รวบรวมสถานที่ชมดอกไม้ไฟในโตเกียวที่ไม่อยากให้คุณพลาดในปี 2018

รวบรวมสถานที่ชมดอกไม้ไฟในโตเกียวที่ไม่อยากให้คุณพลาดในปี 2018

หลายคนอาจจะคิดว่ามาญี่ปุ่นหน้าร้อนมาทำอะไรกันนะ ญี่ปุ่นจะร้อนเหมือนไทยหรือเปล่า เป็นคำถามที่หลายคนชอบคิดถึงเมื่อต้องมาเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงหน้าร้อน แต่หารู้ไม่ว่าญี่ปุ่นในช่วงหน้าร้อนนี่แหละมีอะไรน่าเที่ยวและน่าค้นหาอีกมากมาย วันนี้เราจะพาคุณใส่ชุดยูกาตะแล้วลัดเลาะไปดูดอกไม้ไฟตามสถานที่ต่างๆในโตเกียวกัน ถ้าเตรียมชุดพร้อมแล้วก็ Let’s go

Credit: ผู้เขียน

สถานที่แรกคือ แม่น้ำSumida เป็นสถานที่ชมดอกไม้ไฟที่ใกล้โตเกียวที่สุดแล้ว เพราะจัดที่แม่น้ำสุมิดะเลย เราจะได้ชมดอกไม้ไฟไปพร้อมๆกับมีฉากหลังเป็นโตเกียวสกายทรี แต่เดี๋ยวก่อนด้วยความที่มันเป็นจุดชมดอกไม้ไฟที่อยู่ใจกลางโตเกียว ฉะนั้นก็ต้องยอมทำใจรับกับความเบียดเสียดของฝูงชนด้วย ขอให้เตรียมใจเตรียมร่างกายมาให้พร้อม เพราะคุณต้องรับมือกับการเบียดเสียดกับฝูงชนเป็นแสนๆ เมื่อถึงเวลาจุดดอกไม้ไฟทางคุณตำรวจจะทยอยปล่อยขบวนฝูงชนข้ามสะพานไปทีละขบวน ฉะนั้นทุกคนที่มาชมดอกไม้ไฟที่นี่จะเห็นดอกไม้ไฟเต็มๆตาก็ตอนอยู่บนสะพาน ซึ่งจะหยุดยืนแช่ถ่ายรูปไม่ได้เพราะต้องเดินตลอดเวลา ถ้าหยุดยืนถ่ายรูปนานๆจะมีคุณตำรวจเป่านกหวีดไล่ และเมื่อข้ามไปอีกฝั่งของสะพานแล้วก็สามารถหาที่นั่งตามถนนหนทางนั่งดูดอกไม้ไฟต่อจนจบได้เลยเพราะเค้าปิดถนนทั้งสายอยู่แล้ว แต่ตรงนี้อาจจะต้องชมดอกไม้ไฟโดยมีตึกบังซักนิด ก็ไปหาเบียร์เย็นๆ Ramune หวานๆซ่าๆมาดื่มให้หายร้อนให้ใจเย็นลงแล้วชมดอกไม้ไฟกันต่อเลยจ้า ปีนี้เขาจัดงานกันวันเสาร์ที่ 28 กรกฏาคม ตั้งแต่เวลา 19.00-20.30 จุดจำนวน 20,000 ลูก

Credit: ผู้เขียน

สถานีต่อไปที่เราจะไปดูดอกไม้ไฟคือสถานี Shibamata ชื่อสถานีอาจจะฟังดูไม่คุ้นหูหรือถ้าใครรู้จักอาจจะบอกว่าไกลไปหน่อย แต่สถานีนี้นอกจากจะมาดูดอกไม้ไฟแล้ว รอบๆสถานียังเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกด้วย คือถ้าเดินออกมาจากสถานีปุ๊บจะเจอกับย่านร้านค้าเก่าแก่ เหมาะสุดๆกับคู่รักหนุ่มสาวที่ใส่ชุดยูกาตะมาดูดอกไม้ไฟ เพราะถ่ายรูปออกมาแล้วยังกับมา Pre-wedding เลยเชียว

โดยปีนี้จัดในชื่อของงาน 第52回葛飾納涼花火大会 Katsushika Noryo Hanabi Taikai ดูรายละเอียดงานได้ที่นี่

มีที่นั่งเสียเงินด้วยนะถ้าใครขี้เกียจไปจองที่เบียดเสียดกับคนอื่น แต่ราคาก็เอาเรื่องนิดหน่อยอีกทั้งมีแต่ภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น ปีนี้จัดงานวันอังคารที่ 24 กรกฏาคม กับพลุจำนวน 13,000 ลูก ตั้งแต่ 19.20 จนถึง 20.20 น.

