ป่าแห่งเสียงดนตรีคาวากุจิโกะ (Kawaguchi-ko Music forest Museum) สวนยุโรปหรูพร้อมฉากหลังฟูจิซัง 2019/04/19 ป่าแห่งเสียงดนตรีคาวากุจิโกะ (Kawaguchi-ko Music forest Museum) สวนยุโรปหรูพร้อมฉากหลังฟูจิซัง 2019/04/19 พาไปเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่ง รอบทะเลสาบคาวากูจิโกะ นั่นก็คือ ป่าแห่งเสียงดนตรีคาวากุจิโกะ (Kawaguchi-ko Music forest Museum) Credit: ผู้เขียน หน้าทางเข้า แสดงถึงความเป็นป่าแห่งเสียงดนตรีโดยเริ่มจากการจัดให้มีการแสดงร้องโอเปร่าสดประสานเสียงไปกับเครื่องบรรเลงดนตรีอัตโนมัติที่หนึ่งในนั้นคือกล่องดนตรีที่เกือบจะถูกนำไปตั้งไว้เพื่อให้ความสำราญแก่ผู้โดยสารบนเรือไททานิคอันโด่งดัง Credit: ผู้เขียน มีดอกไม้สวยๆ ต้อนรับพวกเราด้วยค่ะ Credit: ผู้เขียน เมื่อเดินเข้ามาภายในบริเวณ ป่าแห่งเสียงดนตรีคาวากุจิโกะ (Kawaguchi-ko Music forest Museum) ก็จะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศของสวนสไตล์ยุโรปที่ปูด้วยหินและมีต้นไม้ดอกไม้ตามทางเดินค่ะ Credit: ผู้เขียน มีสวนกุหลาบด้วยนะคะ แต่ว่าเราไม่ได้เข้าไปทางนั้น Credit: ผู้เขียน เราเลี้ยวซ้ายเข้าไปสู่จุดซื้อตั๋ว (Ticket Office) อย่าลืมหยิบส่วนลดที่ป้ายรถบัสก่อนเข้ามาด้วยนะคะ (แจกส่วนลดค่าเข้าท้ายบทความ) Credit: ผู้เขียน มีโบรชัวร์+แผนผังเป็นภาษาไทยให้ด้วยค่ะ โดยมีอัตราค่าเข้าชมดังนี้ Credit: ผู้เขียน จุดแรกเมื่อพ้นจากจุดจำหน่ายตั๋วคือจุดเช่าชุดแต่ง Cosplay เป็นชุดชาวยุโรปโบราณค่ะ แบบว่าเข้ากับบรรยากาศของสวนนะคะ มีให้เลือกมากมายหลายไซส์ ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ผู้หญิงแล้วก็ผู้ชายด้วย (ชุดประจำชาติญี่ปุ่นก็มีด้วยค่ะ) Credit: ผู้เขียน บริการค่าเช่าต่อ 90 นาที สำหรับผู้ใหญ่ 1,000 เยน, เด็ก 500 เยนเท่านั้น ผ่านจุดนี้ไปก็จะไปสู่ตัวของสวนด้านในแล้วนะคะ Credit: ผู้เขียน เปิดประตูมาต้องร้องว้าว…อลังการงดงามจริงๆค่ะ…ป่าแห่งเสียงดนตรีคาวากุจิโกะเป็นสถานที่ที่รวมเอาสวนสนุก พิพิธภัณฑ์ และสวนดอกไม้มาไว้ในที่เดียวกันอย่างลงตัวภายใต้บรรยากาศที่จำลองมาจากเทือกเขาเเอลป์ทวีปยุโรป Credit: ผู้เขียน มีจุดไฮไลท์ตรงที่สามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้ชัดเจนตลอดทั้งปีจากบริเวณกลางสวนอีกด้วยค่ะ Credit: ผู้เขียน แต่วันที่เราไป เห็นลิบๆ แค่นั้น… Credit: ผู้เขียน ตอนที่เราไปก็จะเป็นช่วงอีสเตอร์นะคะ จะมีไข่อีสเตอร์ประดับประดาอยู่ด้วยน่ารักมากเลยอ่ะ Credit: ผู้เขียน จุดที่เราชอบมากๆ และเชื่อว่าทุกคนก็ชื่นชอบด้วย ก็คือน้ำพุดนตรีตรงกลางลานของสวนค่ะ Credit: ผู้เขียน