“โทโฮคุ”  ภูมิภาคที่เปี่ยมล้นไปด้วยมนต์เสน่ห์จนลืมไปว่าเคยประสบภัยพิบัติครั้งใหญ่

“โทโฮคุ”  ภูมิภาคที่เปี่ยมล้นไปด้วยมนต์เสน่ห์จนลืมไปว่าเคยประสบภัยพิบัติครั้งใหญ่

Credit: ผู้เขียน

คุณรู้จักภูมิภาคโทโฮคุของญี่ปุ่นมั้ยคะ  คุณอาจจะเคยได้ยินเรื่องราวของภูมิภาคโทโฮคุมาบ้าง  จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น  เมื่อวันที่ 11 เดือนมีนาคม  2011 ได้เกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่นอกชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก  ส่งผลให้เกิดคลื่นสึนามิลูกใหญ่ตามมา ประชาชนรวมไปถึงบ้านเรือนต่างได้รับความเสียหายแทบจะประเมินค่าไม่ได้  เฉพาะภูมิภาคโทโฮคุนั้นได้รับความเสียหายอย่างใหญ่หลวง ส่งผลต่อสภาพเศรษฐกิจ  การประมง การเกษตรกรรมและการท่องเที่ยว ในส่วนการท่องเที่ยวของโทโฮคุนั้นได้รับผลกระทบหนักสุด  ภาพลักษณ์ของโทโฮคุแย่ลง  ถึงขนาดว่าไม่ใช่พื้นที่ประสบภัยพิบัติโดยตรง แต่จำนวนนักท่องเที่ยวก็ลดลดอย่างมาก โทโฮคุในวันนี้หลังจากผ่านเรื่องราวยากลำบากมาหลายปี  เปลี่ยนไปจนทำให้การไปเยือนโทโฮคุในครั้งนี้น่าจดจำกว่าการเดินทางครั้งไหนๆ

Credit: ผู้เขียน

ผู้เขียนเองได้มีโอกาสเดินทางไปเยือนโทโฮคุ (Pacific Coast) ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา  ถ้าจะพูดตามตรงก็คือก่อนเดินทางไปโทโฮคุมีความกังวลเล็กน้อยที่จะเข้าไปในพื้นที่ที่เคยประสบภัยแผ่นดินไหว  ในประเทศไทยเองก็มักจะเห็นข่าวเชิงลบของโทโฮคุอยู่หลายครั้ง แต่เมื่อได้ไปเห็นโทโฮคุครั้งแรก ความสวยงามของธรรมชาติ  อาหารการกิน และความอบอุ่นของผู้คนท้องถิ่นทำให้ผู้เขียนรู้สึกประทับใจ โดยเฉพาะอาหารการกินในภูมิภาคโทโฮคุนั้นมีความอร่อยและมีเอกลักษณ์เป็นพิเศษ  ด้วยโทโฮคุทั้ง 6 จังหวัดมีทั้งชายฝั่งทะเลญี่ปุ่นและชายฝั่งทะเลแปซิฟิก และในภายใน 6 จังหวัดนั้นจึงถูกรู้จักในฐานะพื้นที่ประมงที่ใหญ่ติดอันดับ 1 ใน 3 ของโลก และอาหารท้องถิ่นหลายๆชนิดก็ทำมาจากอาหารทะเล