Credit: ผู้เขียน
Credit: ผู้เขียน

สำหรับอีกหนึ่งสถานที่จัดดอกไม้ไฟที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กันคือ งานที่ Adachi ใช้ชื่องานว่า第40回足立の花火สามารถเดินทางด้วยรถไฟแล้วไปลงที่สถานี Kitasenju ซึ่งเป็นสถานีที่มีสายรถไฟให้เลือกเดินทางได้หลายสาย เช่น Chiyoda line Joban line หรือ Hibiya line ออกจากสถานีมาแล้วเดินต่ออีกซักเล็กน้อยก็จะถึงสถานที่จัดงานริมแม่น้ำ Arakawa river

Credit: ผู้เขียน

ถ้าอยากได้ที่นั่งดีๆเห็นดอกไม้ไฟชัดๆก็ต้องรีบไปจับจองที่กันหน่อย อาจจะส่งเพื่อนไปปูเสื่อจองที่ตั้งแต่กลางวันเลยก็ได้ พอถึงเวลาใกล้เริ่มงานก็ซื้ออาหารเข้าไปกิน กินไปดูดอกไม้ไฟไปฟินเชียวแหละ แต่ต้องขอเตือนนิดนึงว่าถ้าใกล้เวลาเริ่มงานรถไฟอาจจะแออัดเล็กน้อย และผู้ชมที่มาชมดอกไม้ก็จะเบียดเสียดกันออกมาจากสถานี แนะนำให้เผื่อเวลามาซักเล็กน้อย และตอนขากลับหลังจากดูดอกไม้ไฟเสร็จก็อาจจะไม่ต้องรีบกลับมาก นั่งเล่นถ่ายรูปเล่นไปซักพักรอคนซาๆค่อยกลับก็ทันรถไฟจ้า งานจัดวันเสาร์ที่ 21 กรกฏาคม เวลา 19.20 – 20.30 จำนวน 13,600 ลูก ดูกันยาวๆหนึ่งชั่วโมงเต็มๆ

Credit: ผู้เขียน
ดูบทความที่เกี่ยวข้อง

About the author

Minripae

ดูบทความผู้เขียน

จากบัณฑิตนิเทศศาสตร์สู่นักเรียนทุนส่งหนังสือพิมพ์ในประเทศญี่ปุ่น ประสบการณ์กว่า3ปีกับการเรียนและทำงานไปพร้อมๆกัน ปัจจุบันผันตัวมาเริ่มต้นชีวิตแม่บ้านญี่ปุ่น มีเพจท่องเที่ยวร่วมกับเพื่อนบนเฟสบุ๊คชื่อ go there / ไปดิรอไร

https://www.facebook.com/paidigothere/

ถูกใจ แชร์เลย

บทความที่เกี่ยวข้อง

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำEpson ที่ไม่ได้มีดีแค่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ

TOKYO RAMEN KOKUGIKAN MAI แหล่งรวมสุดยอดราเมนที่ห้างอะควาซิตี้ (Aqua City) โอไดบะ (Odiaba)

อูจิมัทฉะ (Uji Matcha) ชานมไข่มุกแบบอุ่นๆ จากใบชาคุณภาพดีมีมาให้ชิมแล้วที่ร้าน comma tea

ทานซูชิข้าวปั้นหน้าปลาทูน่าแท้ที่ไม่อั้นให้พุงกางทุกวันอังคารที่ชินจูกุ

เดินเล่น ช้อปปิ้ง ตระเวนกินดื่มยามค่ำคืนที่ตรอกฮาโมนิก้า โยโกะโช (Harmonica Yokocho)

มีเวลา 3 ชั่วโมงก็สามารถเรียนทำซูชิสนุกๆ กับเชฟญี่ปุ่นแฝดในโตเกียวได้นะ

แวะทานเมนูเนื้ออร่อยๆ ณ แหล่งซับคัลเจอร์ที่ร้าน “อิจินิซัง”

ทานอาหารไทยในต่างแดน แวะมาที่นี่เลย! ร้านอาหารไทยและคาเฟ่ “อมูริตา” ในย่านคิจิโจจิแห่งโตเกียว

ชมงานแสดงศิลปะอลังการของฝูงปลาที่ Art Aquarium