จะตีบอกทุกชั่วโมงแล้วก็มีดนตรีบรรเลงมาพร้อมหุ่นเต้นระบำออกมาค่ะ Credit: ผู้เขียน นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นกลุ่มสูงวัยมากันเป็นหมู่คณะเยอะเหมือนกัน Credit: ผู้เขียน เราสามารถแวะพักจิบชา ทานอาหารท่ามกลางบรรยากาศอันแสนโรแมนติกที่ภัตตาคารหรือคาเฟ่ที่ตั้งอยู่ภายในบริเวณเดียวกันที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ Credit: ผู้เขียน มีเครื่องดื่มซากุระตามฤดูกาลด้วย Credit: ผู้เขียน รองเท้องกันเบาๆได้ค่ะ Credit: ผู้เขียน บรรยากาศร้านน่านั่งมาก คือถ้าไม่มีธงญี่ปุ่นจะคิดว่ามาเที่ยวยุโรปเลยเนอะ Credit: ผู้เขียน เราได้ซอฟท์ครีมซากุระมาชิมค่ะ Credit: ผู้เขียน เที่ยวต่อกัน มาชมกันเลยว่าในอาคารสวยๆ ที่เห็นมีอะไรบ้าง ในส่วนของอาคารห้องโถงแห่งดนตรี มีออร์แกนและเครื่องบรรเลงดนตรีอัตโนมัติอันทรงคุณค่าและหายาก Credit: ผู้เขียน บริเวณชั้น 1 ของฮิสทรีฮอลล์ที่ตกแต่งอย่างสวยงามตระการตานี้เป็นที่จัดแสดงคอลเล็คชั่นอันยิ่งใหญ่ของเครื่องบรรเลงดนตรีอัตโนมัติจากอเมริกาโดยมีป้ายบรรยายภาษาอังกฤษประกอบความเข้าใจ ทุกวันจะมีพนักงานผู้เชี่ยวชาญมาประจำการเพื่อสาธิตการแสดงดนตรีของเครื่องดนตรีเหล่านี้วนไป ตามตารางที่จัดไว้ Credit: ผู้เขียน ส่วนบริเวณชั้น 2 เป็นบริเวณที่เรียกว่าห้องโถงแห่งดนตรีอันเป็นที่จัดแสดงออร์แกน ตุ๊กตาบรรเลงดนตรี Credit: ผู้เขียน ตะลึงกับปราสาทดนตรีขนาดใหญ่ “Hellenkimse Castle”โดยจัดแสดงพร้อมมีป้ายบรรยายเป็นภาษาอังกฤษประกอบความเข้าใจ และมีพนักงานผู้เชี่ยวชาญมาประจำการเพื่อสาธิตการแสดงดนตรีของเครื่องดนตรีเหล่านี้วนไปตามตารางที่จัดไว้เช่นกัน Credit: ผู้เขียน แต่ถ้าใครไม่มีเวลามากพอที่จะรอการสาธิตรอบถัดไป ก็สามารถขอให้เจ้าหน้าที่สาธิตการแสดงให้ดูเป็นกรณีพิเศษได้ ใครมีเพลงที่ชอบก็ลองขอให้บรรเลงดูได้เช่นกัน Credit: ผู้เขียน เจอน้องหมีนั่งรอใครอยู่นะ Credit: ผู้เขียน สำหรับกิจกรรมบริเวณออร์แกนฮอลล์ ช่วงเวลาที่เราไป ได้ชมแสดงศิลปะวาดภาพด้วยทรายประกอบการแสดงดนตรีแบบสดๆ โชคดีมากที่ได้ฟังการเล่านิทานสนุกๆ ด้วยศิลปะการวาดภาพด้วยทรายประกอบดนตรีคลาสสิคที่แสดงกันอย่างสดๆ ภาพวาดจากทรายที่ปรากฏบนจอนั้นเคลื่อนไหวราวกับมีชีวิต ดึงดูดเราเข้าไปสู่โลกแห่งจินตนาการ อย่างไรก็ตามบนจอจะปรากฏคำอธิบายภาษาอังกฤษ จีน(ตัวย่อ) และไทยระหว่างการแสดงด้วยค่ะ Credit: ผู้เขียน พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ยังเป็นสถานที่รวบรวมกล่องดนตรีและเครื่องบรรเลงดนตรีอัตโนมัติไว้อย่างหลากหลาย จัดให้มีการแสดงออร์เคสตร้าออร์เคสตราที่บรรเลงโดย Dance Organ ที่มีขนาดใหญ่ติดอันดับโลก Credit: ผู้เขียน นอกจากการฟังดนตรีแล้ว