Credit: ผู้เขียน
Credit: ผู้เขียน

ที่จังหวัดอาโอโมรินั้นสามารถสนุกเพลิดเพลินไปกับการเลือกรับประทานข้าวหน้าปลาดิบที่ตัวเองโปรดปรานหรือที่เรียกว่า Nokke-don  โดยสามารถรับประทานได้ที่ตลาดปลาใกล้ๆสถานีอาโอโมริ นอกจาก Nokke-don แล้วจังหวัดอาโอโมริยังมีชื่อเสียงในเรื่องของแอปเปิ้ลที่รสชาดดีที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย  โดยสามารถหาซื้อผลิตภัณฑ์แปรรูปจากแอปเปิ้ลได้ที่ A-Factory สถานที่รวมรวมของฝากของจังหวัดอาโอโมริ เมืองที่มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของตัวเองมาอย่างยาวนานอย่างอาโอโมริจึงมีเทศกาลที่มีชื่อเสียงเช่น  เทศกาลฤดูร้อน Nebuta Festival ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศให้เดินทางไปชมอย่างล้นหลาม Nebuta Festival จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในเดือนสิงหาคม แต่ถ้าไปที่ Nebuta Museum Wa Rasse  ก็สามารถชม Nebuta ได้ตลอดทั้งปี  เรียกได้ว่าถ้าอยากสัมผัสความเป็นญี่ปุ่นทุกๆด้านต้องมาที่โทโฮคุเท่านั้น

Credit: ผู้เขียน

ผู้เขียนได้มีโอกาสนั่งรถไฟสาย Sanrikyu ในจังหวัดอิวาเตะ  ซึ่งได้เริ่มเปิดให้บริการอีกครั้งหลังจากหยุดให้บริการไปนานถึง 3 ปี  ซึ่งที่นี่เป็นรถไฟที่เคลื่อนที่ไปพร้อมกับฟังเรื่องราวอันโหดร้ายของแผ่นดินไหว  เพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักถึงความสำคัญของการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับภัยธรรมชาติ

Credit: ผู้เขียน

ที่ Ryusendo  มีทะเลสาบใต้ดินอันสวยงามจนถูกขนานนามว่า  “ดราก้อนบูล” และชายหาด Jodogahama ที่สามารถนั่งเรือชมทิวทัศน์ความงามของชายฝั่งพร้อมกับให้อาหารนกนางนวล  โดยเรือที่ให้บริการเป็นเรือลำเดียวที่รอดจากเหตุการณ์สึนามิพัดเข้าชายฝั่ง
และในจังหวัดมิยากิสามารถชมความสวยงามของชายฝั่ง Matsushima และ Minamisanriku  ส่วนฟูกูชิม่าก็มี Aquamarine Fukushima ที่รวบรวมสัตว์น้ำหลากหลายประเภทให้ได้ชมกัน

Credit: ผู้เขียน

และในเดือนกันยายน  Tourism Expo Japan 2018  ได้ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่โดยความร่วมมือจากทั้งภาครัฐและเอกชน  โดย Tourism Expo Japan 2018 เป็นงานส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชียที่จัดขึ้นทุกปี  โดยภูมิภาคโทโฮคุ (Pacific Coast) ก็ได้ออกบูธประชาสัมพันธ์ เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวได้ทราบว่าโทโฮคุในวันนี้พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยสิ่งที่น่าสนใจมากมาย  ภายในงานคุณไมเคิล  หนึ่งในชาวต่างชาติที่ได้รับเชิญให้มาท่องเที่ยวที่โทโฮคุ  ได้รับเกียรติให้ขึ้นพูดสปีชเกี่ยวกับเสน่ห์ของโทโฮคุจากมุมมองชาวต่างชาติ

