาน จะว่าไปก็คล้ายขนมเปี๊ยะ
มาดูฝั่งญี่ปุ่น โมจิเป็นมากกว่าขนม แต่ยังเป็นอาหารอีกด้วยครับ เนื้อของโมจิทำมาจากแป้งข้าวเหนียว จึงมีความยืดหยุ่นเหนียวหนึบ ยืดได้ยาวเลยครับ ดังนั้นเนื้อโมจิจึงต่างจากโมจิบ้านเรามาก
โมจิ ยังเป็นอาหารมงคล คนญี่ปุ่นนิยมทำโมจิกันในช่วงปีใหม่ บางชุมชนช่วยกันทำใหญ่โต ช่วยกันนึ่งข้าว ตำข้าวแล้วนวดเป็นก้อนแต่ปัจจุบันก็มีเครื่องทำโมจิผลิตออกมาขายแล้วนะครับ แค่เอาข้าวเหนียวใส่ เครื่องก็จะนึ่งใช้ พอสุกเครื่องก็จะบดข้าวเป็นแป้งข้าวเหนียวให้เลย
ปริศนะ ปุญพ์ เคยไปช่วยคนญี่ปุ่นทำ พอได้แป้งข้าวเหนียวมาก็ปั้นเป็นก้อน ๆ แล้วก็เสร็จเลย ดังนั้นโมจิญี่ปุ่น จึงเป็นแป้งข้าวเหนียวปล่าว ๆ ไม่มีไส้ ไร้รสชาติ ไม่เหมือนโมจิบ้านเราครับ พอปั้นโมจิเสร็จแล้วเนี่ย ก็เก็บใส่ถุงแช่ช่องฟรีซ โมจินุ่ม ๆ ก็จะแข็งโป๊กระดับปาหัวคนแตกเลยทีเดียวเจ้าโมจิแข็ง ๆ เนี่ยเก็บไว้ทานได้เป็นปีครับ พอจะกินก็เอามาเข้าไมโครเวฟ หรืออุ่นด้วยวิธีต่าง ๆ
วิธีการรับประทานนั้นก็มีหลายวิธี ดัดแปลงทำได้หลายเมนูครับ ตัวอย่างเช่น
ต้มกับซุป ทำเป็นชาบู สุกี้ หม้อไฟ หรืออะไรก็แล้วแต่ คนญี่ปุ่นที่รู้จักบอกปริศนะ ปุญพ์ว่า นักกีฬาซูโม่ญี่ปุ่นเขาจะกินแบบนี้กัน เพราะโมจิเป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรต ให้พลังงานสูง
บางคนก็เอาไปย่างไฟ คงให้อารมณ์แบบข้าวจี่ อีสานบ้านเรานะครับ
อีกวิธีหนึ่งคือ เอาโมจิเข้าไมโครเวฟ พอนุ่มก็เอาซอสโชยุ (ซอสถั่วเหลืองญี่ปุ่น) มาเยาะ แล้วโปะด้วยสาหร่ายแผ่น แล้วทานได้
ส่วนอีกวิธีหนึ่งคือทานเป็นของหวาน เช่นกินกับถั่วแดงต้ม หรือนำโมจินุ่ม ๆ มาคลุกกับผงถั่วเหลืองคั่วผสมน้ำตาล เขาเรียกโมจิแบบนี้ว่า คินะโกะโมจิครับ
โดยส่วนตัวปริศนะ ปุญพ์ จะชอบแบบหลังนี้ที่สุด โมจินุ่ม ๆ หวาน ๆ มัน ๆ ปนกันไป …
About the author
ปริศนะ ปุญพ์
ปริศนะ ปุญพ์ หนุ่มไทยไกลบ้าน ผู้ผ่านร้อนผ่านหนาวในโอซาก้ามานานกว่า 3 ปี และคงจะใช้ชีวิตอย่างสงบที่ประเทศญี่ปุ่นไปอีกสักพัก
ปริศนะ ปุญพ์ เป็นคนพูดน้อย น้อยซะจนเรียกว่าไม่พูดเลย จนกลายเป็นคนที่เข้าถึงได้ยาก มีคนบางคนพยายามแกล้งจะมองตาชายหนุ่มคนนี้ ด้วยหวังให้ดวงตาจะเป็นหน้าต่างของหัวใจ หวังให้เป็นช่องทางเข้าไปสู่โลกส่วนตัวของเขา แต่ทว่าปริศนะ ปุญพ์ ก็หลบสายตาทุกครั้ง หน้าต่างบานนี้คงไม่เหมาะสำหรับเจาะใจชายคนนี้
แต่ !!! มันก็มีหน้าต่างบานหนึ่งนะที่ปริศนะ ปุญพ์ ไม่เคยปิด นั่นคือบทความต่าง ๆ ที่เขาเขียนไว้ในโซเชียลเน็ตเวิร์ค
และตั้งแต่เดือนธันวาคม 2559 เป็นต้นไป ปริศนะ ปุญพ์ ได้สร้างต่างบานใหม่ บานใหญ่ขึ้น ด้วยการตกลงรับงานนักเขียนในเว็บไซต์นี้ เขาหวังเป็นอย่างยิ่งบทความของเขาจะสร้างความเพลิดเพลินให้กับผู้อ่าน และเป็นสื่อให้ผู้อ่านได้ยินเสียงที่ดังอยู่ในความคิดของเขาได้
ปล.1 เขาว่ากันว่าคนมีโลกส่วนตัวสูงแบบปริศนะ ปุญพ์ มักเข้าถึงจาก แต่ถ้าเข้าถึงใจเขาได้แล้ว เขาจะรักคุณตลอดไป
ปล. 2 เขาเก็บรวบรวมบทความของตัวเองไว้ในแฟนเพจตามลิงค์ด้านล่างนะครับ ตามไปอ่านกันได้ครับ
https://www.facebook.com/prysanapyunp/
คิดถูกใจ