นักท่องเที่ยวที่มาที่นี่ยังสามารถผ่อนคลายด้วยการชื่นชมความงามของสวนดอกไม้นานาชนิด ที่ตกแต่งไว้ในสวนแห่งนี้ Credit: ผู้เขียน สวนศิลปะและดอกไม้ตั้งประดับไว้ตามบริเวณต่างๆ ทั่วทั้งพิพิธภัณฑ์ Credit: ผู้เขียน สดใส สดชื่นกันไปค่ะตลอดทาง มีความสุขอินเลิฟมากๆ Credit: ผู้เขียน คุ้มค่ามากที่ได้เข้าชมสวนดอกไม้ และถ่ายรูปภูเขาไฟฟูจิได้ทั้งวัน แถมยังฟังบรรเลงออร์เคสตร้าออร์เคสตรา ชมโอเปร่าได้ทุกรอบแบบไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมใดๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ก็สามารถมาสัมผัสประสบการณ์ดีๆ ที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้ทุกวันไม่หวั่นแดดฝน โดยที่ไม่ต้องกังวลกับเรื่องสภาพอากาศ Credit: ผู้เขียน เรียกว่าเป็นอีกหนึ่ง จุดน่าแวะริมทะเลสาปคาวากุจิโกะ เหมาะกับเพื่อนๆที่ไปเที่ยวไม่ใช่ช่วงซากุระหรือใบไม้แดง คือเป็นสวนที่สวยอยู่ในตัวครบครันอยู่แล้วนะคะ โดยเฉพาะโดดเด่นที่ต้นคริสตัลสะท้อนแสงแดด ระยิบระยับ ดูแพงและมีคุณค่างดงาม Credit: ผู้เขียน แล้วก็มีร้านขายของฝาก/ของที่ระลึก ร้านน้ำหอม “La Maison de Parfum” (ลาเมซงเดอเพอร์ฟูม) ในป่าแห่งเสียงดนตรีคาวากุจิโกะ เคยรีวิวไว้ตามลิงค์ค่ะ ร้านน้ำหอม “La Maison de Parfum” (ลาเมซงเดอเพอร์ฟูม) ในป่าแห่งเสียงดนตรีคาวากุจิโกะ http://komachijp.com/other-spot/18309 Credit: ผู้เขียน นอกจากนี้ยังมีอีกร้านนึงอลังการภายในสวน ตั้งอยู่ติดๆ กันกับร้านน้ำหอม “La Maison de Parfum” (ลาเมซงเดอเพอร์ฟูม) Credit: ผู้เขียน คือขายของน่ารัก กุ๊กกิ๊ก เรียกว่าได้อารมณ์คล้ายๆไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีแห่งโอตารุเลยค่ะ เคยรีวิวไว้เช่นกันตามลิงค์ เวทมนต์แห่งกล่องดนตรีโอตารุ http://komachijp.com/hokkaido/2860 Credit: ผู้เขียน สำหรับห้องน้ำอยู่ตรงจุดข้างหน้าประตูทางเข้านี่ล่ะค่ะ เดินลงมาชั้นใต้ดิน แล้วก็จะมีล็อกเกอร์หยอดเหรียญไว้สำหรับเก็บของด้วย Credit: ผู้เขียน ทิ้งท้ายก่อนกลับด้วยรถม้าเจ้าหญิงในสวนในยุโรป Credit: ผู้เขียน สรุปได้ว่า ป่าแห่งเสียงดนตรีคาวากุจิโกะ (Kawaguchi-ko Music forest Museum) เป็นสวนสไตล์ยุโรปที่ตกแต่งด้วยดอกไม้และอาคารสไตล์ยุโรปที่หรูหรา มีฉากหลังเป็นคุณฟูจิซัง ไฮไลท์ของที่นี่ก็คือต้นคริสตัลขนาดยักษ์ และทุกๆ ชั่วโมงก็จะมีน้ำพุดนตรี เดินชมทั่วๆ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงก็น่าจะครบถ้วนค่ะ Credit: ผู้เขียน ส่วนลด : ลงรถบัสแล้วให้หยิบโบรชัวร์จะมีส่วนลดให้ วางไว้ที่โต๊ะข้างม้านั่ง แต่เราได้ส่วนลดจากที่พัก ทางเจ้าของ Guest House ให้มาค่ะ เพราะได้พุดคุยกับเค้าว่าเราจะไปเที่ยวที่นี่ หรือปริ้นจากหน้าจอนี้ได้เลยค่ะ Credit: ผู้เขียน การเดินทางจากโตเกียว การเดินทางโดยรถประจำทาง: ขึ้นรถโดยสารประจำทาง Chuo Highway Busจากสถานีชินจูกุ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 105 นาทีก็จะมาถึงสถานีรถไฟคาวากุจิโกะ ลงจากรถประจำทางที่สถานีนี้แล้วขึ้นรถโดยสารประจำทางท้องถิ่นสายสีเเดงบริเวณป้ายหมายเลข 1 นั่งต่อไปอีกประมาณ 24 นาที ก็จะถึงยังป่าแห่งเสียงดนตรีคาวากุจิโกะ การเดินทางโดยรถไฟ: ขึ้นรถไฟสาย JR. Chuo Line จากสถานีชินจูกุ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 67 นาทีก็จะมาถึงสถานีสถานี Otsuki ให้ลงเพื่อเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟสาย Fukikyuko ที่สถานีนี้ ใช้เวลาเดินทางต่อประมาณ 55นาทีก็จะถึงสถานีคาวากุจิโกะ ลงจากรถประจำทางที่สถานีนี้แล้วขึ้นรถโดยสารประจำทางท้องถิ่นสายสีเเดงบริเวณป้ายหมายเลข 1 นั่งต่อไปอีกประมาณ 24 นาที ก็จะถึงยังป่าแห่งเสียงดนตรีคาวากุจิโกะ Credit: ผู้เขียน หน้าตารถโดยสารประจำทางท้องถิ่นสายสีแดงที่วิ่งจากสถานีคาวากุจิโกะ (รถประจำทางสายสีเขียว และสายสีฟ้าไม่จอดป้ายหน้าพิพิธภัณฑ์) Credit: ผู้เขียน Kawaguchiko Music Forest Museum ที่ตั้ง: 3077−20 Kawaguchi, Fujikawaguchiko-machi, Minamitsuru-gun, Yamanashi 401-0304 โทร: +81 555-20-4111 เวลาเปิดปิด: 09.30-18.00 น. เว็บไซต์: https://kawaguchikomusicforest.jp/ แผนที่: ดูบทความที่เกี่ยวข้อง About the author RiangSupod ดูบทความผู้เขียน เลขาสาวผู้ชื่นชอบการท่องเที่ยว อาหาร และวัฒนธรรมญี่ปุ่น จบปริญญาตรีจากคณะอักษรศาสตร์-ปริญญาโทรัฐศาสตร์ จุฬาฯ เคยอาศัยอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น และได้เดินทางไปทำงานและไปท่องเที่ยวที่ญี่ปุ่นบ่อยๆ ทำให้มีเพื่อนทั้งชาวไทยและชาวญี่ปุ่นทุกเพศทุกวัย ปัจจุบันเป็นเลขานุการผู้บริหารระดับสูงของรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง คิดถูกใจ Komachi JAPAN ถูกใจ แชร์เลย
พาไปเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่ง รอบทะเลสาบคาวากูจิโกะ นั่นก็คือ ป่าแห่งเสียงดนตรีคาวากุจิโกะ (Kawaguchi-ko Music forest Museum)
หน้าทางเข้า แสดงถึงความเป็นป่าแห่งเสียงดนตรีโดยเริ่มจากการจัดให้มีการแสดงร้องโอเปร่าสดประสานเสียงไปกับเครื่องบรรเลงดนตรีอัตโนมัติที่หนึ่งในนั้นคือกล่องดนตรีที่เกือบจะถูกนำไปตั้งไว้เพื่อให้ความสำราญแก่ผู้โดยสารบนเรือไททานิคอันโด่งดัง
มีดอกไม้สวยๆ ต้อนรับพวกเราด้วยค่ะ