Credit: ผู้เขียน

แม้ว่าประเทศญี่ปุ่นจะเป็นประเทศที่เสี่ยงต่อการเกิดแผ่นดินไหว  แต่ก็มีการเตรียมพร้อมสำหรับภัยพิบัติทุกประเภทอยู่เป็นประจำ อย่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับโทโฮคุ  เพราะมีการเตรียมพร้อมรับมือกับภัยพิบัติอยู่เป็นประจำจึงทำให้เกิดความเสียหายน้อย และการช่วยเหลือสามารถเข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว  แต่ก็ยังคาดการณ์กันว่าจะเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ขึ้นอีก และเพื่อเป็นการตระหนักถึงความสำคัญของการป้องกันภัยจึงมีการจัดงานต่างๆ ตัวอย่างเช่น  Bosai Kokutai เป็นงานที่ไม่ว่าจะเพศไหนหรืออายุเท่าไหร่ก็สามารถเรียนรู้เกี่ยวกับการป้องกันภัยพิบัติได้ ภายในงานได้มีการนำรถดับเพลิง รถกระเช้าหรือรถที่นำออกไปปฏิบัติใช้งานจริงเวลาเกิดภัยพิบัติ  นำมาจัดแสดงให้ผู้เข้าร่วมงานสามารถทดลองนั่งและเรียนรู้ได้เสมือนจริง เด็กญี่ปุ่นจึงถูกปลูกฝังเรื่องการป้องกันภัยพิบัติและการเอาตัวรอดเมื่อเกิดภัยพิบัติต่างๆมาตั้งแต่ยังเด็กๆ นอกจากการทำจริงทดลองจากประสบการณ์จริงแล้ว  ภายในงานยังมีการเสวนาเรื่องการท่องเที่ยวเชิงฟื้นฟูเมืองอีกด้วย

Credit: ผู้เขียน
Credit: ผู้เขียน

ภายในงาน “ Bosai Kokutai” ยังมีการเสวนาเกี่ยวกับโทโฮคุ (Pacific Coast) ว่าปัจจุบันมีการฟื้นฟูหลังประสบภัยพิบัติอย่างไร  สามารถนำเอาประสบการณ์เกี่ยวกับภัยพิบัติแผ่นดินไหวในอดีตมาใช้ได้หรือไม่ และต่อจากนี้จะมีวิธีเอาประสบการณ์ตรงนี้ไปใช้ได้ในอนาคตเมื่อเกิดภัยพิบัติอย่างไร  เสวนาโดยองค์กรส่งเสริมการท่องเที่ยวโทโฮคุ, Minami Sanriku Hotel Kanyo  โรงแรมที่ได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวในปี 2011, คุณไมเคิล สื่อต่างประเทศที่ได้รับเชิญให้มาเที่ยวที่โทโฮคุและสุดท้ายจากมหาวิทยาลัยโทโฮคุ
ในฐานะที่ได้รับฟังเรื่องราวจากผู้ได้รับประสบการณ์โดยตรง  แผ่นดินไหวหรือสึนามิล้วนแต่เป็นสิ่งที่เลวร้าย รู้สึกได้ว่าผู้ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติครั้งนี้ได้พบกับประสบการณ์ที่สะเทือนใจอย่างมาก

Tourism Expo Japan 2018  และ Bosai Kokutai สองอีเว้นท์ที่ผู้เขียนได้เข้าร่วมที่ผ่านมา  นอกจากจะทำให้ทราบถึงสถานการณ์ของความเสียหายและการฟื้นฟูหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหว, สึนามิ  ยังสัมผัสได้ถึงข้อมูลของโทโฮคุ (Pacific Coast) ว่ามีสถานที่ท่องเที่ยวที่ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักรวมไปถึงเสน่ห์ด้านอื่นๆอีกด้วย

Credit: ผู้เขียน

ผู้เขียนในฐานะที่ได้รับเชิญให้ไปท่องเที่ยวที่โทโฮคุ (Pacific Coast)  รู้สึกว่าข้อมูลที่ถูกต้องของโทโฮคุในปัจจุบันยังส่งไปไม่ถึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ  ซึ่งปัจจุบันโทโฮคุ (Pacific Coast) นั้นสามารถเข้ามาท่องเที่ยวได้อย่างปลอดภัย ถ้านักท่องเที่ยวได้เดินทางมาท่องเที่ยวที่โทโฮคุภายหลังการฟื้นฟูอีกครั้ง   ซึ่งสิ่งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของการถ่ายทอดมนต์เสน่ห์แห่งพื้นที่แถบชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกของภูมิภาคโทโฮคุ(Tohoku Pacific Coast)