เมื่อเดินเข้ามาภายในบริเวณ ป่าแห่งเสียงดนตรีคาวากุจิโกะ (Kawaguchi-ko Music forest Museum) ก็จะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศของสวนสไตล์ยุโรปที่ปูด้วยหินและมีต้นไม้ดอกไม้ตามทางเดินค่ะ
มีสวนกุหลาบด้วยนะคะ แต่ว่าเราไม่ได้เข้าไปทางนั้น
เราเลี้ยวซ้ายเข้าไปสู่จุดซื้อตั๋ว (Ticket Office) อย่าลืมหยิบส่วนลดที่ป้ายรถบัสก่อนเข้ามาด้วยนะคะ (แจกส่วนลดค่าเข้าท้ายบทความ)
มีโบรชัวร์+แผนผังเป็นภาษาไทยให้ด้วยค่ะ โดยมีอัตราค่าเข้าชมดังนี้
จุดแรกเมื่อพ้นจากจุดจำหน่ายตั๋วคือจุดเช่าชุดแต่ง Cosplay เป็นชุดชาวยุโรปโบราณค่ะ แบบว่าเข้ากับบรรยากาศของสวนนะคะ มีให้เลือกมากมายหลายไซส์ ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ผู้หญิงแล้วก็ผู้ชายด้วย (ชุดประจำชาติญี่ปุ่นก็มีด้วยค่ะ)
บริการค่าเช่าต่อ 90 นาที สำหรับผู้ใหญ่ 1,000 เยน, เด็ก 500 เยนเท่านั้น ผ่านจุดนี้ไปก็จะไปสู่ตัวของสวนด้านในแล้วนะคะ
เปิดประตูมาต้องร้องว้าว…อลังการงดงามจริงๆค่ะ…ป่าแห่งเสียงดนตรีคาวากุจิโกะเป็นสถานที่ที่รวมเอาสวนสนุก พิพิธภัณฑ์ และสวนดอกไม้มาไว้ในที่เดียวกันอย่างลงตัวภายใต้บรรยากาศที่จำลองมาจากเทือกเขาเเอลป์ทวีปยุโรป
มีจุดไฮไลท์ตรงที่สามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้ชัดเจนตลอดทั้งปีจากบริเวณกลางสวนอีกด้วยค่ะ
แต่วันที่เราไป เห็นลิบๆ แค่นั้น…
ตอนที่เราไปก็จะเป็นช่วงอีสเตอร์นะคะ จะมีไข่อีสเตอร์ประดับประดาอยู่ด้วยน่ารักมากเลยอ่ะ
จุดที่เราชอบมากๆ และเชื่อว่าทุกคนก็ชื่นชอบด้วย ก็คือน้ำพุดนตรีตรงกลางลานของสวนค่ะ
จะตีบอกทุกชั่วโมงแล้วก็มีดนตรีบรรเลงมาพร้อมหุ่นเต้นระบำออกมาค่ะ
นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นกลุ่มสูงวัยมากันเป็นหมู่คณะเยอะเหมือนกัน
เราสามารถแวะพักจิบชา ทานอาหารท่ามกลางบรรยากาศอันแสนโรแมนติกที่ภัตตาคารหรือคาเฟ่ที่ตั้งอยู่ภายในบริเวณเดียวกันที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้
มีเครื่องดื่มซากุระตามฤดูกาลด้วย
รองเท้องกันเบาๆได้ค่ะ
บรรยากาศร้านน่านั่งมาก คือถ้าไม่มีธงญี่ปุ่นจะคิดว่ามาเที่ยวยุโรปเลยเนอะ
เราได้ซอฟท์ครีมซากุระมาชิมค่ะ
เที่ยวต่อกัน มาชมกันเลยว่าในอาคารสวยๆ ที่เห็นมีอะไรบ้าง ในส่วนของอาคารห้องโถงแห่งดนตรี มีออร์แกนและเครื่องบรรเลงดนตรีอัตโนมัติอันทรงคุณค่าและหายาก
บริเวณชั้น 1 ของฮิสทรีฮอลล์ที่ตกแต่งอย่างสวยงามตระการตานี้เป็นที่จัดแสดงคอลเล็คชั่นอันยิ่งใหญ่ของเครื่องบรรเลงดนตรีอัตโนมัติจากอเมริกาโดยมีป้ายบรรยายภาษาอังกฤษประกอบความเข้าใจ ทุกวันจะมีพนักงานผู้เชี่ยวชาญมาประจำการเพื่อสาธิตการแสดงดนตรีของเครื่องดนตรีเหล่านี้วนไป ตามตารางที่จัดไว้
ส่วนบริเวณชั้น 2 เป็นบริเวณที่เรียกว่าห้องโถงแห่งดนตรีอันเป็นที่จัดแสดงออร์แกน ตุ๊กตาบรรเลงดนตรี
ตะลึงกับปราสาทดนตรีขนาดใหญ่ “Hellenkimse Castle”โดยจัดแสดงพร้อมมีป้ายบรรยายเป็นภาษาอังกฤษประกอบความเข้าใจ และมีพนักงานผู้เชี่ยวชาญมาประจำการเพื่อสาธิตการแสดงดนตรีของเครื่องดนตรีเหล่านี้วนไปตามตารางที่จัดไว้เช่นกัน
แต่ถ้าใครไม่มีเวลามากพอที่จะรอการสาธิตรอบถัดไป ก็สามารถขอให้เจ้าหน้าที่สาธิตการแสดงให้ดูเป็นกรณีพิเศษได้ ใครมีเพลงที่ชอบก็ลองขอให้บรรเลงดูได้เช่นกัน
เจอน้องหมีนั่งรอใครอยู่นะ
สำหรับกิจกรรมบริเวณออร์แกนฮอลล์ ช่วงเวลาที่เราไป ได้ชมแสดงศิลปะวาดภาพด้วยทรายประกอบการแสดงดนตรีแบบสดๆ โชคดีมากที่ได้ฟังการเล่านิทานสนุกๆ ด้วยศิลปะการวาดภาพด้วยทรายประกอบดนตรีคลาสสิคที่แสดงกันอย่างสดๆ
ภาพวาดจากทรายที่ปรากฏบนจอนั้นเคลื่อนไหวราวกับมีชีวิต ดึงดูดเราเข้าไปสู่โลกแห่งจินตนาการ อย่างไรก็ตามบนจอจะปรากฏคำอธิบายภาษาอังกฤษ จีน(ตัวย่อ) และไทยระหว่างการแสดงด้วยค่ะ
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ยังเป็นสถานที่รวบรวมกล่องดนตรีและเครื่องบรรเลงดนตรีอัตโนมัติไว้อย่างหลากหลาย จัดให้มีการแสดงออร์เคสตร้าออร์เคสตราที่บรรเลงโดย Dance Organ ที่มีขนาดใหญ่ติดอันดับโลก
นอกจากการฟังดนตรีแล้ว นักท่องเที่ยวที่มาที่นี่ยังสามารถผ่อนคลายด้วยการชื่นชมความงามของสวนดอกไม้นานาชนิด ที่ตกแต่งไว้ในสวนแห่งนี้
สวนศิลปะและดอกไม้ตั้งประดับไว้ตามบริเวณต่างๆ ทั่วทั้งพิพิธภัณฑ์
สดใส สดชื่นกันไปค่ะตลอดทาง มีความสุขอินเลิฟมากๆ
คุ้มค่ามากที่ได้เข้าชมสวนดอกไม้ และถ่ายรูปภูเขาไฟฟูจิได้ทั้งวัน แถมยังฟังบรรเลงออร์เคสตร้าออร์เคสตรา ชมโอเปร่าได้ทุกรอบแบบไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมใดๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ก็สามารถมาสัมผัสประสบการณ์ดีๆ ที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้ทุกวันไม่หวั่นแดดฝน โดยที่ไม่ต้องกังวลกับเรื่องสภาพอากาศ
เรียกว่าเป็นอีกหนึ่ง จุดน่าแวะริมทะเลสาปคาวากุจิโกะ เหมาะกับเพื่อนๆที่ไปเที่ยวไม่ใช่ช่วงซากุระหรือใบไม้แดง คือเป็นสวนที่สวยอยู่ในตัวครบครันอยู่แล้วนะคะ โดยเฉพาะโดดเด่นที่ต้นคริสตัลสะท้อนแสงแดด ระยิบระยับ ดูแพงและมีคุณค่างดงาม
แล้วก็มีร้านขายของฝาก/ของที่ระลึก ร้านน้ำหอม “La Maison de Parfum” (ลาเมซงเดอเพอร์ฟูม) ในป่าแห่งเสียงดนตรีคาวากุจิโกะ เคยรีวิวไว้ตามลิงค์ค่ะ
นอกจากนี้ยังมีอีกร้านนึงอลังการภายในสวน ตั้งอยู่ติดๆ กันกับร้านน้ำหอม “La Maison de Parfum” (ลาเมซงเดอเพอร์ฟูม)
คือขายของน่ารัก กุ๊กกิ๊ก เรียกว่าได้อารมณ์คล้ายๆไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีแห่งโอตารุเลยค่ะ เคยรีวิวไว้เช่นกันตามลิงค์