ชิมอาหารท้องถิ่นที่ปรุงด้วยอาหารทะเลสดๆ  หรือจะเพลิดเพลินไปกับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่สวยงาม  และฟังเรื่องราวจากผู้คนท้องถิ่นซึ่งน่าจะเป็นประสบการณ์ที่ดีถ้าได้เรียนรู้ผ่านภัยพิบัติทางธรรมชาติ

เมืองที่หล่อหลอมไปด้วยวัฒนธรรมดั้งเดิมของตัวเอง  พร้อมกับรวบรวมสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติไว้มากมาย  รวมไปถึงในฐานะที่เป็นภูมิภาคหนึ่งที่ย้ำเตือนและบันทึกประสบการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติที่สำคัญ  กรุณามาท่องเที่ยวที่โทโฮคุ (Pacific Coast) ที่เปี่ยมล้นไปด้วยมนต์เสน่ห์เพื่อให้ได้เห็นกับตาตัวเอง

Credit: ผู้เขียน

เป็นอย่างไรบ้างคะ  คุณผู้อ่านมีความสนใจที่จะมาเที่ยวที่โทโฮคุ (Pacific Coast) ขึ้นบ้างมั้ยคะ  โทโฮคุเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วนมนต์เสน่ห์ ที่จะทำให้การเดินทางของคุณเปี่ยมไปด้วยความประทับใจ

โทโฮคุภายหลังการฟื้นฟูกำลังรอคอยนักท่องเที่ยวให้กลับไปเยือนอีกครั้ง

ท่านที่สนใจรายละเอียดเกี่ยวกับพื้นที่แถบชายฝั่งทะเลแปซิฟิกของภูมิภาคโทโฮคุ สามารถดูรายละเอียดได้ที่นี่

ดูบทความที่เกี่ยวข้อง

About the author

Minripae

ดูบทความผู้เขียน

จากบัณฑิตนิเทศศาสตร์สู่นักเรียนทุนส่งหนังสือพิมพ์ในประเทศญี่ปุ่น ประสบการณ์กว่า3ปีกับการเรียนและทำงานไปพร้อมๆกัน ปัจจุบันผันตัวมาเริ่มต้นชีวิตแม่บ้านญี่ปุ่น มีเพจท่องเที่ยวร่วมกับเพื่อนบนเฟสบุ๊คชื่อ go there / ไปดิรอไร

https://www.facebook.com/paidigothere/

ถูกใจ แชร์เลย

บทความที่เกี่ยวข้อง

พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยีโตโยต้า “Toyota Commemorative Museum of Industry and Technology” (トヨタ産業技術記念館) ในเมืองนาโกย่า

“โดโกะออนเซน ฮอนคัง” โรงอาบน้ำเก่าแก่ต้นแบบอนิเมชั่น “Spirited Away”

Unseen Japan: สวนสาธารณะไทโย (Taiyo Park) กับปราสาทนอยชวานสไตน์เสมือนจริง

แต่งชุดไทยเที่ยวญี่ปุ่นที่สวนไคราคุเอน:สวยสุดติด 1 ใน 3 ของประเทศญี่ปุ่น

ชิวๆ กับมื้อเที่ยง จิบชาและเพลิดเพลินกับบรรยากาศแบบทรี เฮาส์ ที่คาเฟ่ Nanjya Monjya

“MUJI to GO CENTRAIR” : มูจิในสนามบิน Chubu Centrair International Airport

รวมสามสุดยอดของญี่ปุ่น…ฟูจิซัง ซากุระ และเจดีย์ชูเรโตะ

คาเฟ่เงียบๆ ที่ไม่มีพนักงานบนเกาะโอกินาว่า ที่พักผ่อนทางความคิดสำหรับคนรักความสงบ

เช่าสตูดิโอพร้อมฉากน่ารักมุ้งมิ้ง เปลี่ยนสัตว์เลี้ยงหรือตุ๊กตาให้กลายเป็นโมเดลในแบบที่ตัวเองชอบ