สำหรับห้องน้ำอยู่ตรงจุดข้างหน้าประตูทางเข้านี่ล่ะค่ะ เดินลงมาชั้นใต้ดิน แล้วก็จะมีล็อกเกอร์หยอดเหรียญไว้สำหรับเก็บของด้วย
ทิ้งท้ายก่อนกลับด้วยรถม้าเจ้าหญิงในสวนในยุโรป
สรุปได้ว่า ป่าแห่งเสียงดนตรีคาวากุจิโกะ (Kawaguchi-ko Music forest Museum) เป็นสวนสไตล์ยุโรปที่ตกแต่งด้วยดอกไม้และอาคารสไตล์ยุโรปที่หรูหรา มีฉากหลังเป็นคุณฟูจิซัง ไฮไลท์ของที่นี่ก็คือต้นคริสตัลขนาดยักษ์ และทุกๆ ชั่วโมงก็จะมีน้ำพุดนตรี เดินชมทั่วๆ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงก็น่าจะครบถ้วนค่ะ
ส่วนลด : ลงรถบัสแล้วให้หยิบโบรชัวร์จะมีส่วนลดให้ วางไว้ที่โต๊ะข้างม้านั่ง แต่เราได้ส่วนลดจากที่พัก ทางเจ้าของ Guest House ให้มาค่ะ เพราะได้พุดคุยกับเค้าว่าเราจะไปเที่ยวที่นี่ หรือปริ้นจากหน้าจอนี้ได้เลยค่ะ
การเดินทางจากโตเกียว
การเดินทางโดยรถประจำทาง: ขึ้นรถโดยสารประจำทาง Chuo Highway Busจากสถานีชินจูกุ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 105 นาทีก็จะมาถึงสถานีรถไฟคาวากุจิโกะ ลงจากรถประจำทางที่สถานีนี้แล้วขึ้นรถโดยสารประจำทางท้องถิ่นสายสีเเดงบริเวณป้ายหมายเลข 1 นั่งต่อไปอีกประมาณ 24 นาที ก็จะถึงยังป่าแห่งเสียงดนตรีคาวากุจิโกะ
การเดินทางโดยรถไฟ: ขึ้นรถไฟสาย JR. Chuo Line จากสถานีชินจูกุ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 67 นาทีก็จะมาถึงสถานีสถานี Otsuki ให้ลงเพื่อเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟสาย Fukikyuko ที่สถานีนี้ ใช้เวลาเดินทางต่อประมาณ 55นาทีก็จะถึงสถานีคาวากุจิโกะ ลงจากรถประจำทางที่สถานีนี้แล้วขึ้นรถโดยสารประจำทางท้องถิ่นสายสีเเดงบริเวณป้ายหมายเลข 1 นั่งต่อไปอีกประมาณ 24 นาที ก็จะถึงยังป่าแห่งเสียงดนตรีคาวากุจิโกะ
หน้าตารถโดยสารประจำทางท้องถิ่นสายสีแดงที่วิ่งจากสถานีคาวากุจิโกะ (รถประจำทางสายสีเขียว และสายสีฟ้าไม่จอดป้ายหน้าพิพิธภัณฑ์)
Kawaguchiko Music Forest Museum
ที่ตั้ง: 3077−20 Kawaguchi, Fujikawaguchiko-machi, Minamitsuru-gun, Yamanashi 401-0304
โทร: +81 555-20-4111
เวลาเปิดปิด: 09.30-18.00 น.
เว็บไซต์: https://kawaguchikomusicforest.jp/
แผนที่:
About the author
RiangSupod
เลขาสาวผู้ชื่นชอบการท่องเที่ยว อาหาร และวัฒนธรรมญี่ปุ่น จบปริญญาตรีจากคณะอักษรศาสตร์-ปริญญาโทรัฐศาสตร์ จุฬาฯ
เคยอาศัยอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น และได้เดินทางไปทำงานและไปท่องเที่ยวที่ญี่ปุ่นบ่อยๆ ทำให้มีเพื่อนทั้งชาวไทยและชาวญี่ปุ่นทุกเพศทุกวัย
ปัจจุบันเป็นเลขานุการผู้บริหารระดับสูงของรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง
คิดถูกใจ